เอเอฟพี - กลุ่มคนร้ายที่โจมตีผู้คนบริเวณสะพานลอนดอนบริดจ์เมื่อสัปดาห์ที่แล้วได้เตรียมระเบิดขวดน้ำมัน (โมโลตอฟค็อกเทล) เอาไว้ใช้ก่อเหตุเป็นจำนวนมาก และยังตั้งใจจะขับ “รถบรรทุก” ไล่ขยี้คนเดินเท้าแทนการใช้รถตู้ ตำรวจอังกฤษเผยวันนี้ (10 มิ.ย.)
ตำรวจนครบาลลอนดอนแถลงว่า พนักงานสอบสวนพบเครื่องพ่นไฟ 2 ตัว และขวดไวน์อีก 13 ขวดที่ถูกพันด้วยเศษผ้าภายในรถตู้สีขาวที่คนร้ายใช้ก่อเหตุเมื่อค่ำวันเสาร์ที่ 3 มิ.ย. และเชื่อว่าขวดเหล่านี้น่าจะบรรจุของเหลวติดไฟได้
คนร้าย 3 คนซึ่งสวมเสื้อกั๊กระเบิดปลอมได้ขับรถตู้พุ่งชนคนเดินเท้าบนสะพานลอนดอนบริดจ์ จากนั้นจึงลงจากรถและใช้มีดไล่แทงประชาชนในย่านโบโรห์มาร์เก็ตซึ่งอยู่ใกล้ๆ กัน จนมีผู้เสียชีวิตไป 8 ราย บาดเจ็บอีก 48 คน ก่อนที่กลุ่มผู้ก่อเหตุคือ คูรัม ชาซาด บัตต์, รอชีด เรดูอาเน และ ยุสเซฟ ซัคบา จะถูกตำรวจอังกฤษวิสามัญฯ ในเวลาแค่ไม่กี่นาที
ตำรวจเปิดเผยว่า บัตต์ ได้พยายามจ้างรถบรรทุกหนัก 7.5 ตันก่อนจะลงมือแค่ไม่กี่ชั่วโมง แต่ถูกเจ้าของรถปฏิเสธเนื่องจากไม่ได้รับค่าจ้างตามที่ตกลงกัน
“เขาไม่สามารถหารถบรรทุกได้ เนื่องจากการจ่ายเงินไม่สำเร็จ” ดีน เฮย์ดอน ผู้บัญชาการตำรวจต่อต้านก่อการร้าย ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน
“เขาคงจะหันไปใช้แผน B คือหารถตู้มาแทน... และเมื่อผมลองคิดดูว่า บัตต์ พยายามจะก่อเหตุด้วยรถบรรทุกหนัก 7.5 ตัน ผลที่ตามมาคงจะร้ายแรงยิ่งกว่านี้มาก”
เฮย์ดอน ตั้งข้อสังเกตด้วยว่า หากคนร้ายกลุ่มนี้ไม่ถูกตำรวจวิสามัญฯ เสียก่อน พวกเขาอาจเดินกลับไปที่รถตู้ และใช้ระเบิดขวดน้ำมันที่เตรียมมาโจมตีซ้ำอีก “ข้อนี้เราไม่อาจรู้ได้ ผมก็ได้แต่สันนิษฐานเท่านั้น”
ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา นักรบอิสลามิสต์ได้ใช้รถบรรทุกเป็นพาหนะโจมตีผู้คนหลายครั้งในประเทศแถบยุโรป
เมื่อเดือน ก.ค. ปีที่แล้ว ชายชาวตูนิเซียวัย 31 ปี ได้ขับรถบรรทุกหนัก 19 ตันพุ่งเข้าใส่ฝูงชนที่กำลังเฉลิมฉลองวันชาติฝรั่งเศส (Bastille Day) ที่เมืองนีซ จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 86 ราย บาดเจ็บอีกกว่า 400 คน ต่อมาในวันที่ 19 ธ.ค. ปีที่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ทำนองเดียวกัน เมื่อหนุ่มตูนิเซียวัย 24 ปี ขับรถบรรทุกพุ่งชนตลาดคริสต์มาสในกรุงเบอร์ลิน คร่าชีวิต 11 ศพ และทำให้มีผู้บาดเจ็บอีกหลายสิบ
เมื่อวันที่ 22 มี.ค. ปีนี้ ชายคนหนึ่งได้ขับรถยนต์พุ่งชนคนเดินเท้าบนสะพานเวสต์มินสเตอร์ในกรุงลอนดอน จนมีผู้เสียชีวิตไป 5 คน ก่อนจะลงไปใช้มีดแทงตำรวจรัฐสภาดับอีก 1 นาย
เมื่อวานนี้ (9) ตำรวจอังกฤษได้เปิดเผยภาพถ่ายมีดเซรามิกสีชมพูยาว 12 นิ้วที่คนร้ายใช้ไล่แทงคนที่ตลาดโบโรห์ และขอให้ประชาชนช่วยแจ้งข้อมูลเพิ่มเติม
“เราต้องการทราบรายละเอียดเกี่ยวกับมีดที่มีลักษณะพิเศษเหล่านี้ มันถูกผลิตที่ไหน และคนร้ายน่าจะซื้อมันมาจากที่ใด” ตำรวจแถลง
ตำรวจได้เข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่งในเขตบาร์กกิง (Barking) ซึ่งเชื่อว่าเป็นเซฟเฮาส์ที่คนร้ายใช้วางแผนก่อเหตุ โดยมีการพบพระคัมภีร์อัลกุรอานฉบับภาษาอังกฤษถูกเปิดทิ้งไว้ในหน้าที่มีข้อความเกี่ยวกับ “การพลีชีพเพื่อศาสนา” รวมถึงพบขวดจำนวนมากที่มีกลิ่นเหมือนน้ำมัน และขวดบรรจุของเหลวติดไฟ
ตำรวจอังกฤษได้บุกค้นที่พักอาศัยรวม 12 แห่งในย่านบาร์กกิงและอิลฟอร์ด และจับกุมผู้ต้องสงสัยรวมทั้งสิ้น 18 ราย ทว่ามีเพียง 5 รายเท่านั้นที่ยังถูกควบคุมตัวอยู่ ส่วนที่เหลือได้รับการปล่อยตัวโดยไม่มีการตั้งข้อหา