เอเจนซีส์ – เกิดเหตุรถบรรทุกพุ่งเข้าชนตลาดคริสต์มาสในเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี เมื่อช่วงค่ำวันจันทร์ (19) เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 12 คน บาดเจ็บอีกประมาณ 48 ราย ทางด้านตำรวจเบอร์ลินเร่งสอบปากคำผู้ต้องสงสัยที่เชื่อว่าเป็นคนขับรถบรรทุก ขณะที่เหตุการณ์ดังกล่าว “ถูกสันนิษฐานว่าเป็นก่อการร้าย”
ผู้ต้องสงสัยคนดังกล่าวถูกจับกุมห่างจากที่เกิดเหตุ 2 กิโลเมตร ตำรวจกำลังสอบสวนภายใต้สมมติฐานว่า รถบรรทุกสกาเนียสีดำจงใจแล่นเข้าไปในตลาดขายสินค้าสำหรับเทศกาลคริสต์มาสที่มีผู้คนขวักไขว่บริเวณจัตุรัสไบรท์ไชแพลตซ์ และเมื่อถึงระยะประมาณ 80 เมตรก็ได้พุ่งเข้าชนแผงขายสินค้าและผู้คนที่ไปจับจ่ายของหน้าโบสถ์ไคเซอร์ วิลเฮล์ม ซึ่งเป็นอนุสรณ์สถานสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น
ตำรวจไม่เชื่อว่าชายที่ถูกพบเสียชีวิตในรถบรรทุกคันดังกล่าวจะเป็นคนขับรถ ซึ่งในภายหลังสามารถระบุได้ว่า ชายผู้นี้เป็นชาวโปแลนด์ ขณะที่บริษัทส่งของสัญชาติโปแลนด์ที่เป็นเจ้าของรถบรรทุกเผยว่า ขาดการติดต่อกับคนขับตั้งแต่เวลา 16.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น หลังออกรถจากโปแลนด์และมุ่งหน้าไปเบอร์ลิน โดยทางด้าน แอเรียล ซูรอกี้ เจ้าของบริษัทคาดว่า รถบรรทุกที่ญาติของตนเป็นคนขับอาจถูกจี้
ขณะเดียวกัน แพทย์ที่รักษาผู้ประสบเหตุทั้งในที่เกิดเหตุและที่คลินิกทั่วเบอร์ลินรายงานว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากกระดูกหักและบาดเจ็บภายในจำนวนมาก ซึ่งรวมกรณีเลือดออกภายในและอวัยวะได้รับความเสียหาย โดยแพทย์คนหนึ่งเผยว่า อาจต้องผ่าตัดกันทั้งคืน ผู้บาดเจ็บหลายคนมีอาการสาหัสน่าเป็นห่วง ด้วยเหตุนี้แพทย์ทุกคนในเบอร์ลินจึงถูกเรียกตัวไปปฏิบัติหน้าที่
เอ็มมา รัชตัน นักท่องเที่ยวอังกฤษ เล่าว่า รถบรรทุกพุ่งเข้าไปในตลาดคริสต์มาส ซึ่งถือเป็นหนึ่งในย่านช้อปปิ้งที่มีผู้คนพลุกพล่านที่สุดในเบอร์ลิน ด้วยความเร็ว 64 กิโลเมตรต่อชั่วโมงโดยไม่ทีท่าว่าจะชะลอความเร็วลงเลย เธอเชื่อว่าเหตุการณ์นี้ไม่ใช่อุบัติเหตุ
ผู้เชี่ยวชาญการขนส่งคาดว่ารถบรรทุกคันที่ก่อเหตุน่าจะขนเหล็กมา ทำให้สร้างความเสียหายได้มากขึ้น ขณะที่ตำรวจระบุว่า ที่เกิดเหตุเสียหายรุนแรง พร้อมยอมรับเคยคิดว่าตลาดคริสต์มาสมีความเสี่ยงที่จะถูกผู้ก่อการร้ายโจมตี
