เอเอฟพี - เครมลินในวันศุกร์ (16 ธ.ค.) โวยวายใส่วอชิงตัน ต่อกรณีชี้หน้าประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ว่า มีส่วนพัวพันโดยตรงกับการโจมตีทางไซเบอร์ เพื่อแทรกแซงผลการเลือกตั้งในสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน ไม่นานหลังจาก บารัค โอบามา ประกาศตอบโต้พวกแฮกเกอร์รัสเซีย
“ณ เวลานี้ พวกเขาจำเป็นต้องหยุดพูดถึงเรื่องนี้ หรือไม่ก็ควรนำเสนอบางอย่างที่สามารถพิสูจน์ได้ มิเช่นนี้มันก็ดูเหมือนเป็นการกระทำที่หยาบคายอย่างรุนแรง” ดมริทรี เปสคอฟ โฆษกของปูตินบอกกับผู้สื่อข่าวระหว่างเยือนญี่ปุ่น
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังจาก ประธานาธิบดี โอบามา เมื่อวันพฤหัสบดี (15 ธ.ค.) เตือนว่า สหรัฐฯจะดำเนินการกับรัสเซีย หลังทำเนียบขาวกล่าวหาปูติน มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับการโจมตีทางไซเบอร์ที่ออกแบบมาเพื่อก่ออิทธิพลต่อศึกเลือกตั้งอเมริกา
“ผมคิดว่าไม่มีข้อสงสัยเลย เมื่อมีรัฐบาลต่างชาติใดๆ พยายามสร้างผลกระทบต่อความเที่ยงตรงในศึกเลือกตั้งของเรา เราจำเป็นต้องดำเนินการ” โอบามาบอกกับสถานีวิทยุเอ็นอาร์พี
ความเห็นของประธานาธิบดีสหรัฐฯที่กำลังพ้นตำแหน่ง มีขึ้นหลังจากเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์เสนอข่าวว่า สำนักงานข่าวกรองกลางสหรัฐฯ (ซีไอเอ) ได้จัดทำรายงานประเมินซึ่งระบุว่า รัสเซียได้แฮกอีเมลของตัวบุคคลและสถาบันต่างๆ ของสหรัฐฯ โดยมุ่งใช้เป็นวิธีหนึ่งในการปั่นการเลือกตั้งคราวนี้ให้เป็นผลดีต่อทรัมป์ ผู้สมัครของพรรครีพับลิกัน ซึ่งในที่สุดเขาก็สามารถเอาชนะ ฮิลลารี คลินตัน จากพรรคเดโฒแครต ได้อย่างสุดช็อกในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน
ทั้งนี้ คำขู่ของโอบามาในวันศุกร์ (16 ธ.ค.) มีขึ้นหลังจากทำเนียบขาวยกระดับคำกล่าวหา โดยบอกว่า ปูติน บุรุษเหล็กแห่งวังเครมลิน มีส่วนพัวพันโดยตรงกับการโจมตีทางไซเบอร์ดังกล่าว “ผมไม่เชื่อว่า วลาดิมีร์ ปูติน จะไม่รับรู้สิ่งที่เกิดขึ้นภายในรัฐบาลรัสเซีย” เบน โรดส์ ที่ปรึกษาอาวุโสของ โอบามา ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ MSNBC
การชี้นิ้วไปยังประธานาธิบดีรัสเซีย ว่า แทรกแซงการเลือกตั้ง ยังทำให้ทำเนียบขาวต้องเผชิญหน้ากับทรัมป์ ซึ่งดูเหมือนกำลังปลีกตัวเองมากขึ้นต่อคำถามที่ว่ารัสเซียเกี่ยวข้องกบการแฮกอีเมลของพรรคเดโมแครต เพื่อชะลอแรงเหวี่ยงการหาเสียงของคลินตัน ขณะที่ ทรัมป์ ก็ตั้งคำถามว่าเหตุใดจึงไม่มีใครออกมาโวยวายเรื่องนี้ก่อนที่เขาจะชนะเลือกตั้ง