รอยเตอร์ - ตำรวจสิงคโปร์จับกุมพลเมืองหญิงชาวมุสลิมซึ่งต้องสงสัยว่าฝักใฝ่กลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) และกำลังจะเดินทางไปแต่งงานกับนักรบญิฮาดในซีเรีย โดยเธอถูกรัฐบาลควบคุมตัวภายใต้กฎหมายความมั่นคงซึ่งอนุญาตให้มีการคุมขังผู้ที่อาจเป็นภัยคุกคามต่อรัฐได้นานถึง 2 ปีโดยไม่ต้องไต่สวน
การจับกุมพลเมืองหญิงรายแรกของสิงคโปร์ในข้อหาฝักใฝ่อิสลามิสต์สุดโต่งมีขึ้นท่ามกลางความหวาดกลัวว่าไอเอสกำลังแผ่อิทธิพลเข้ามาในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยสิงคโปร์และประเทศเพื่อนบ้านเริ่มมีการแชร์ข้อมูลข่าวกรองเพื่อสกัดกั้นการโยกย้ายข้ามพรมแดนของกลุ่มติดอาวุธ
รัฐบาลสิงคโปร์ย้ำเตือนมาตั้งแต่ปีที่แล้วว่า เกาะศูนย์กลางการเงินอาเซียนแห่งนี้กำลังตกเป็นเป้าหมายของนักรบอิสลามิสต์ และเรียกร้องให้ประชาชนช่วยกันเฝ้าระวัง
กระทรวงมหาดไทยสิงคโปร์แถลงวานนี้ (12 มิ.ย.) ว่า ชัยเคาะห์ อิซซาห์ ซาห์ราห์ อัล-อันซารี วัย 22 ปี ถูกจับเมื่อเดือนที่แล้ว ขณะพยายามพาลูกเดินทางไปเข้าร่วมกับไอเอสในอิรักและซีเรีย
“เธอสนับสนุนแนวทางไอเอสที่ใช้ความรุนแรงเพื่อสร้างและปกป้องรัฐคอลีฟะห์ที่พวกเขาสถาปนาขึ้น และปรารถนาจะไปอาศัยอยู่ที่นั่น”
อิซซาห์ ซึ่งทำงานเป็นผู้ช่วยในศูนย์รับเลี้ยงเด็กแห่งหนึ่ง เริ่มหลงใหลแนวคิดสุดโต่งตั้งแต่ปี 2013 หลังจากที่ได้เสพสื่อออนไลน์ของไอเอส และแชร์เนื้อหาเหล่านั้นลงบนโซเชียลมีเดีย
กระทรวงมหาดไทยชี้ว่า อิซซาห์ ต้องการหาสามีเป็นนักรบในซีเรีย และแม้ครอบครัวจะพยายามเกลี้ยกล่อมให้เธอล้มเลิกความคิดนี้เสีย แต่ก็ไม่ได้แจ้งให้ทางการทราบ มิหนำซ้ำยังช่วยทำลายหลักฐานเสียอีกด้วย
“เธอยอมรับว่ามองหาโอกาสแต่งงานกับชายที่เป็นมุสลิมซาลาฟี หรือผู้สนับสนุนไอเอส มาตั้งแต่ปี 2015 และตั้งใจจะพาลูกไปลงหลักปักฐานกับเขาคนนั้นในซีเรีย”
“เธอสนับสนุนให้สามีออกไปต่อสู้ร่วมกับไอเอสในซีเรีย โดยเชื่อว่าถ้าสามีตายในสนามรบ เธอจะได้เข้าสวรรค์ในฐานะภรรยาหม้ายของผู้สละชีพเพื่อศาสนา และคงจะแต่งงานใหม่กับนักรบไอเอสคนอื่นๆ ได้ไม่ยาก”
พ่อแม่ของ อิซซาห์ ซึ่งเป็นครูสอนพระคัมภีร์อัลกุรอาน รวมถึงน้องสาวของเธอ เริ่มสังเกตเห็นข้อความสุดโต่งที่เธอโพสต์ลงสื่อออนไลน์ตั้งแต่ปี 2015 แต่หลังจาก อิซซาห์ ถูกตำรวจสอบสวน สมาชิกในครอบครัวคนหนึ่งก็ทำลายหลักฐานชิ้นสำคัญที่บ่งบอกถึงแผนการไปเข้าร่วมกับไอเอส โดยหวังจะช่วยให้เธอรอดเงื้อมมือกฎหมาย
“พวกเขาพยายามหว่านล้อมเธอแต่ก็ไม่สำเร็จ อิซซาห์ยังลุ่มหลงกับแนวทางสุดโต่งต่อไป จนกระทั่งเมื่อเดือน เม.ย. ปีนี้ เธอได้คุยให้เพื่อนคนหนึ่งฟังว่า รัฐบาลสิงคโปร์จับความเคลื่อนไหวของเธอไม่ได้” กระทรวงมหาดไทยระบุ
ทางการสิงคโปร์ยังเตรียมที่จะเอาผิดกับสมาชิกในครอบครัวที่ช่วย อิซซาห์ ทำลายหลักฐาน
กระทรวงมหาดไทยสิงคโปร์ระบุด้วยว่า อิซซาห์ พยายามเปิดบัญชีสื่อสังคมออนไลน์ขึ้นมาใหม่ หลังจากบัญชีเก่าๆ ที่เธอโพสต์เนื้อหาสนับสนุนไอเอสถูกปิดไปหลายครั้ง
อิซซาห์ ถูกคุมขังภายใต้กฎหมายความมั่นคงภายในของสิงคโปร์ (ISA) ซึ่งอนุญาตให้กักขังบุคคลที่อาจเป็นภัยคุกคามต่อประเทศได้นานสูงสุด 2 ปี โดยไม่ต้องมีการตั้งข้อหา
ตั้งแต่ปี 2015 รัฐบาลสิงคโปร์ได้ใช้กฎหมาย ISA สั่งคุมขังหรือจำกัดการเดินทางพลเมืองที่แสดงแนวคิดสุดโต่งแล้วอย่างน้อย 18 ราย ซึ่งนับว่าเพิ่มสูงขึ้นอย่างมากจากสถิติ 11 รายในช่วงปี 2007-2014 โดยผู้ที่ถูกคุมขังจะได้รับคำปรึกษาจากกลุ่มที่เชี่ยวชาญด้านการ “บำบัดฟื้นฟูแนวคิดทางศาสนา”