เอเจนซีส์ - แผนการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ยึดครองของฝ่ายกบฏทางฝั่งตะวันออกของเมืองอะเลปโป ตกอยู่ในภาวะชะงักงันเมื่อวันพุธ (14 ธ.ค.) ขณะที่มีการโจมตีทางอากาศ และการระดมยิงปืนใหญ่ในนครแห่งนี้ขึ้นมาอีก ทำให้เกิดความวิตกกันว่าจะมีการดำเนินการตามข้อตกลงหยุดยิงที่มีรัสเซียและตุรกีเป็นคนกลางเพื่อยุติการสู้รบที่ดำเนินมาหลายปีในเมือง ซึ่งเคยเป็นนครใหญ่ที่สุดของซีเรียแห่งนี้หรือไม่
ฝ่ายกบฏซีเรียและแหล่งข่าวยูเอ็นหลายราย ระบุว่า แผนการอพยพต้องชะลอไป เนื่องจากอิหร่านซึ่งเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนหลักของประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด ในสงครามชิงเมืองอะเลปโป ต้องการให้อพยพผู้บาดเจ็บออกมาจากหมู่บ้านบางแห่ง ซึ่งฝ่ายกบฏยังยึดครองอยู่ พร้อมๆ กับการอพยพประชาชนและนักรบกบฏที่บาดเจ็บจากฝั่งตะวันออกเมืองอะเลปโป
กลุ่มกบฏต่างๆ บอกว่า นี่เป็นเพียงข้อแก้ตัวสำหรับการระงับการอพยพเอาไว้ก่อนเท่านั้น และสถานีโอเรียนต์ ทีวี ที่สนับสนุนฝ่ายต่อต้านรัฐบาลซีเรีย รายงานว่า การอพยพอาจเลื่อนไปจนถึงวันพฤหัสบดี (15)
ก่อนหน้านี้ แหล่งข่าวหลายรายระบุเวลาเริ่มการอพยพต่างๆ กัน เช่น เจ้าหน้าที่ทหารในกลุ่มพันธมิตรที่สนับสนุนอัสซาด บอกว่า การอพยพจะเริ่มต้นในเวลา 5.00 น. วันพุธ (10.00 น. ตามเวลาไทย) ขณะที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลซีเรีย คาดว่า กลุ่มประชาชนที่ได้รับบาดเจ็บจะถูกนำออกไปก่อนเวลาดังกล่าว
ทว่า เมื่อถึงเวลาที่ระบุ กลับไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ มีเพียงประชาชนไปรอที่จุดนัดหมาย โดยที่รถบัส 20 คัน ที่จัดไว้ไม่มีทีท่าว่า จะเคลื่อนเข้าสู่พื้นที่ของกบฏแต่อย่างใด
ทั้งนี้ ประชาชนในฝั่งตะวันออกของอะเลปโปต่างเก็บสัมภาระลงกระเป๋า และเผาสมบัติส่วนตัวเพื่อเตรียมตัวอพยพ เนื่องจากกลัวถูกกองทัพซีเรียและกลุ่มติดอาวุธที่อิหร่านสนับสนุนจะเข้ามาปล้นชิง
ขณะเดียวกัน กระทรวงกลาโหมรัสเซีย รายงานว่า พลเรือน 6,000 คน และนักรบ 366 คน ออกจากพื้นที่ยึดครองของกบฏแล้วในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา
นอกจากนั้น กองทัพซีเรียยังเริ่มยิงปืนใหญ่เข้าสู่พื้นที่ยึดครองของกบฏในอะเลปโปเมื่อเช้าวันพุธ (14) นอกจากนั้น ยังมีรายงานว่า มีการถล่มโจมตีทางอากาศด้วย โดยที่รัสเซียระบุว่า เป็นการตอบโต้การโจมตีของกลุ่มกบฏ เวลาเดียวกัน เซียร์เกย์ ราฟลอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย คาดว่า การต่อต้านของกลุ่มกบฏน่าจะยุติลงภายใน 2 - 3 วันนี้
แผนการอพยพครั้งนี้มีขึ้นหลังจากกองทัพซีเรีย และพันธมิตรบุกหนักและสามารถขับไล่กลุ่มกบฏไปกระจุกตัวอยู่ในพื้นที่เล็กๆ ของอะเลปโปตะวันออกอย่างรวดเร็วภายในเวลาเพียง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา
