เอเจนซีส์ - พลเรือนซีเรียและนักรบฝ่ายกบฏจะเริ่มอพยพออกจากเมืองอะเลปโปในวันนี้ (14 ธ.ค.) ภายใต้ข้อตกลงหยุดยิง 3 ฝ่ายซึ่งปิดฉากการต้านทานของฝ่ายกบฏในเมืองแห่งนี้ลงอย่างสิ้นเชิง
คณะผู้แทนฝ่ายกบฏ, รัสเซีย และตุรกี ยืนยันถึงการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงและอพยพผู้คนออกจากเมือง เมื่อวานนี้ (13) ซึ่งถือเป็นชัยชนะครั้งใหญ่สำหรับประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ซึ่งถูกฝ่ายต่อต้านรัฐบาลลุกฮือขับไล่มาตั้งแต่ปี 2011
วิทาลีย์ เชอร์คิน เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ระบุว่า กองทัพซีเรียได้ยุติปฏิบัติการโจมตีอะเลปโปตามข้อตกลง “การสู้รบในฝั่งตะวันออกของอะเลปโปสิ้นสุดลงแล้ว”
ผู้สื่อข่าวเอเอฟพีที่อยู่ในฝั่งตะวันตกของอะเลปโป รายงานว่า ไม่มีเสียงยิงต่อสู้หรือทิ้งระเบิดมาตั้งแต่เวลา 15.00 น. ของวันอังคาร (13) ขณะที่ศูนย์สังเกตการณ์สิทธิมนุษยชนซีเรียซึ่งมีฐานในกรุงลอนดอนก็ยอมรับว่า ภายในเมืองอะเลปโปเงียบสงบ
ศูนย์สังเกตการณ์สิทธิมนุษยชนซีเรีย ระบุว่า การอพยพประชาชนคาดว่าจะเริ่มขึ้นตั้งแต่เวลา 03.00 GMT เป็นต้นไป แต่มีรายงานล่าสุดว่า การอพยพผู้คนออกจากฝั่งตะวันออกของเมืองอะเลปโปล่าช้ากว่าที่กำหนดไว้ในวันนี้ (14) โดยยังไม่ทราบสาเหตุ
รามี อับเดลราห์มาน ผู้อำนวยการศูนย์สังเกตการณ์ ระบุว่า พลเรือนกลุ่มแรกควรจะเดินทางออกจากเมืองตั้งแต่ 05.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น (03.00 GMT) ทว่าผ่านมาแล้ว 1 ชั่วโมงกลับยังไม่มีความเคลื่อนไหว ขณะที่แหล่งข่าวของรอยเตอร์ก็เผยว่า จนถึงเวลา 06.15 น.รถบัสสีเขียวที่รัฐบาลส่งมารับประชาชนก็ยังไม่แล่นเข้าไปในฝั่งตะวันออกของเมือง
ข้อตกลงหยุดยิงมีขึ้นท่ามกลางเสียงประณามจากนานาชาติต่อเหตุรุนแรงและการสังหารหมู่ที่เกิดขึ้น ในขณะที่กองทัพอัสซาดจู่โจมเข้าปิดล้อมฐานที่มั่นสุดท้ายของฝ่ายกบฏในเมืองใหญ่อันดับ 1 ของประเทศ
ผู้แทนจากกบฏหลายฝ่ายบอกกับเอเอฟพีว่า ข้อตกลงนี้จะเปิดทางให้พลเรือนและนักรบกบฏสามารถอพยพออกจากอะเลปโป เพื่อไปยังเขตยึดครองของพวกกบฏทางด้านตะวันตก
“เราได้ข้อตกลงกันแล้ว” ยัสเซอร์ อัล-ยุสเซฟ จากสำนักงานการเมืองของกลุ่มนูเรดดิน อัล-ซินกี ซึ่งเป็นกบฏกลุ่มใหญ่ ระบุ
“ในขั้นแรกจะเป็นการอพยพประชาชนและผู้บาดเจ็บออกไปก่อน จากนั้นอีกไม่กี่ชั่วโมง พวกนักรบก็จะได้รับอนุญาตให้ออกไปพร้อมกับอาวุธเบา”
ด้านสหรัฐฯ ระบุว่าไม่เคยได้รับการปรึกษาหารือในเรื่องนี้มาก่อน แต่ก็ยินดีสนับสนุนข้อตกลงใดๆ ที่จะช่วยปกป้องชีวิตชาวเมืองอะเลปโป
“ข้อตกลงหยุดยิงจะบรรลุหรือจัดการด้วยวิธีใดไม่ใช่ประเด็นสำคัญ แต่ขอให้มีขึ้นก็พอ” จอห์น เคอร์บีย์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แถลง
“แม้อะเลปโปจะได้รับการปลดปล่อย แต่สงครามซีเรียก็ยังไม่จบ... ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลคงจะสู้ต่อไป ขณะที่พวกหัวรุนแรงสุดโต่งก็คงฉกฉวยโอกาสช่วงที่เกิดสุญญากาศในพื้นที่ต่างๆ ทั่วซีเรีย และประชาชนผู้บริสุทธิ์ รวมถึงเด็กๆ จำนวนมาก ก็คงจะต้องหลบลี้หนีภัยต่อไป”
ซาแมนธา เพาเวอร์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำยูเอ็น ได้แจ้งต่อคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นว่า วอชิงตันต้องการให้มีผู้สังเกตการณ์นานาชาติเข้าไปตรวจสอบการอพยพประชาชนออกจากอะเลปโปด้วย
เพาเวอร์ ได้แสดงความเป็นห่วง “ชาวบ้านที่อาจต้องการอพยพ แต่เกรงจะถูกยิงทิ้งกลางถนน หรือไม่ก็ถูกส่งไปยังค่ายกักกันนักโทษของรัฐบาลอัสซาด”
หลังเปิดฉากจู่โจมอย่างหนักหน่วงนานหลายสัปดาห์ กองกำลังฝ่ายอัสซาดก็สามารถชิงคืนพื้นที่ฝั่งตะวันออกของอะเลปโปได้กว่า 90% เมื่อวันจันทร์ (12) ซึ่งนับเป็นความพ่ายแพ้ครั้งใหญ่ที่สุดสำหรับฝ่ายกบฏที่ทำสงครามเพื่อโค่นล้มระบอบอัสซาดมานานกว่า 5 ปี