เอเจนซีส์/MGR ออนไลน์ - ก่อนที่คูหาเลือกตั้งทั่วไปอังกฤษจะเริ่มเปิดขึ้น นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เทเรซา เมย์ ได้ออกมาหาเสียงรอบสุดท้าย ประกาศนโยบายด้านความมั่นคงเรียกเสียงคะแนน ระบุ “จะฉีกกฎหมายสิทธิมนุษยชนอังกฤษ เพื่อสะดวกในการเนรเทศก่อการร้ายต่างชาติ รวมไปถึงควบคุมผู้ต้องสงสัยที่อาจยังมีหลักฐานไม่เพียงพอในการส่งตัวขึ้นศาลเพื่อดำเนินคดี
หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษ รายงานเมื่อวานนี้ (6 มิ.ย.) ว่า ผู้นำอังกฤษพรรคคอนเซอร์เวตีฟ ถูกกดดันอย่างหนัก หลังจากอังกฤษตกเป็นเป้าโจมตีก่อการร้ายต่อเนื่อง ตั้งแต่สะพานเวสต์มินสเตอร์ ไปจนถึงเหตุโจมตีคอนเสิร์ต อาเรียนา แกรนเด ที่แมนเชสเตอร์อารีนา และล่าสุดในคืนวันเสาร์ (3) ใช้รถตู้พุ่งชนคนบนสะพานลอนดอน และใช้มีดไล่แทงบริเวณตลาดโบโรมาร์เก็ต
ในการกล่าวให้ความเห็น นายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ ชี้ว่า “ดิฉันสามารถกล่าวกับพวกคุณได้บางอย่าง ซึ่งดิฉันหมายความว่า ระยะเวลาการอยู่ในเรือนจำที่นานขึ้นสำหรับผู้ต้องสงสัยคดีก่อการร้าย ซึ่งดิฉันหมายความว่า จะเป็นการง่ายขึ้นสำหรับเจ้าหน้าที่ในการที่จะเนรเทศกลุ่มผู้ต้องสงสัยก่อการร้ายต่างชาติออกนอกราชอาณาจักรกลับไปยังประเทศบ้านเกิด”
และกล่าวต่อว่า “และดิฉันหมายถึงการจำกัดเสรีภาพและความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ต้องสงสัยก่อการร้าย เมื่อทางเรามีหลักฐานที่บ่งชี้ว่า เป็นภัยต่ออังกฤษ แต่ไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะสามารถเอาผิดในชั้นศาลได้”
ในการให้ความเห็น เมย์ได้กล่าวยืนยันอย่างหนักแน่นว่า “และหากกฎหมายคุ้มครองสิทธิมนุษยชนขวางไม่ให้พวกเราสามารถทำเหล่านั้นได้ พวกเราจะเปลี่ยนกฎหมายเหล่านี้เสียทั้งหมดเพื่อให้สิ่งนี้เกิดขึ้น”
เดอะการ์เดียนชี้ว่า เป้าประสงค์นี้มีเพื่อการทำให้ “มาตรการการต่อต้านก่อการร้ายและการสืบสวน” ที่เรียกว่า Tpims นั้นมีความเข้มแข็งมากขึ้น มากกว่าที่จะกลับไปใช้นโยบายคำสั่งควบคุมตามอย่างของพรรคแรงงานอังกฤษในอดีต ซึ่งถูกศาลสั่งตีตกไป และถูกยกเลิกไปโดยเมย์ในปี 2010 ในขณะที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีมหาดไทยอังกฤษในขณะนั้น
สื่ออังกฤษคาดว่า นโยบายความมั่นคงของเมย์ อาจรวมไปถึง การกำหนดเคอร์ฟิว การควบคุมกลุ่มผู้เกี่ยวข้องกับกลุ่มหัวรุนแรง โดยควบคุมการเดินทางของเป้าหมาย รวมไปถึงการจำกัดการเข้าถึงอุปกรณ์การสื่อสาร
