xs
xsm
sm
md
lg

คาดสองที่มั่นในอิรัก-ซีเรียใกล้แตก ผู้นำไอเอสต้องหนีเตลิดเปิดเปิง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


รอยเตอร์ – เจ้าหน้าที่และผู้เชี่ยวชาญลงความเห็นกันว่า "อาบู บักร์ อัล-บักดาดี" ผู้นำของกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) กำลังจะสูญเสียที่มั่นสำคัญสองแห่งในอิรัก-ซีเรีย และต้องหนีหัวซุกหัวซุน แต่คาดว่าคงต้องใช้เวลาอีกเป็นปีกว่าจะจับเป็นหรือสังหารหัวหน้ากลุ่มก่อการร้ายไอเอสรายนี้ได้

ปัจจุบัน นักรบกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ใกล้ปราชัยในเมืองหลวงทั้งสองแห่งที่อุปโลกน์ขึ้นมาคือ เมืองโมซุลในอิรัก และเมืองรอกเกาะห์ในซีเรีย ซึ่งเจ้าหน้าที่ระบุว่า "บักดาดี" ผู้นำไอเอสกบดานอยู่ในทะเลทรายที่มีอาณาเขตหลายพันตารางไมล์ระหว่างทั้งสองเมือง

ลาฮูร์ ทาลาบานี หัวหน้าหน่วยต่อต้านการก่อการร้ายของรัฐบาลเขตปกครองตนเองเคอร์ดิสถาน เชื่อว่า บักดาดีไม่สามารถซ่อนตัวได้ตลอดไป ต้องถูกจับเป็นหรือจับตายในท้ายที่สุด ทว่าอาจต้องรอกันเป็นปี

ไฮชาม อัล ฮาชิมิ ที่ปรึกษาของรัฐบาลต่างๆ ในตะวันออกกลางเกี่ยวกับไอเอส ชี้ว่า หนึ่งในสิ่งที่บักดาดีกังวลก็คือ คนใกล้ชิดอาจทรยศ เนื่องจากอเมริกาตั้งรางวัลนำจับสูงถึง 25 ล้านดอลลาร์

ฮาชิมิสำทับว่า เมื่อไม่มีดินแดนรัฐอิสลาม บักดาดีก็ไม่สามารถยกตนเป็นกาหลิบได้อีกต่อไป แถมยังเป็นบุคคลที่หลบหนีการจับกุม และจำนวนสาวกหดหายลงเรื่อยๆ

คลิปล่าสุดที่เปิดเผยต่อสาธารณะเป็นภาพบักดาดีสวมชุดผู้สอนศาสนาสีดำ ประกาศสถาปนาตัวเองเป็นกาหลิบในมัสยิดแกรนด์ อัล-นูรีในโมซุลเมื่อปี 2014

บักดาดี วัย 46 ปี เป็นชาวอิรัก ชื่อเดิมคือ อิบราฮิม อัล-ซามาร์ไร เขาแยกตัวจากเครือข่ายอัล-กออิดะห์ในปี 2013 หรือสองปีหลังจาก "อุซามะห์ บินลาดิน" ผู้นำกลุ่มก่อการร้ายนี้ถูกจับและสังหาร

เขาเติบโตในครอบครัวเคร่งศาสนา เรียนวิชาเทววิทยาอิสลามในแบกแดด และเข้าร่วมกลุ่มนักรบญิฮาด "ซาลาฟี" ในปี 2003 ซึ่งเป็นปีที่อเมริกาบุกอิรัก บักดาดีถูกคุมขังนานหนึ่งปี ก่อนปล่อยตัวออกมาเนื่องจากสหรัฐฯ เชื่อว่าเขาไม่ใช่เป้าหมายทางทหาร

โครงการรางวัลเพื่อการต่อต้านการก่อการร้ายของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ เป็นผู้ตั้งรางวัลนำจับบักดาดี 25 ล้านดอลลาร์ เท่ากับค่าหัวบินลาดิน , อดีตประธานาธิบดี ซัดดัม ฮุสเซน รวมถึง ไอมาน อัล-ซาวาฮีรี ผู้สืบทอดตำแหน่งของบินลาดิน

แม้ทั้งซัดดัมและบินลาดิน ไม่ได้ถูกคนใกล้ชิดทรยศ แต่รางวัลนำจับก็ทำให้การเคลื่อนไหวและการสื่อสารของทั้งคู่ยุ่งยากซับซ้อนขึ้น

