เอเจนซีส์ - ล่าสุดพบเมฟ-ลุต เมิร์ต อัลตินตาส (Mevlut Mert Altintas) มือลอบสังหาร ตำรวจปราบจลาจลตุรกีประจำกรุงอังการาที่ไม่อยู่ในการปฏิบัติหน้าที่ วัย 22 ปี ผูกเนกไทใส่สูทสีดำแสดงบัตรประจำตำรวจอังการาในการเดินทางผ่านเข้าไปด้านในแกลเลอรีอังการาที่มีการจัดการแสดงภาพถ่าย และยังเป็นผู้เดียวที่ยืนด้านหลังเอกอัครราชทูตรัสเซีย อันเดร คาร์ลอฟ (Andrey Karlov) ในขณะที่กำลังกล่าวสุนทรพจน์ในการเปิดการแสดงภาพ ก่อนที่จะใช้ปืนพกจ่อยิงจากด้านหลังไม่ต่ำกว่า 5 ครั้ง เกิดขึ้นไม่นานก่อนประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน มีกำหนดจะเข้าชมแต่ยกเลิกภายหลังละครเวทีเรื่อง “Woe from Wit” ผลงานของนักกวีและนักการทูตรัสเซียชื่อดัง อเล็กซานเดอร์ กริโบเยดอฟ (Alexander Griboyedov) ที่ถูกสังหารโดยฝูงม็อบในขณะที่ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตประจำอิหร่านในศตวรรษที่ 19
ดิเอ็กซ์เพรส สื่ออังกฤษ รายงานเมื่อวานนี้ (19 ธ.ค.) ถึงโฉมหน้าผู้อยู่เบื้องหลังการเสียชีวิตของเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำกรุงอังการา อันเดร คาร์ลอฟ (Andrey Karlov) ที่ถูกลอบสังหารด้วยการถูกจ่อยิงจากด้านหลังจนเสียชีวิตภายในแกลเลอรีที่เขาได้ถูกรับเชิญไปกล่าวเปิดงานการแสดงภาพถ่าย
โดยสื่ออังกฤษชี้ว่า ผู้ลงมือก่อเหตุคือ “เมฟ-ลุต เมิร์ต อัลตินตาส” (Mevlut Mert Altintas) วัย 22 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจลกรุงอังการาที่ไม่ได้อยู่ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ในช่วงระหว่างเกิดเหตุ ซึ่งแหล่งข่าวความมั่นคงตุรกีอย่างน้อย 2 รายได้ชี้ตัวอัลติตาสในฐานะคนร้าย โดยกล่าวว่าชายผู้นี้เกิดในปี 1994 และหนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษรายงานเพิ่มเติมว่า อัลตินตาสเกิดในจังหวัดไอดิน (Aydin) และสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนตำรวจ อิซเมียร์ โปลิส อคาเดมี (Izmir police academy) และพบว่าในภายหลัง บ้านของเขาในจังหวัดไอดินถูกตรวจค้นอย่างละเอียด และมีรายงานว่าพ่อและแม่รวมไปถึงพี่น้องผู้หญิงของอัลตินตาสถูกจับกุม โดยสำนักข่าวอนาโดลูของตุรกีรายงานเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ยังพบว่าบ้านของมือลอบสังหารผู้นี้ในกรุงอังการาถูกบุกค้น และรูมเมตของอัลตินตาสที่เป็นตำรวจเช่นกันถูกนำตัวไปกักขัง
โดยในช่วงเวลาเกิดเหตุพบว่าอัลตินตาสเป็นคนเดียวที่ยืนอยู่เบื้องหลังคาร์ลอฟ และใช้ปืนพกจ่อยิงจากด้านหลังไม่ต่ำกว่า 5 ครั้ง
เดอะการ์เดียนชี้ว่า อัลตินตาสได้ตะโกนออกไปในระหว่างที่จะทำการยิงว่า “อย่าลืมอะเลปโป!” โดยก่อนหน้าที่จะนำปืนพกออกมา สื่ออังกฤษรายงานว่า มือลอบสังหารตะโกนในคำกล่าวที่คุ้นกันดีในภาษาอารบิกว่า อัลลอหุ อักบัร (Allahu Akbar) ในการสรรเสริญพระผู้เป็นเจ้า
และหลังจากที่ได้ทำการปลิดชีพคาร์ลอฟแล้ว ตำรวจปราบจลาจลอังการาที่อยู่ในชุดสูทและไทสีดำได้ตะโกนออกไปในภาษาตุรกีว่า “อย่าลืมอะเลปโป อย่าลืมซีเรีย หากเมืองของพวกเรายังไม่ปลอดภัย พวกคุณอย่าหวังว่าจะอยู่ได้อย่างสันติ มีเพียงแค่ความตายเท่านั้นที่จะนำผมไปจากที่นี่ได้ และทุกคนที่เกี่ยวข้องกับสิ่งนี้ต้องได้รับการตอบแทนอย่างสาสม”
นอกจากนี้ อัลตินตาสยังกล่าวต่อในภาษาอารบิกว่า “เราทุกคนที่กล่าวสัจจะต่อมูฮัมหมัด ประกาศสงครามญิฮาด”
ด้านหนังสือพิมพ์ดิอินดีเพนเดนต์ยืนยันว่า มีการรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนารอบตัวเอกอัครราชาทูตรัสเซียในหอแกลเลอรีในค่ำวันจันทร์ (19 ธ.ค.) แต่ทว่าข้อมูลจากแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของสถานที่จัดการแสดงภาพถ่ายนี้ได้เปิดเผยว่า มือลอบสังหารแสดงบัตรประจำตัวตำรวจตุรกีในการผ่านเข้ามายังบริเวณงาน โดยอ้างว่าเขาเป็นเจ้าหน้าที่มาจากแผนกการบังคับใช้กฎหมายสาธารณะ (the public order department) และภายหลังอัลตินตาส มือลอบสังหารวัย 22 ปีผู้นี้ถูกสังหารโดยหน่วยรบพิเศษตุรกี
เดอะการ์เดียนรายงานว่า ถือเป็นเรื่องบังเอิญอย่างน่าแปลกใจเมื่อพบว่า ในช่วงค่ำวันจันทร์ (19 ธ.ค.) นั้น ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน มีกำหนดต้องเข้าชมละครเวทีเรื่อง Woe from Wit ผลงานของนักกวีและนักการทูตรัสเซียชื่อดัง อเล็กซานเดอร์ กริโบเยดอฟ (Alexander Griboyedov) ที่ถูกสังหารโดยฝูงม็อบในขณะที่เป็นเอกอัครราชทูตประจำอิหร่านในปี 1829
แต่อย่างไรก็ตาม สื่ออังกฤษชี้ว่า เนื่องมาจากคดีการลอบสังหารคาร์ลอฟ ทำให้ปูตินสั่งยกเลิกแผนการไปชมละครเวทีที่ว่านี้ และได้ออกคำสั่งเรียกประชุมด่วนร่วมกับรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศ เซอร์เก ลาฟรอฟ และบรรดาผู้บัญชาการหน่วยงานความมั่นคงรัสเซียแทน
