รอยเตอร์/มาร์เกตวอตช์ - ราคาน้ำมันขยับในกรอบแคบๆ เมื่อวันพฤหัสบดี (1 มิ.ย.) ตามข้อมูลที่ผสมผสานจากสหรัฐฯ และโอเปก ส่วนห้นสหรัฐฯ พุ่งและทองคำปิดลบ หลังพบตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่งในอเมริกา
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม เพิ่มขึ้น 4 เซ็นต์ ปิดที่ 48.36 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอนงวดส่งมอบเดือนสิงหาคม ลดลง 13 เซ็นต์ ปิดที่ 50.63 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
รายงานประจำสัปดาห์ของสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ (อีไอเอ) ระบุว่า คลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศ ลดลง 6.4 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่คาดหมายไว้ว่าจะลดลง 4.4 ล้านบาร์เรล ส่วนน้ำมันเบนซินก็ลดลงอย่างมาก ก่อนเข้าสู่ฤดูกาลขับขี่
อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันในวันพฤหัสบดี (1 มิ.ย.) ไม่สามารถพุ่งทะยานไปข้างหน้า เนื่องจากตลาดยังตกอยู่ภายใต้แรงกดดันจากผลสำรวจของรอยเตอร์ที่เผยแพร่เมื่อวันพุธ (31 พ.ค.) ซึ่งพบว่ากำลังผลิตของโอเปกเพิ่มขึ้นในดือนพฤษภาคม ถือเป็นการเพิ่มขึ้นเดือนแรกของปีนี้ ส่วนหนึ่งเป็นผลจากอุปทานที่เพิ่มขึ้นในลิเบียและไนจีเรีย
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันพฤหัสบดี(1มิ.ย.) พุ่งแรง โดยดัชนีหลักต่างทุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังข้อมูลต่างๆ บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจกำลังฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 135.53 จุด (0.65 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 21,144.18 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 18.26 จุด (0.76 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,430.06 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 48.31 จุด (0.78 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 6,246.83 จุด
รายงานการจ้างงานภาคเอกชนของสถาบันเอดีพี พบว่ามีเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีการจ้างงานภาคเอกชน เพิ่มขึ้น 253,000 อัตราในเดือนพฤษภาคม เหนือกว่าที่นักวิเคราะห์คาดหมายว่าจะเพิ่มขึ้น 185,000 อัตรา
ทั้งนี้ รายงานดังกล่าวอาจส่งสัญญาณว่าข้อมูลการจ้างงานของรัฐบาลที่มีกำหนดเผยแพร่ออกมาในวันศุกร์ (2 มิ.ย.) ในนั้นรวมถึงตัวเลขการจ้างงานทั้งภาคเอกชนและภาครัฐ น่าจะออกมาแข็งแกร่งและเพิ่มความคาดหมายว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า
ส่วนราคาทองคำในวันพฤหัสบดี (1 มิ.ย.) ปิดลบพอสมควร หลังดอลลาร์แข็งค่าขึ้น จากแรงหนุนของข้อมูลการจ้างงานภาคเอกชน โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 5.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,270.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์