เอเอฟพี - กาตาร์ในวันจันทร์ (12 มิ.ย.) ประณามมาตรการคว่ำบาตรต่อพวกเขาที่กำหนดโดยซาอุดีอาระเบียและพันธมิตรอาหรับ ว่า “ไม่ยุติธรรม” และ “ไม่ชอบด้วยกฎหมาย” ขณะที่สายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ส ร้องขอสหประชาชาติให้ประกาศว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นการละเมิดอนุสัญญาว่าด้วยการบินพลเรือนระหว่างประเทศ
“อะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับกิจการต่างประเทศของเรา ไม่ว่าใครก็ไม่มีสิทธิ์โต้เถียง” ชีค โมฮัมเหม็ด บิน อับดุลเราะห์มาน อัล-ทานี รัฐมนตรีต่างประเทศกาตาร์ บอกกับพวกผู้สื่อข่าวระหว่างเยือนปารีส
นอกจากนี้แล้วเขาเรียกร้องให้มีการเจรจาเพื่อเคลียร์มูลเหตุของข้อกล่าวหาที่ว่ากาตาร์สนับสนุนพวกกลุ่มหัวรุนแรง “กาตาร์มีความตั้งใจนั่งลงและเจรจากันในเรื่องอะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของอ่าวเปอร์เซีย”
ซาอุดีอาระเบีย, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และบาห์เรน เป็นหนึ่งในหลายประเทศซึ่งเมื่อสัปดาห์ที่ล้ว ประกาศระงับความสัมพันธ์ทุกอย่างกับกาตาร์ โดยกล่าวหาโดฮาว่าสนับสนุนพวกกลุ่มหัวรุนแรงและมีความใกล้ชิดทางการเมืองกับชีอะห์อิหร่าน อย่างไรก็ตามกาตาร์ปฏิเสธคำกล่าวหานี้
ที่ลอนดอน บอริส จอห์นสัน รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษเผยว่า ในสัปดาห์นี้เขาจะพบปะกับรัฐมนตรีต่างประเทศของซาอุดีอาระเบีย, คูเวต และยูเออี ซึ่งจะใช้โอกาสนี้ร้องขอทุกฝ่ายอยู่ในความสงบ
ในขณะเดียวกัน เขาได้กล่าวชมกาตาร์ที่แสดงถึงความอดทนอดกลั้นท่ามกลางวิกฤต พร้อมเรียกร้องว่า “ในการค้นหาทางออก ผมวิงวอนกาตาร์ใส่ใจและจริงจังกับความกังวลของเพื่อนบ้าน”
“กาตาร์คือพันธมิตรของสหราชอาณาจักรในการต่อสู้กับก่อการร้าย แต่พวกเขามีความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการมากกว่าที่เป็นอยู่สำหรับจัดการกับพวกสนับสนุนกลุ่มหัวรุนแรง ยกระดับมาตรการต่างๆ ที่ดำเนินการก่อนหน้านี้ในการจัดการกับพวกที่สนับสนุนทางการเงินแก่กลุ่มเหล่านั้น” เขากล่าว
ชีค โมฮัมเหม็ด ซึ่งอยู่ระหว่างทัวร์ยุโรปเพื่อระดมเสียงสนับสนุนกาตาร์ บอกว่าประเทศของเขามืดแปดด้านว่าอะไรคือต้นตอความเจ็บใจที่ทำให้ชาติอื่นๆ ตัดความสัมพันธ์กับพวกเขา “มันไม่ใช่อิหร่านหรืออัลญะซีเราะห์ เราไม่มีเงื่อนงำเหตุผลที่แท้จริงเลย”
อย่างไรก็ตาม เขาสนับสนุนความเคลื่อนไหวของคูเวต ที่เสนอตัวเป็นคนกลางแก้ไขข้อพิพาท ภายใต้ความช่วยเหลือจากประเทศพันธมิตรอย่างเช่นสหรัฐฯ
กาตาร์ เป็นที่ตั้งฐานทัพอากาศใหญ่สุดของสหรัฐฯในตะวันออกกลาง ทำให้พวกเขาเป็นพันธมิตรสำคัญของภารกิจต่อต้านไอเอสในซีเรียและอิรักของพันธมิตรนานาชาติที่นำโดยอเมริกา
4 ชาติอาหรับได้ระงับเที่ยวบินทั้งขาเข้าและขาออกจากโดฮา และปิดการเชื่อมโยงทางทะเลและทางอากาศกับกาตาร์ ในขณะที่ซาอุดีอาระเบียยังปิดการเชื่อมโยงกับกาตาร์เพิ่มอีกทาง นั่นคือตามแนวชายแดนภาคพื้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อธุรกิจส่งออกอาหารของกาตาร์
ในโดฮา สายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ส เรียกร้ององค์กรการบินพลเรือนของสหระชาชาติ ประกาศให้การคว่ำบาตรของเหล่าประเทศอ่าวเปอร์เซียเป็นสิ่ง “ผิดกฎหมาย” และละเมิดอนุสัญญาว่าด้วยการบินพลเรือนระหว่างประเทศปี 1944 พร้อมวิงวอนองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศเข้าแทรกแซง