เอเจนซีส์ - โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศยกเลิกกำหนดการแถลงแจกแจงสื่อเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนออกไปจากเดิมที่จะมีขึ้นในวันพฤหัสบดี (15 ธ.ค.) เพื่อต้องการอธิบายการจัดการเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนทางธุรกิจก่อนที่จะเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ก่อนทวีตระบายความในใจช่วงดึกวันจันทร์ (12) ประกาศจะยอมวางมือทางการบริหารจัดการอาณาจักรธุรกิจทรัมป์ก่อนวันเข้ารับการสาบานตนในวันที่ 20 ม.ค.อย่างแน่นอน เพื่อให้ความสนใจอย่างเต็มเวลาต่อการทำหน้าที่เป็นผู้นำสหรัฐฯ คนที่ 45 ต่อไป
NBC NEWS สื่อสหรัฐฯ รายงานเมื่อวานนี้ (12 ธ.ค.) ว่า ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ออกแถลงการณ์เลื่อนกำหนดการแถลงการจัดการปัญหาผลประโยชน์ทับซ้อนที่อาจมีขึ้นก่อนหน้าที่จะเข้ารับการสาบานตนในฐานะผู้นสหรัฐฯคนใหม่ออกไป โดยแหล่งข่าวระดับสูงของทีมงานการจัดการเปลี่ยนผ่านอำนาจรัฐบาลสหรัฐฯของทรัมป์ได้เปิดเผยกับสื่อสหรัฐฯ ว่า เชื่อว่ากำหนดการแถลงจะถูกเลื่อนไปจนกระทั่งเดือนมกราคมนี้
โดยข่าวการเลื่อนแถลงการณ์แจกแจงผลประโยชน์ทับซ้อนของทรัมป์ถูกเปิดเผยเป็นครั้งแรกในช่วงเย็นวานนี้ (12 ธ.ค.) จากการรายงานเป็นครั้วงแรกของสื่อธุรกิจ บลูมเบิร์ก โดยทีมงานจัดการเปลี่ยนผ่านของทรัมป์ได้บอกกับนักข่าวว่า ยังไม่มีกำหนดเวลาถูกประกาศออกมา แต่เชื่อว่าน่าจะเกิดขึ้นก่อนวันเข้ารับการสาบานตนที่จะมีขึ้นในวันที่ 20 ม.ค 2017
ทั้งนี้ สื่อสหรัฐฯ ชี้ว่า การเปิดแถลงข่าวครั้งสุดท้ายของทรัมป์นั้นเกิดขึ้นเมื่อ 138 วันมาแล้ว ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งเขาได้ออกมาเชิญชวนผ่านไมโครโฟนให้รัสเซียทำการแฮกอีเมลของคู่าแข่ง ฮิลลารี คลินตัน จากพรรคเดโมแครต
NBC NEWS รายงานเพิ่มเติมต่อว่า ในช่วงดึกของวันจันทร์ (12 ธ.ค.) ทรัมป์ได้ใช้ทวิตเตอร์ระบายความในใจอีกครั้ง โดยระบุว่า เขาจะทำการวางมือทางธุรกิจก่อนวันที่ 20 ม.คนี้ และจะทำให้เขาสามารถให้ความสนใจอย่างเต็มเวลาต่อการทำหน้าที่เป็นผู้นำสหรัฐฯ คนที่ 45 ต่อไป
ในแถลงการณ์บนโลกโซเชียลมีเดียของทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 45 ยังเปิดเผยต่อว่า “ลูก 2 คนของผม “ดอน” และ “เอริก” รวมไปถึงกลุ่มมือบริหารระดับสูง จะเป็นผู้ทำการบริหารอาณาจักรธุรกิจ ซึ่งจะไม่มีการทำข้อตกลงใหม่เกิดขึ้นในระหว่างการที่ผมทำหน้าที่ในฐานะประธานาธิบดีสหรัฐฯ”
ทั้งนี้ พบว่าทรัมป์มีธุรกิจที่ต้องจัดการร่วมไม่ต่ำกว่า 500 บริษัทในหลายภาคส่วนที่ต่างกันไป และทำให้ผู้เชี่ยวชาญทางกฎหมายสหรัฐฯต่างออกมาฟันธงว่า เขาได้กลายเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯที่อาจอยู่ในข่ายผลประโยชน์ทับซ้อนได้ง่ายที่สุดของบรรดาผู้นำสหรัฐฯ ในยุคสมัยใหม่
โดยทีมงานเปลี่ยนผ่านอำนาจของทรัมป์ได้เปิดเผยกับบลูมเบิร์กว่า ทรัมป์ต้องการเลื่อนกำหนดการแถลงข่าวออกไป เพราะในเวลานี้เจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์กำลังใช้เวลาในการสรรหาผู้ที่จะเข้ามาทำหน้าที่ในคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ของเขา และรวมไปถึงเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ
และก่อนหน้านั้นในวันอาทิตย์ (11 ธ.ค.) ทรัมป์ได้เปิดเผยกับสื่อขวาจัดอเมริกา ฟ็อกซ์นิวส์ ยอมรับว่า ตัวเขาจะไม่ขายทรัพย์สินที่มีออกไปทั้งหมด แต่จะมอบหมายให้ทีมบริหารเข้ามาทำหน้าที่แทน ซึ่งในทีมบริหารนี้จะมีลูกของเขารวมอยู่ด้วย
“มือบริหารของผมจะทำหน้าที่ร่วมกับลูกๆ มันเป็นบริษัทที่ใหญ่โต เป็นบริษัทที่ดี แต่ผมจะไม่มีหน้าที่อะไรที่ต้องเข้ามาเกี่ยวข้องกับการจัดการทั้งนั้น” ทรัมป์ประกาศ
แต่ทว่า NBC NEWS ชี้ว่า นับตั้งแต่เขาชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯในต้นเดือนพฤศจิกายน ทรัมป์ตกเป็นเป้าถูกวิพากษ์วิจารณ์มาโดยตลอด จากการที่เขาอนุญาตให้ลูกสาวตัวเอง อีวังกา ทรัมป์ เข้าร่วมในการพบปะหารือกับนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ชินโซ อาเบะ ในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา
ในการให้สัมภาษณ์กับฟ็อกซ์นิวส์ ทรัมป์ยังอ้างกับสื่อขวาจัดว่า เขาจำใจต้องตอบปฎิเสธข้อตกลงมูลค่านับพันล้านดอลลาร์ เมื่อพิจารณาแล้วว่า อาจจะนำมาสู่ปัญหาผลประโยชน์ทับซ้อนได้ในภายหลัง รวมไปถึงการที่ต่างชาติต้องการจองโรงแรมทรัมป์ในวอชิงตัน ดี.ซี. เพื่อจัดงาน
ทรัมป์กล่าวยืนยันว่า “เงินที่ผมได้จ่ายลงไปสำหรับการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ นั้นน้อยมาก เมื่อเทียบกับเงินที่ผมจะต้องเสียไปจากข้อตกลงที่ไม่ได้รับเหล่านี้ แต่นั่นไม่เป็นไร เพราะสิ่งนี้สำคัญกว่ามาก”
