เอเจนซีส์ - ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ แถลงผ่านทวิตเตอร์เมื่อวานนี้ (17 ธ.ค.) กล่าวโทษปักกิ่งขโมยยานใต้น้ำโดรนแบบไร้คนขับของสหรัฐฯ ในระหว่างที่แล่นอยู่ในน่านน้ำสากล เกิดขึ้นในวันเดียวกัน (17) กับที่กระทรวงกลาโหมจีน ออกแถลงการณ์ ยอมส่งมอบคืน ในขณะที่แหล่งข่าวเพนตากอน ระบุ เหตุการณ์ยึดโดรน จะไม่นำมาสู่สงครามอย่างแน่นอน แต่โฆษกกระทรวงกลาโหมอเมริกา ซ้ำ “หวังว่าจะไม่เกิดขึ้นอีกครั้ง”
NBC NEWS สื่อสหรัฐฯรายงานว่า แหล่งข่าวกระทรวงกลาโหมจีน ให้ข้อมูลโดยอ้างว่า ในเวลานี้จีนอยู่ในระหว่างการติดต่อกับสหรัฐฯ เพื่อทำการส่งมอบคืนยานใต้น้ำทางทหารแบบไร้คนขับโดรนคืนให้กับทางเพนตากอน หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ทางปักกิ่งสามารถยึดได้ในวันพฤหัสบดี (15 ธ.ค.) ในน่านน้ำทะเลจีนใต้
โดยแหล่งข่าวเพนตากอน ระบุว่า โดรนใต้น้ำของอเมริกาถูกยึดไว้ในพิกัดห่างไปราว 50 ไมล์ทะเลทางตะวันตกเฉียงใต้ของอ่าวซูบิก (Subic Bay) ของฟิลิปปินส์ ไม่นานก่อนที่เรือสำรวจทางสมุทรศาสตร์ USNS Bowditch ยูเอสเอ็นเอส โบว์ดิตช์ (USNS Bowditch) ที่ลูกเรือส่วนใหญ่เป็นพลเรือนกำลังจะเข้าไปเก็บกลับคืน
ซึ่งในเช้าตรู่วันเสาร์ (17 ธ.ค.) ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ แถลงผ่านทวิตเตอร์ โจมตีปักกิ่ง กล่าวหาจีนว่า อุกอาจแอบขโมยยานโดรนไร้คนขับของอเมริกา แต่ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากนั้นทรัมป์ได้ออกแถลงการ์ณอีกครั้ง เพื่อแก้ไขคำที่พิมพ์ผิด โดยในแถลงการณ์ของว่าที่ผู้นำสหรัฐฯคนที่ 45 ซึ่งโพสต์ข้อความในเวลา 20.57 น. ของวันเสาร์ (17 ธ.ค.) ชี้ว่า “จีนขโมยยานสำรวจใต้น้ำของกองทัพเรือสหรัฐฯในน่านน้ำสากล นำมันออกมาพ้นผิวน้ำ และเคลื่อนย้ายกลับไปจีนด้วยการกระทำที่คาดไม่ถึง”
แต่อย่างไรก็ตาม ในแถลงการณ์ของกระทรวงกลาโหมจีน ที่ออกมาในวันเสาร์ (17 ธ.ค.) ปักกิ่งได้เตือนสหรัฐฯ สถานการณต่อปัญหานั้นดูทวีความรุนแรงมากขึ้น จากการกระทำของสหรัฐฯนั้นจะล้วนแต่ทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง
ซึ่งทางกระทรวงกลาโหมฯจีน อ้างว่า เรือรบกองทัพเรือจีนเป็นผู้ค้นพบ “วัตถุลึกลับต้องสงสัย” และทำการตรวจสอบเพื่อปกป้องไม่ให้เกิดปัญหาความไม่ปลอดภัยทางการเดินเรือ ก่อนที่จะพบว่าวัตถุลึกลับที่ว่านี้ คือ ยานโดรนใต้น้ำของสหรัฐฯ
