เอเอฟพี - ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ กำลังพิจารณาปลด โรเบิร์ต มุลเลอร์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) ซึ่งได้รับแต่งตั้งให้เป็น “ที่ปรึกษากฎหมายพิเศษ” สอบสวนกรณีรัสเซียถูกกล่าวหาว่าแทรกแซงเลือกตั้งเมื่อปีที่แล้ว มิตรสหายคนหนึ่งของผู้นำสหรัฐฯ เผยเมื่อวานนี้ (12 มิ.ย.)
คริสโตเฟอร์ รัดดี ผู้บริหารนิวส์แม็กซ์มีเดีย ออกมาให้สัมภาษณ์เพียง 1 วันก่อนที่รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม เจฟฟ์ เซสชันส์ จะเข้าให้ปากคำต่อคณะกรรมาธิการข่าวกรองวุฒิสภาเรื่องความสัมพันธ์ทรัมป์-รัสเซียในวันนี้ (13) และหลังจากที่ เจมส์ โคมีย์ อดีตผอ.เอฟบีไอ ได้กล่าวหา ทรัมป์ ว่าพยายามแทรกแซงกระบวนการสอบสวน
“ผมคิดว่าเขากำลังพิจารณาปลดที่ปรึกษาพิเศษออก เขาคงกำลังชั่งใจเรื่องนี้อยู่” รัดดี ให้สัมภาษณ์ในรายการ NewsHour ทางสถานีโทรทัศน์พีบีเอส หลังจากพิธีกรตั้งคำถามว่า ประธานาธิบดีจะยอมให้ มุลเลอร์ เดินหน้าสอบสวนเรื่องรัสเซียต่อไปหรือไม่
“โดยส่วนตัวผมเชื่อว่าการทำอย่างนั้นจะถือว่าพลาดอย่างร้ายแรง” รัดดี กล่าวเสริม
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวคนหนึ่งออกมาย้ำว่า สิ่งที่ รัดดี พูดเป็นแค่ “ความคิดเห็นส่วนตัว” ไม่ได้มาจากรัฐบาลทรัมป์
ซีเอ็นเอ็นอ้างแหล่งข่าวใกล้ชิด ทรัมป์ ซึ่งระบุว่า ประธานาธิบดี “ได้รับคำแนะนำจากคนหลายคน” ไม่ให้ปลด มุลเลอร์ ซึ่งเคยมีประสบการณ์คุมเอฟบีไอระหว่างปี 2001-2013
แอดัม ชิฟฟ์ แกนนำ ส.ว.เดโมแครตในคณะกรรมาธิการข่าวกรอง ได้โพสต์ข้อความเตือนทางทวิตเตอร์ว่า “ถ้าประธานาธิบดีกล้าสั่งปลด บ็อบ มุลเลอร์ สภาคองเกรสก็จะแต่งตั้งให้ บ็อบ มุลเลอร์ เป็นที่ปรึกษากฎหมายพิเศษอีกครั้งหนึ่ง ฉะนั้นอย่าทำให้เราเสียเวลาดีกว่า”
ทรัมป์ ได้สั่งปลด โคมีย์ ออกจากตำแหน่งผอ.เอฟบีไอแบบสายฟ้าแลบเมื่อวันที่ 9 พ.ค. และเนื่องจาก โคมีย์ เป็นผู้ที่ควบคุมการสอบสวนคดีรัสเซียแทรกแซงเลือกตั้ง รวมถึงความเป็นไปได้ที่มอสโกจะสมรู้ร่วมคิดกับทีมงานทรัมป์ จึงก่อให้เกิดถามว่าประธานาธิบดีกำลังขัดขวางกระบวนการยุติธรรมหรือไม่
เซสชันส์ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงสุดของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ถูกวุฒิสภาเรียกสอบเรื่องรัสเซีย เคยเขียนบันทึกข้อความแนะนำให้ประธานาธิบดีปลด โคมีย์ ออก โดยมีการคาดกันว่าเขาอาจอ้างสิทธิพิเศษของฝ่ายบริหารเพื่อจำกัดขอบเขตในการให้ปากคำของตนเอง