รอยเตอร์ - สหรัฐฯ ส่งหน่วยรบพิเศษเข้าช่วยเหลือกองกำลังฟิลิปปินส์ปราบปรามสมุนไอเอสที่บุกยึดเมืองมาราวี (Marawi) ทางตอนใต้ของเกาะมินดาเนามานานเกือบ 3 สัปดาห์ โฆษกสถานทูตอเมริกันในกรุงมะนิลาแถลงวันนี้ (10 มิ.ย.)
ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า การออกอาละวาดยึดครองเมืองมาราวีโดยกลุ่มนักรบหลายร้อยคนที่ประกาศสวามิภักดิ์ต่อรัฐอิสลาม (ไอเอส) ซึ่งรวมถึงนักรบต่างชาติหลายสิบคนทั้งจากมาเลเซีย อินโดนีเซีย และตะวันออกกลาง ถือเป็นสัญญาณเตือนว่าอิทธิพลของไอเอสกำลังหยั่งรากลึกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
โฆษกสถานทูตสหรัฐฯ ระบุว่า “หลังได้รับการร้องขอจากรัฐบาลฟิลิปปินส์ สหรัฐฯ จึงได้ส่งหน่วยรบพิเศษเข้าไปช่วยสนับสนุนปฏิบัติการของกองทัพฟิลิปปินส์ที่เมืองมาราวี และช่วยผู้บัญชาการทหารฟิลิปปินส์ต่อสู้กับกลุ่มติดอาวุธมาอูเต (Maute) และอาบูไซยาฟ (AFG)”
ล่าสุด กองทัพฟิลิปปินส์ยืนยันวันนี้ (10) ว่า ทหารท้องถิ่นได้รับความช่วยเหลือจากหน่วยรบพิเศษของอเมริกา เพื่อปิดฉากการยึดครองเมืองมาราวีโดยพวกสมุนไอเอส แต่ยืนยันว่าสหรัฐฯ เพียงแต่ช่วยสนับสนุนด้านเทคนิคเท่านั้น
“พวกเขาไม่ได้จับอาวุธสู้รบ เพียงแต่ให้การสนับสนุนด้านเทคนิคเท่านั้น” พ.ท.โจอาร์ เอร์เรรา โฆษกกองทัพฟิลิปปินส์ แถลงต่อสื่อมวลชน
ก่อนหน้านี้ มีผู้พบเห็นเครื่องบินสอดแนม พี 3 ออริออน ของสหรัฐฯ บินอยู่เหนือท้องฟ้าเมืองมาราวีเมื่อวันศุกร์ (9) แต่ไม่พบหลักฐานยืนยันว่าสหรัฐฯ ได้ส่งทหารเข้าไปในพื้นที่
การหยิบยื่นความช่วยเหลือครั้งนี้มีขึ้นท่ามกลางความหมางเมินระหว่างมะนิลาและวอชิงตันตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา หลังจากประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต ประกาศนโยบายหันหลังให้สหรัฐฯ และยังขู่จะไล่ทหารอเมริกันทั้งหมดออกไปจากแดนตากาล็อกด้วย
สหรัฐฯ เคยส่งหน่วยรบพิเศษราว 1,200 นายเข้าไปที่เกาะมินดาเนาเมื่อปี 2002 เพื่อฝึกยุทธวิธี และให้คำปรึกษาแก่กองกำลังฟิลิปปินส์ที่ต้องสู้รบกับกลุ่มติดอาวุธอาบูไซยาฟ
แม้โครงการที่ว่านี้จะปิดฉากลงไปเมื่อปี 2015 แต่ยังคงมีทหารอเมริกันส่วนน้อยคอยให้การสนับสนุนทางเทคนิคและการขนส่งลำเลียงแก่ฟิลิปปินส์
สหรัฐฯ และฟิลิปปินส์จับมือเป็นพันธมิตรกันมานานหลายสิบปี ซึ่งความสัมพันธ์อันแนบแน่นนี้ช่วยให้วอชิงตันคงความได้เปรียบทางยุทธศาสตร์ในเอเชีย อีกทั้งมะนิลาก็ได้อาศัยแสนยานุภาพของสหรัฐฯ ต้านทานอิทธิพลของจีน
อย่างไรก็ตาม ดูเตอร์เต กลับมองว่าสหรัฐฯ เป็นอุปสรรคต่อการคบหาสนิทชิดเชื้อกับจีน มิหนำซ้ำยังวิจารณ์สหรัฐฯ อยู่บ่อยๆ ว่าเห็นมะนิลาเป็นแค่ “ลูกไล่”