โดยสื่อสหรัฐฯรายงานว่า จากการรายงา่นของแถลงการณ์ของกระทรวงกลาโหมจีนที่ประกาศบนเว็บไซต์ของกระทรวง ระบุว่า “จีนตัดสินใจที่จะส่งคืนกลับให้กับสหรัฐฯตามช่องทางที่เหมาะสม และที่ผ่านมา ทั้งจีนและสหรัฐฯต่างติดต่อสื่อสารระหว่างกันในปัญหานี้มาโดยตลอด”
และในแถลงการณ์ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า “แต่ในช่วงกระบวนการนี้ สหรัฐฯเป็นฝ่ายเดียวที่พยายามทำให้สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเลวร้ายลง ซึ่งจะไม่ช่วยแก้ปัญหาต่อสิ่งที่ได้เกิดขึ้นแล้ว ทางเรารู้สึกผิดหวังในสิ่งที่สหรัฐฯได้ทำลงไป”
NBC NEWS ชี้ว่า อย่างไรก็ตาม จากแถลงการณ์ของปักกิ่ง จีนไม่ยอมกล่าวอย่างโจ่งแจ้งว่า ยานโดรนใต้น้ำทางทหารของสหรัฐฯกำลังปฏิบัติการอยู่ในน่านน้ำที่ปักกิ่งถือว่า อยู่ในความครอบครองของปักกิ่ง ซึ่งกระทรวงต่างประเทศจีน กล่าวว่า ทั้งเรือรบสหรัฐฯ รวมไปถึง อากาศยานรบสหรัฐฯ ล้วนแล้วแต่ได้แอบทำการลอบสอดแนมและสำรวจในบริเวณนี้เป็นเวลามานานแล้วในน่านน้ำของจีน
ในขณะเดียวกัน ปีเตอร์ คุก (Peter Cook) โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ได้ออกมายืนยันข่าวว่า ปักกิ่งยินยอมส่งมอบคืนโดรนสำรวจใต้น้ำคืนให้กับสหรัฐฯโดยดี หลังจากที่ทางสหรัฐฯได้ออกมาคัดค้านอย่างเป็นทางการต่อการยึดโดรนใต้น้ำอย่างไม่ถูกกฎหมายของปักกิ่ง
ซึ่งก่อนหน้านี้ ทางสหรัฐฯได้ออกมายืนยัน โดยอ้างว่า โดรนสำรวจใต้น้ำนั้น ปฏิบัติการอย่างถูกกฎหมาย และทำการบันทึกข้อมูลสมุทรศาสตร์ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการสำรวจตามปกติของหน่วยงานคอนแทรกเตอร์พลเรือนที่ทำงานให้กับกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ
“โดรนสำรวจใต้น้ำลำนี้เป็นของสหรัฐฯ และมีสัญลักษณ์ที่บ่งบอกอย่างเด่นชัดว่าเป็นของเรา และทางเราต้องการกลับคืน และทางเราหวังว่าเหตุการณ์นี้จะไม่เกิดขึ้นซ้ำสอง” เจฟ เดวิส (Jeff Davis) โฆษกเพนตากอนอีกคนแถลง
อย่างไรก็ตาม สื่อสหรัฐฯรายงานว่า ดูเหมือนเหตุการณ์นี้จะไม่ทำให้ทางเพนตากอนตกตื่นใจ ที่เรื่องยานสำรวจใต้น้ำของเพนตากอนถูกรัฐบาลต่างชาติยึด และอาจจะเป็นชนวนนำมาสู่สงครามใหญ่โต โดยแหล่งข่าวเพนตากอนระบุอย่างหนักแน่นกับ NBC NEWS ว่า ***“ไม่มีใครในที่นี่ต่างตื่นเต้น หรือตกใจ เพียงแต่เป็นการกระทำที่ไม่ดูเป็นมืออาชีพ”*** แหล่งข่าวเพนตากอนกล่าว
ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นความตึงเครียดล่าสุดหลังจากที่ทรัมป์ได้คุยโทรศัพท์สายตรงกับประธานาธิบดีไต้หวัน ไช่ อิงเหวิน ซึ่งทางปักกิ่งแสดงความไม่เห็นด้วยอย่างรุนแรง