***และที่มากไปกว่านั้น เดอะการ์เดียนเชื่อว่า เมย์อาจจะสามารถกำหนดระยะเวลาการอยู่ในเรือนจำที่ยาวนานของกลุ่มผู้ต้องสงสัยโดยที่ไม่ต้องมีการไต่สวน *** ซึ่งในกฎหมายปัจจุบันมีระยะเวลา 14 วัน
ทั้งนี้ เมย์ได้กล่าวกับสื่อเดอะซันว่า เธอจะประชุมกับหน่วยงานข่าวกรองอังกฤษถึงสิ่งที่หน่วยงานเหล่านี้ต้องการ โดยระบุว่า “ดิฉันหมายความว่า ในเมื่อครั้งที่เราลดระยะเวลาลงเหลือแค่ 14 วัน ในความเป็นจริงทางเราได้เปิดโอกาสให้รัฐสภาอังกฤษสามารถอนุมัติได้นานถึง 28 วัน ซึ่งในขณะนั้นพวกเรากล่าวว่า อาจจะมีบางสถานการณ์ที่ทำให้เราต้องทำเช่นนั้น ซึ่งดิฉันจะรับฟังความเห็นของพวกเขาถึงสิ่งจำเป็นที่พวกเราต้องทำ”
ที่ผ่านมาพรรคคอนเซอร์เวตีฟอังกฤษได้ให้คำมั่นจะไม่ถอนอังกฤษออกจากอนุสัญญาเพื่อคุ้มครองสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพขั้นพื้นฐานของยุโรป (Convention for the Protection of Human Rights and Fundamental Freedoms) ในช่วงสมัยหน้า แต่อย่างไรก็ตาม เดอะการ์เดียนชี้ว่า ทางพรรคอาจจะเริ่มแก้ไขหรือแทนที่บางส่วนของกฎหมายว่าด้วยสิทธิมนุษยชนหลังจากที่อังกฤษได้ออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปอย่างเป็นทางการแล้ว
อนุสัญญานี้อยู่ภายใต้ศาลสิทธิมนุษยชนยุโรป(The European of Human Rights-ECtHR) ตั้งอยู่ที่เมืองสตราส์บูร์ก(Strasbourg) ประเทศฝรั่งเศส ตามหลักการในอนุสัญญายุโรปว่าด้วยเรื่องสิทธิมนุษยชน ปี 1950 (The European Convention on Human Rights) เพื่อดูแลและตรวจสอบการปฏิบัติตามอนุสัญญาของประเทศสมาชิก
และมีความเป็นไปได้ว่านายกรัฐมนตรีอังกฤษอาจต้องการหาทางระงับการบังคับใช้บางส่วนจาก ECtHR ซึ่งจะทำให้ไม่มีการนำเรื่องสิทธิมนุษยชนมาเป็นข้อต่อสู้ต่อทหารในช่วงระหว่างสถานการณ์การปะทะทางกองกำลังในอนาคต
ซึ่งที่ผ่านมาเมย์ถูกกดดันให้ต้องตอบคำถามถึงการจัดการก่อการร้าย ในเรื่องกระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติอังกฤษ และหน่วยงานข่าวกรองอังกฤษจะจัดการกับข้อมูลผู้ก่อการร้ายได้อย่างไร
และยังรวมไปถึงปัญหานโยบายการปรับลดงบประมาณตำรวจอังกฤษลง ซึ่งซาดิค ข่าน นายกเทศมนตรีอังกฤษจากพรรคแรงงานได้วิจารณ์ว่า ในอีก 4 ปีข้างหน้าสำหรับแผนการปรับลดงบประมาณตำรวจของเมย์ลง 10-40% จะทำให้เป็นงานยากสำหรับกรุงลอนดอนในการจัดการกับแผนก่อการร้าย
ซึ่งข่านกล่าวผ่านรายงานของสื่ออังกฤษอีกฉบับ ดิอิเวนนิง ว่า การที่งบตำรวจถูกลดลงถึง 40% สกอตแลนด์ยาร์ดอาจต้องสูญเสียกำลังพลไปถึง 12,800 นาย หลังเมย์มีแผนที่จะตัดงบลงร่วมไม่ต่ำกว่า 400 ล้านปอนด์
ทั้งนี้ในสมัยที่เมย์ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีมหาดไทย สกอตแลนด์ยาร์ดเสียกำลังพลไปเกือบ 20,000 นายในช่วงระหว่างปี 2010-2016 เพราะงบประมาณถูกลด