โธมัส เดอ เมสซิแอร์ รัฐมนตรีมหาดไทยเยอรมนี ระบุจากหลักฐานเบื้องต้น ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเหตุโจมตีในเบอร์ลินเป็นการก่อการร้าย ขณะที่โฆษกรัฐบาลเยอรมนีแถลงว่า นายกรัฐมนตรี อังเกลา แมร์เคิล ได้รับการบรรยายสรุปเหตุการณ์นี้แล้วจาก เดอ เมซิแญร์ , ไมเคิล มุลเลอร์ นายกเทศมนตรีเบอร์ลิน
วูล์ฟกัง บอสแบ็ค สมาชิกรัฐสภาจากพรรค "คริสเตียน เดโมเครติก ยูเนียน" ของแมร์เคิล กล่าวว่า แม้ยังมีคำถามที่ไม่มีคำตอบมากมาย แต่ก็มีสิ่งบ่งชี้ว่า เหตุการณ์นี้เป็นการโจมตีโดยเจตนา ซึ่งไม่เพียงกระทำการอย่างโหดร้ายและรุนแรง แต่ยังเป็นการกระทำเชิงสัญลักษณ์ เนื่องจากเป็นการโจมตีก่อนถึงวันคริสต์มาสเพียงไม่กี่วัน และเกิดขึ้นกลางเมืองหลวงของเยอรมนีท่ามกลางผู้คนที่รักสันติ ซึ่งข้อความที่คนร้ายต้องการสื่อก็คือ ไม่ว่าที่ไหนอย่างไรก็ไม่รอดพ้นการโจมตี
ด้านว่าที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ได้ออกมาฟันธงตั้งแต่ช่วงก่อนที่สำนักงานตำรวจเบอร์ลินจะออกแถลงการณ์ โดยระบุว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นการก่อการร้ายของกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรง ที่เดินหน้าฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวคริสต์ พร้อมประกาศว่า เครือข่ายก่อการร้ายทั้งระดับภูมิภาคและทั่วโลกจะต้องถูกกวาดล้างโดยอเมริกาและพันธมิตรที่รักเสรีภาพ
เน็ด ไพรซ์ โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติทำเนียบขาว แถลงว่า เหตุการณ์ในเบอร์ลินดูเหมือนเป็นการก่อการร้าย อเมริกาขอประณามการก่อการร้ายด้วยถ้อยคำรุนแรงที่สุด ขณะที่กระทรวงมหาดไทยออกคำเตือนพลเมืองอเมริกันทั่วยุโรป
ไม่ถึง 1 เดือนก่อนหน้านี้ กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้เรียกร้องให้เพิ่มการตรวจตราตลาดและสถานที่สาธารณะอื่นๆ เนื่องจากกลุ่มหัวรุนแรง ซึ่งรวมถึงไอเอสและอัล-กออิดะห์ กำลังมุ่งเล่นงานเทศกาลวันหยุดที่กำลังจะมาถึงและกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง
เหตุการณ์นี้เตือนความจำถึงเหตุการณ์ที่ผู้พำนักชาวตูนีเซียขับรถบรรทุกหนัก 19 ตันพุ่งชนฝูงชนที่ไปชมการจุดพลุฉลองวันชาติในเมืองนีซของฝรั่งเศสเมื่อเดือนกรกฏาคมที่ผ่านมา ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 86 คนและบาดเจ็บอีกหลายร้อยคน
ตอนนั้นทางการฝรั่งเศสระบุว่า โมฮัมเหม็ด ลาฮูเอจ-บูฮ์เลล คนขับรถบรรทุกคันดังกล่าว ได้แรงบันดาลใจจากการปลุกระดมของกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) แต่ไม่มีหลักฐานว่า ไอเอสเป็นผู้วางแผนการโจมตี