เอเอฟพี/เอเจนซีส์ - มีผู้ปฏิบัติการของกลุ่ม “รัฐอิสลาม” (ไอเอส) ถึงประมาณ 1,200 คนทีเดียว อยู่ในฟิลิปปินส์เวลานี้ โดยที่หลายคนเป็นชาวต่างชาติ รวมถึงพวกที่มาจากอินโดนีเซียราว 40 คนด้วย รัฐมนตรีกลาโหมอินโดนีเซีย รีอามิซาร์ด รีอาคูดู กล่าวในเวทีประชุมความมั่นคงนานาชาติที่สิงคโปร์เมื่อวันอาทิตย์ (4 มิ.ย.)
ริอาคูดู ซึ่งพูดในเวทีประชุม “แชงกรีลา ไดอะล็อก” ที่สิงคโปร์ ขณะที่ยังคงเกิดการเผชิญหน้าอย่างนองเลือดระหว่างกองทหารฟิลิปปินส์กับพวกนักรบสุดโต่งที่กำลังต่อสู้โดยประกาศสวามิภักดิ์ต่อไอเอส ณ เมืองมาราวี ทางภาคใต้ของแดนตากาล็อก ได้พูดถึงพวกนักรบสุดโต่งเหล่านี้ว่า เป็น “เครื่องจักรฆ่าคน” พร้อมกับเรียกร้องให้ทั่วทั้งภูมิภาคแถบนี้ร่วมมือกันอย่างเต็มที่ในการต่อสู้ปราบปรามคนเหล่านี้
“ผมได้รับแจ้งเมื่อคืนนี้ว่า มีพวกไอซิส 1,200 คนในฟิลิปปินส์ ราวๆ 40 คนมาจากอินโดนีเซีย” ริอาคูตู ซึ่งเป็นนายทหารระดับนายพลที่เกษียณอายุแล้ว กล่าวต่อที่ประชุม โดยไอซิสเป็นชื่อย่ออีกชื่อหนึ่งของกลุ่มไอเอส
ภัยคุกคามของการก่อการร้ายที่กำลังเพิ่มทวีขึ้น รวมทั้งการที่พวกนักรบสุดโต่งหลายร้อยคนจากบรรดาชาติในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งได้เดินทางไปเข้าร่วมไอเอสทำการสู้รบในซีเรียและอิรัก น่าที่จะเดินทางกลับบ้านในอีกไม่ช้าไม่นาน เมื่อที่มั่นสำคัญๆ ของไอเอสในตะวันออกกลางถูกตีแตก กลายเป็นประเด็นร้อนฉ่าประเด็นหนึ่งในเวทีหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็น 3 วันที่สิงคโปร์คราวนี้ โดยบุคคลสำคัญที่เข้าร่วมยังประกอบด้วยนายกรัฐมนตรี มัลคอล์ม เทิร์นบูลล์ ของออสเตรเลีย, รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ จิม แมตทิส, และรัฐมนตรีกลาโหมญี่ปุ่น โทโมมิ อินาดะ
ขณะที่สถานการณ์ในเมืองมาราวี ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ที่มีประชากรราว 200,000 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิมนั้น ปะทุขึ้นเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม ภายหลังกองกำลังรัฐบาลฟิลิปปินส์พยายามเข้าจับกุม อิสนิลอน ฮาปิลอน ผู้นำของกลุ่มอบูไซยาฟ ทว่าไม่ประสบความสำเร็จ แล้วจากนั้นนักรบหลายร้อยคนของกลุ่มมาอูเต ก็ออกมาอาละวาดทั่วเมือง ทั้งมาอูเตซึ่งมีอิทธิพลสูงในมาราวี และอบูไซยาฟที่ตั้งฐานอยู่บนเกาะใกล้ๆ ต่างเป็นกลุ่มอิสลามิสต์สุดโต่งที่ประกาศตัวเข้าสวามิภักดิ์ต่อไอเอส
