น้ำมันฟื้นเล็กน้อย-ทองลงต่อ ดาวโจนส์ทุบสถิติสูงสุด

เอเอฟพี/รอยเตอร์ - ราคาน้ำมันปรับขึ้นในวันศุกร์ (9 มิ.ย.) หลังปัญหาที่ท่อลำเลียงแห่งหนึ่งของไนจีเรีย ก่อความกังวลทางอุปทาน ส่วนวอลล์สตรีทปิดผสมผสาน ท่ามกลางแรงฉุดกลุ่มเทคโนโลยี ขณะที่ทองคำขยับลงเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือ ไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม เพิ่มขึ้น 19 เซ็นต์ ปิดที่ 45.83 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอนงวดส่งมอบเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้น 29 เซ็นต์ ปิดที่ 48.15 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

เชลล์ ปิโตรเลียม ดีเวลลอปเมนท์ คอมพานี (SPDC) ของไนจีเรีย ประกาศเหตุสุดวิสัยน้ำมันเบาบอนนีไนจีเรีย หลังมีใครบางคนลอบเจาะรูท่อลำเลียงน้ำมันทรานส์ ไนเจอร์ ทำให้เกิดการรั่วไหล

ปกติแล้ว ไนจีเรีย คือ ชาติผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของแอฟริกา แต่ปัญหาความเคลื่อนไหวของกบฏและการบริหารผิดพลาดของรัฐบาล บ่อยครั้งมักทำให้กำลังผลิตชะลอตัวหรือบางทีถึงขั้นต้องระงับการผลิตเลยก็มี

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดผสมผสานในวันศุกร์ (9 มิ.ย.) โดยกลุ่มเทคโนโลยีฉุดแนสแดคดิ่งลงแรง ผิดกับดาวโจนส์ที่ทุบสถิติสูงสุดตลอดกาลรอบใหม่

ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 89.44 จุด (0.42 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 21,271.97 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 2.02 จุด (0.08 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,431.77 จุด แนสแดค ลดลง 113.85 จุด (1.80 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 6,207.92 จุด

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ลดลงกว่า 2.7 เปอร์เซ็นต์ จากแรงฉุดของบริษัทยักษ์ใหญ่ต่างๆ อย่างเช่น แอปเปิล ที่ปิดลบ 3.9 เปอร์เซ็นต์, อะเมซอน ปิดลบ 3.2 เปอร์เซ็นต์, อัลฟาเบท บริษัทแม่ของกูเกิล ปิดลบ 3.4 เปอร์เซ็นต์ และ เน็ตฟลิกซ์ ปิดลบ 4.7 เปอร์เซ็นต์

ด้านราคาทองคำในวันศุกร์ (9 มิ.ย.) ปิดลบเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน จากดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับยูโร หลัง เทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษไม่อาจครองเสียงข้างมากจากศึกเลือกตั้ง โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ลดลง 8.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,271.40 ต่อออนซ์