เหตุฆ่าทูตรัสเซียและรถชนผู้คนในเบอร์ลินฉุดน้ำมัน-หุ้นสหรัฐฯปิดแคบ ทองทรงตัว

มาร์เก็ตวอตช์/รอยเตอร์ - ราคาน้ำมันขยับเล็กน้อย ส่วนวอลล์สตรีทแกว่งตัวปิดบวก เมื่อวันจันทร์ (19 ธ.ค.) ตามหลังเกิดเหตุเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำตุรกี ถูกยิงเสียชีวิตในอังการา และเหตุรถบรรทุกพุ่งชนผู้คนในเยอรมนี ส่วนทองคำทรงตัวในกรอบแคบๆ

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือ ไลต์สวีตครูด เพิ่มขึ้น 22 เซนต์ ปิดที่ 52.12 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน ลดลง 29 เซนต์ ปิดที่ 54.92 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

นักลงทุนบอกว่า ข่าวคราวเหตุฆาตกรรมเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำตุรกี กระพือความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ ช่วยดันให้ราคาน้ำมันสหรัฐฯขยับขึ้นเล็กน้อย

ขณะที่ข่าวคราวดังกล่าว ประกอบเหตุรถบรรทุกพุ่งชนผู้คนในตลาดคริสต์มาสในเยอรมนี ฉุดให้ตลาดหุ้นอเมริกาในวันจันทร์ (19 ธ.ค.) ทรุดตัวลงมาปิดบวกในกรอบแคบๆ หลังดีดตัวขึ้นแรงในช่วงต้นของการซื้อขาย

ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 39.65 จุด (0.20 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 19,883.06 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 4.46 จุด (0.20 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,262.53 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 20.28 จุด (0.37 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 5,457.44 จุด

ทั้ง 3 ดัชนีแกว่งตัวอยู่ในแดนบวก แต่ต้องสูญเสียแรงผลักดันบางส่วน หลังตำรวจเยอรมนีเผยว่าเกิดเหตุรถบรรทุกพุ่งชนฝูงชนในตลาดคริสต์มาสในเบอร์ลิน คร่าชีวิต 9 ศพ และบาดเจ็บกว่า 50 คน

เหตุการณ์นี้กัดเซาะความเชื่อมั่นของนักลงทุน ที่กังวลอยู่ก่อนแล้วกับความเป็นไปได้ของเหตุความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ หลังจากเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำตุรกี ถูกยิงตายในอังการา

อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำทรงตัวในวันจันทร์ (19 ธ.ค.) กลับสู่ภาวะเสถียร หลังขยับลง 6 สัปดาห์ติดและแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 10 เดือน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 5.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,142.70 ดอลลาร์