เวลานี้ยังมีนักรบอิสลามิสต์ติดอาวุธจำนวนอาจจะสูงถึง 50 คน ควบคุมพื้นที่ใจกลางเมืองมาราวีเอาไว้ โดยที่ทางการฟิลิปปินส์ระบุว่าการสู้รบซึ่งดำเนินมาเกือบ 2 สัปดาห์แล้วนั้น ทำให้มีผู้ถูกสังหารไปอย่างน้อย 177 คน ในจำนวนนี้เป็นพวกนักรบอิสลามิสต์ 120 คน
“เราจะสามารถจัดการรับมือกับพวกนักรบต่างชาติเหล่านี้ได้อย่างไร? เราจำเป็นที่จะต้องทำความเข้าใจให้รอบด้าน” รัฐมนตรีกลาโหมอินโดนีเซียกล่าว
“เราจำเป็นต้องแสวงหา ... หนทางต่างๆ ที่สมบูรณ์รอบด้าน แต่เราก็ต้องระมัดระวังตัวด้วย พวกคนเหล่านี้คือเครื่องจักรฆ่าคน จุดมุ่งหมายของพวกเขาคือการเข่นฆ่าประชาชนอื่นๆ ดังนั้นมันจึงเป็นความรับผิดชอบของเรา ที่เราจะต้องมีความเข้าใจร่วมกัน, มีฉันทามติ” และมีกระบวนการดำเนินการต่างๆ ร่วมกัน ในเรื่องวิธีการที่จะสู้รบกับพวกนักรบต่างชาติเหล่านี้”
ทางด้านปลัดกระทรวงกลาโหมฟิลิปปินส์ ริคาร์โด เดวิด ซึ่งก็เข้าร่วมเวทีประชุมที่สิงคโปร์นี้ บอกว่า ตัวเลขนักรบไอเอสทั้งหมดในฟิลิปปินส์มี 1,200 คน ซึ่งรัฐมนตรีกลาโหมแดนอิเหนาพูดขึ้นมานั้น เป็นเรื่องใหม่สำหรับเขา
“ผมไม่ทราบเลยจริงๆ ตัวเลขของผมคือราวๆ 250 ถึง 400 คน น้อยกว่ากันมาก” เขากล่าวกับพวกผู้สื่อข่าว
แต่เดวิดยืนยันว่า มีนักรบไอเอสที่เป็นคนต่างชาติราว 40 คนอยู่ในพวกนักรบอิสลามิสต์ซึ่งยกกำลังเข้ายึดหลายๆ พื้นที่ของมาราวีเอาไว้ โดยที่ในจำนวนนี้ 8 คนได้ถูกกองกำลังรัฐบาลสังหารแล้ว
ก่อนหน้านี้ พวกเจ้าหน้าที่ฟิลิปปินส์เคยระบุว่า พวกนักรบต่างชาติที่ถูกฆ่าเหล่านี้มีทั้งที่มาจากมาเลเซีย, อินโดนีเซีย, เยเมน, ซาอุดีอาระเบีย และเชชเนีย ซึ่งตั้งอยู่ในรัสเซีย
“ข่าวกรองของเราประมาณการว่ามีคนต่างชาติราว 40 คนที่เข้าสู้รบในเหตุการณ์ที่เมืองมาราวี” เดวิดบอก
ปลัดกระทรวงกลาโหมฟิลิปปินส์กล่าวด้วยว่า นักรบชาวต่างชาติเหล่านี้ใช้ “พวกช่องหลังหลังบ้าน” ในบริเวณทะเลซูลูและทะเลเซเลเบส ใกล้ๆ พรมแดนติดต่อระหว่างฟิลิปปินส์กับอินโดนีเซียและมาเลเซีย ในการลักลอบเข้าสู่เกาะมินดาเนา และต่อเชื่อมกับกลุ่มก่อการร้ายต่างๆ ในท้องถิ่น โดยที่มินดาเนาเป็นเกาะใหญ่ที่สุดในภาคใต้ของฟิลิปปินส์ และเมืองมาราวีก็ตั้งอยู่บนเกาะแห่งนี้
“นี่แหละคือเหตุผลที่ทำไมพวกเขาจึงสามารถรวมตัวกันเปิดการปฏิบัติการในพื้นที่ของมาราวีได้” เดวิดบอก