ภายใต้ข้อตกลงอพยพซึ่งมีรัสเซียกับตุรกีเป็นคนกลางและประกาศออกมาเมื่อคืนวันอังคาร (13) พลเรือนและนักรบที่ได้รับบาดเจ็บจะอพยพออกจากฝั่งตะวันออกของอะเลปโปไปยังพื้นที่ยึดครองของฝ่ายต่อต้านรัฐบาลในเมืองอื่นๆ ทางเหนือของประเทศ หลังจากนั้น นักรบกบฎที่เหลือจะอพยพออกไปพร้อมนำอาวุธขนาดเบาไปได้
อเมริกาที่สนับสนุนฝ่ายต่อต้านรัฐบาลซีเรีย แถลงว่า ไม่ได้รับการปรึกษาหารือเกี่ยวกับข้อตกลงนี้ แต่ยินดีกับการจัดการใดๆ ก็ตามที่จะช่วยให้พลเรือนเดินทางออกจากอะเลปโปอย่างปลอดภัย
การควบคุมอะเลปโปเบ็ดเสร็จจะเป็นการพิสูจน์พลังของกองกำลังพันธมิตรของอัสซาด ที่ประกอบด้วยกองทัพอากาศรัสเซียและกลุ่มติดอาวุธนิกายชีอะต์จากทั่วภูมิภาค
สำหรับกลุ่มกบฏนั้นได้รับการสนับสนุนจากอเมริกา ตุรกี และประเทศในอ่าวเปอร์เซีย
การตัดสินใจของมอสโกในการนำทัพเข้าสู่ซีเรียเมื่อ 18 เดือนที่แล้ว ทำให้อัสซาดพลิกสถานการณ์มาเป็นฝ่ายรุกไล่ หลังจากปล่อยให้กบฏคืบคลานยึดพื้นที่ด้านตะวันตกของประเทศ
ฝ่ายรัสเซียมองว่า การยึดอะเลปโปเป็นชัยชนะสำคัญเหนือกลุ่มก่อการร้าย เนื่องจากตีตรากลุ่มกบฏทุกกลุ่มที่ต้องการขับไล่อัสซาดเป็นผู้ก่อการร้ายทั้งหมด
ทว่า สหประชาชาติและอเมริกาตลอดจนชาติยุโรปตะวันตก วิจารณ์ว่า ความรุนแรงในอะเลปโปที่ถูกปิดล้อมและโจมตีอย่างหนักนานหลายเดือนเป็น “ปีศาจยุคใหม่” ที่ทำให้เมืองที่เคยเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจ รวมทั้งมีโบราณสถานอันสำคัญ กลายเป็นสุสานของประชาชนนับแสน และเป็นสาเหตุของวิกฤตผู้อพยพครั้งร้ายแรงที่สุดของโลก ทั้งยังเปิดโอกาสให้ไอเอสถือกำเนิดขึ้นมา
ซาแมนธา พาวเวอร์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำยูเอ็น เรียกร้องให้นานาชาติเข้าตรวจสอบการอพยพในอะเลปโป เนื่องจากเป็นห่วงประชาชนที่ต้องการอพยพแต่กลัวถูกยิงทิ้งหรือกลัวถูกนำไปขังในค่ายนักโทษของรัฐบาล
ทั่วโลกต่างเป็นห่วงชะตากรรมของพลเรือนราว 250,000 คน ที่คาดว่า ยังติดอยู่ในพื้นที่ยึดครองของกบฏในอะเลปโปก่อนที่กองทัพซีเรียจะรุกคืบอย่างรวดเร็วตั้งแต่ปลายเดือนที่แล้ว ขณะที่สภาพอากาศขณะนี้ปกคลุมด้วยความหนาวเหน็บ ทั้งอาหารและน้ำขาดแคลน และโรงพยาบาลทุกแห่งปิดทำการ
วันอังคาร (13) รูเพิร์ต โคลวิลล์ โฆษกยูเอ็นแสดงความกังวลเกี่ยวกับรายงานที่ว่า ทหารซีเรียและนักรบอิรักที่เป็นพันธมิตรกับอัสซาด สังหารหมู่ชาวบ้าน 82 คนในพื้นที่ยึดครองของกบฏในอะเลปโป
“รายงานที่เราได้รับระบุว่า ชาวบ้านถูกยิงกลางถนนขณะพยายามหนี บางคนถูกบุกเข้าไปยิงถึงในบ้าน” โคลวิลล์เสริมว่า ตัวเลขจริงอาจสูงกว่าที่ได้รับรายงานมา
อย่างไรก็ดี กองทัพซีเรียยืนยันว่า ไม่ได้สังหารหรือทรมานเชลยที่จับได้ ส่วนรัสเซียระบุว่า กลุ่มกบฏในฝั่งตะวันออกของอะเลปโปจับชาวบ้าน 100,000 คนไว้เป็นโล่มนุษย์