เอเจนซีส์ - ตำรวจเยอรมันระดมกำลังออกไล่ล่าชาวตูนิเซียผู้หนึ่งเมื่อวันพุธ (21 ธ.ค.) ซึ่งต้องสงสัยว่าเป็นโชเฟอร์ขับรถบรรทุกพุ่งชนตลาดคริสต์มาสในเบอร์ลินจนทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 12 คน หลังปล่อยผู้ต้องสงสัยรายแรกที่เป็นชาวปากีสถานไปเพราะไม่มีหลักฐาน พร้อมกับเตือนว่าผู้ก่อเหตุที่ยังลอยนวลอาจมีมากกว่าหนึ่งคนและอาจพกพาอาวุธ ด้าน “ไอเอส” ออกมาอวดอ้างตามเคยว่า เป็นฝีมือสาวกที่ตอบสนองเสียงเรียกร้องให้โจมตีพลเมืองของชาติพันธมิตรที่ร่วมรบกับอเมริกาในอิรักและซีเรีย
รายงานของสื่อมวลชนระบุว่า ได้พบเอกสารต่างๆ ของสำนักงานผู้ลี้ภัยซึ่งเชื่อว่าเป็นของชายชาวตูนีเซียผู้นี้ อยู่ในบริเวณที่นั่งตอนหน้าของรถบรรทุกน้ำหนัก 40 ตัน ซึ่งถูกใช้ก่อเหตุโจมตีคราวนี้ ชายผู้นี้มีอายุ 20 ปีต้นๆ และเป็นที่รู้จักกันในชื่อต่างๆ 3 ชื่อ เขาได้ยื่นขอลี้ภัยในเยอรมนีเมื่อเดือนเมษายน และได้รับใบอนุญาตให้เป็นผู้พำนักอาศัยชั่วคราว
ทั้งนี้ มีผู้เสียชีวิต 12 คนและบาดเจ็บอีกหลายสิบคนจากเหตุการณ์ที่รถบรรทุกของบริษัทขนส่งโปแลนด์ที่ขนคานเหล็กมาในรถ พุ่งเข้าชนแผงขายของและนักช้อปในตลาดคริสต์มาสในเบอร์ลินที่มีผู้คนพลุกพล่านเมื่อคืนวันจันทร์ (20)
ถัดมาอีกวัน สำนักข่าวอามัคที่มีสายสัมพันธ์กับกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ประกาศว่า “ทหารไอเอส” เป็นผู้ก่อเหตุฆาตกรรมหมู่ในเบอร์ลินเพื่อตอบสนองข้อเรียกร้องให้โจมตีพลเมืองของชาติพันธมิตรของอเมริกาที่ต่อสู้กับไอเอสในอิรักและซีเรีย
อย่างไรก็ดี สำนักข่าวดังกล่าวไม่ได้แสดงหลักฐานประกอบการอวดอ้างใดๆ อีกทั้งไม่ได้ระบุตัวผู้ก่อเหตุ
ขณะเดียวกัน อัยการรัฐประกาศในวันอังคาร (21)ว่า ได้ปล่อยตัวผู้ต้องสงสัยที่มีเพียงรายเดียวแล้ว เนื่องจากไม่สามารถหาหลักฐานทางนิติเวชเชื่อมโยงชายผู้นี้กับการโจมตีที่เบอร์ลิน ซึ่งถือเป็นเหตุการณ์รุนแรงที่สุดในรอบหลายปีในเยอรมนี
ผู้ต้องหาคนดังกล่าวคือชายปากีสถานที่อยู่ระหว่างขอลี้ภัย ซึ่งถูกจับกุมเมื่อคืนวันจันทร์(20) หลังจากมีคนเห็นเขากระโดดออกจากรถบรรทุกที่พุ่งชนคนในตลาดคริสต์มาส
ภายหลังจากผู้ต้องสงสัยได้รับการปล่อยตัว เคลาส์ แคนต์ ผู้บัญชาการตำรวจเบอร์ลิน ให้สัมภาษณ์สถานีทีวีท้องถิ่นว่า เชื่อว่า ผู้ก่อเหตุหนึ่งคนหรือมากกว่านั้นยังคงหลบหนีและอาจมีอาวุธ และเสริมว่า จะมีการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย พร้อมเตือนให้ประชาชนระแวดระวังมากขึ้น
นับจากเกิดเหตุ ตำรวจเยอรมนีได้รับแจ้งเบาะแสจากประชาชนมากกว่า 500 รายการ และตำรวจกำลังตรวจสอบดีเอ็นเอที่พบในห้องโดยสารรถบรรทุกที่ก่อเหตุ
อังเดร ชูลซ์ ประธานสหภาพเจ้าหน้าที่สืบสวนอาชญากรรมเยอรมนี แสดงความเชื่อมั่นว่า จะพบผู้ต้องหาใหม่ภายในวันสองวันนี้
สำหรับชายโปแลนด์ที่ถูกยิงเสียชีวิตบริเวณที่นั่งตอนหน้าในรถบรรทุกคันดังกล่าวนั้น ตำรวจเชื่อว่า เป็นคนขับรถของบริษัทขนส่ง ซึ่งเจ้าของบริษัทยืนยันว่า ผู้ตายเป็นคนดี นอกจากนั้นตามตัวของชายผู้นี้ยังมีร่องรอยการต่อสู้กับคนร้ายที่อาจมีมากกว่าหนึ่งคน
หนังสือพิมพ์บิลด์รายงานโดยอ้างอิงผลการชันสูตรศพว่า ชายคนนี้ยังมีชีวิตอยู่ขณะที่รถพุ่งชนคน
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาอ่อนไหวอย่างยิ่งสำหรับนายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิลของเยอรมนี ที่ประกาศลงเลือกตั้งสมัยที่ 4 ในปี 2017 ท่ามกลางเสียงวิจารณ์เซ็งแซ่ต่อนโยบายเปิดประเทศรับผู้ลี้ภัยของเธอเมื่อปีที่แล้ว และนักการเมืองบางคนหยิบยกเหตุการณ์ล่าสุดมากล่าวหาว่า นโยบายดังกล่าวเปิดช่องให้การโจมตีในลักษณะนี้มีความเป็นไปได้มากขึ้น
วันอังคาร (21) แมร์เคลเดินทางไปยังที่เกิดเหตุเพื่อร่วมไว้อาลัยและร่วมพิธีศพที่จัดขึ้นในโบสถ์อนุสรณ์ไกเซอร์ วิลเฮล์ม ใกล้กับตลาดคริสต์มาส
ทั้งนี้ ยุโรปอยู่ในสถานะเตือนภัยระดับสูงเกือบตลอดปีนี้ หลังเหตุโจมตีปารีสและบรัสเซลส์เมื่อปีที่แล้ว
นอกจากนั้นเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคมที่ผ่านมา มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 15 คนจากการโจมตีสองจุดทางใต้ของรัฐบาวาเรียของเยอรมนีโดยผู้ขอลี้ภัยที่อ้างว่า เป็นสมาชิกไอเอส
ก่อนหน้านั้นหนึ่งวัน มุสลิมหัวรุนแรงสัญชาติตูนีเซียขับรถบรรทุกพุ่งชนฝูงชนที่กำลังชมพลุฉลองวันชาติฝรั่งเศสที่เมืองนีซ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 86 คน