เช่นเดียวกัน ฟาเดล อาบู รากีฟ ผู้เชี่ยวชาญด้านลัทธิหัวรุนแรงในแบกแดด ชี้ว่า รางวัลนำจับทำให้บักดาดีกังวลและเครียด หัวหน้ากลุ่มก่อการร้ายนี้ยังไม่เคยปักหลักอยู่ที่ใดเกิน 72 ชั่วโมง

ทาลาบานีเห็นด้วยว่า จำนวนคนสนิทที่บักดาดีไว้ใจลดลงอย่างชัดเจน

ในเทปการปลุกระดมของบักดาดีที่มีการเผยแพร่ล่าสุดเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว หรือสองสัปดาห์หลังจากกองทัพอิรักที่ได้รับการสนับสนุนจากแนวร่วมพันธมิตรของอเมริกา เปิดฉากชิงเมืองโมซุลคืนนั้น บักดาดีเรียกร้องให้สาวกต่อสู้กับ “คนนอกศาสนา” และทำให้ศัตรู “หลั่งเลือดราวสายน้ำ”

เจ้าหน้าที่อิรักและอเมริกาเชื่อว่า บักดาดีปล่อยให้ลูกน้องเดนตายรับหน้าที่บัญชาการรบในโมซุลและร็อกเกาะแทน ส่วนตัวเองมุ่งมั่นกับการหลบหนี และขณะนี้ ไม่สามารถยืนยันได้ว่า เขาซ่อนตัวอยู่ที่ไหน

บักดาดีไม่ใช้โทรศัพท์ และมีผู้ส่งสารที่ไว้วางใจเพียงไม่กี่คนเป็นตัวกลางในการสื่อสารกับผู้ช่วยสำคัญ 2 คนคือ ไอยาด อัล-โอไบดี รัฐมนตรีกลาโหม และอายัด อัล-จูไมลี ผู้รับผิดชอบกิจการด้านความมั่นคง อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 1 เมษายน มีรายงานที่ไม่ได้รับการยืนยันทางสถานีทีวีของอิรักว่า จูไมลีถูกสังหารแล้ว

สำหรับการเดินทางนั้น บักดาดีใช้รถยนต์ธรรมดาหรือปิ๊กอัพที่ชาวไร่ชาวนาทั่วไปใช้ ขณะซ่อนตัวบริเวณพรมแดนทั้งฝั่งอิรักและซีเรีย โดยมีผู้ติดตามเพียง 3 คนคือคนขับและผู้คุ้มกัน 2 คน

รายงานอย่างเป็นทางการล่าสุดเกี่ยวกับบักดาดีมาจากกองทัพอิรักเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ที่ระบุว่า เครื่องบินเอฟ-16 ของอิรักโจมตีบ้านหลังหนึ่งทางตะวันตกของประเทศ ใกล้ชายแดนติดกับซีเรีย ที่เชื่อว่าบักดาดีใช้เป็นที่ประชุมกับผู้บัญชาการไอเอสคนอื่นๆ

อาบู รากีฟ ระบุว่า โดยรวมแล้วไอเอสเหลือนักรบเพียง 8,000 คน ซึ่งในจำนวนนี้มี 2,000 คนมาจากประเทศอาหรับ ยุโรป รัสเซีย และเอเชียกลาง ซึ่งถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับในยุคที่กลุ่มนี้รุ่งเรือง ซึ่งมีนักรบทั้งในอิรักและซีเรียนับหมื่นคน อย่างไรก็ตาม นักรบที่เหลืออยู่นี้จัดเป็นพวกเดนตายที่ไม่มีอะไรต้องสูญเสีย และใช้วิธีแฝงตัวอยู่ในหมู่พลเรือน ใช้ทุ่นระเบิดและระเบิดเป็นอาวุธโจมตี

รัฐบาลสหรัฐฯ ส่งกองกำลังเฉพาะกิจไล่ล่าบักดาดี ซึ่งรวมถึงกองกำลังปฏิบัติการพิเศษ, สำนักงานข่าวกรองกลาง (ซีไอเอ) และหน่วยงานข่าวกรองอื่นๆ ตลอดทั้งดาวเทียมสอดแนมของสำนักงานข่าวกรองเชิงพื้นที่แห่งชาติ

ถึงกระนั้นทาลาบานี้ก็ชี้ว่า อเมริกาคงต้องใช้ความพยายามมากกว่าเดิมเพื่อล้มล้างอิทธิพลของบักดาดี และแม้สังหารผู้นำไอเอสผู้นี้ได้ แต่อุดมการณ์ของเขา รวมทั้งกลุ่มไอเอสจะยังคงอยู่ เว้นเสียแต่ว่าลัทธิหัวรุนแรงจะถูกถอนรากถอนโคนโดยสิ้นเชิง


กำลังโหลดความคิดเห็น