เอเอฟพี - ทีมหาเสียงของ เอ็มมานูแอล มาครง ผู้สมัครเต็งหนึ่งในศึกชิงบัลลังก์ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ออกมาประณามพวกที่ “สมคบกันแฮกข้อมูล” เพื่อตัดคะแนนนิยมของเขาในช่วงโค้งสุดท้าย หลังมีมือดีนำเอกสารภายในองค์กรหลายฉบับออกเผยแพร่ลงสื่อออนไลน์เมื่อค่ำวานนี้ (5 พ.ค.) หรือเพียง 24 ชม. ก่อนที่การเลือกตั้งรอบตัดสินจะเปิดฉากขึ้น
ทีมงานของผู้สมัครสายกลางออกมาประกาศอย่างฉุนเฉียวว่า การแฮกข้อมูลและนำอีเมลหลายพันฉบับ บัญชี รวมถึงเอกสารอื่นๆ ออกมาเผยแพร่นั้น เป็นความพยายาม “บ่อนทำลายประชาธิปไตย ซึ่งเคยเกิดขึ้นมาแล้วในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ครั้งล่าสุด”
เอกสารเหล่านี้ถูกนำมาแชร์บนสื่อสังคมออนไลน์ราวก่อนเที่ยงคืนวันศุกร์ (5) หรือหลังจากที่ มาครง วัย 39 ปี และ มารีน เลอแปน ผู้สมัครจากพรรคขวาจัด เนชันแนล ฟรอนต์ ได้ยุติการรณรงค์หาเสียงอย่างเป็นทางการ เพื่อรอลุ้นคะแนนโหวตรอบสุดท้ายในวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้ (7 พ.ค.)
ผู้ช่วยของมาครงระบุว่า การเล่นสกปรกลักษณะนี้ “ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในการหาเสียงเลือกตั้งของฝรั่งเศส”
ฮิลลารี คลินตัน อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ อ้างว่าการที่ “แฮกเกอร์รัสเซีย” เจาะบัญชีอีเมลของเจ้าหน้าที่พรรคเดโมแครต และนำข้อมูลเปราะบางออกมาเผยแพร่ในช่วงโค้งสุดท้ายของการหาเสียง คือต้นเหตุสำคัญที่ทำให้เธอต้องพ่ายแพ้แก่ โดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อปีที่แล้ว
ทีมงานของ มาครง ระบุว่า เจ้าหน้าที่หลายคนในพรรค อ็อง มาร์เช (En Marche) ถูกแฮกอีเมลส่วนตัวและอีเมลสำหรับทำงานเมื่อหลายสัปดาห์ก่อน ซึ่งเป็นหนึ่งใน “การโจมตีที่รุนแรงและซ้ำซาก” ต่อ มาครง นับตั้งแต่เขาประกาศตัวลงสมัครรับเลือกตั้ง
“เอกสารทั้งหมดที่ถูกขโมยไม่มีอะไรผิดกฎหมาย และเป็นเครื่องยืนยันว่าการหาเสียงของฝ่ายเราเป็นไปอย่างถูกต้อง”
เว็บไซต์วิกิลีกส์ได้โพสต์ลิงก์ในทวิตเตอร์ซึ่งสามารถคลิกเข้าไปดูชุดเอกสารเหล่านี้ได้ โดยยืนยันว่าทางกลุ่มไม่ได้เป็นผู้แฮกข้อมูลมา แต่กำลัง “ตรวจสอบ” เนื้อหาบางส่วนของชุดเอกสารซึ่งมีขนาดใหญ่ประมาณ 9 กิกะไบต์
ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลให้แฮชแท็ก #MacronLeaks กลายเป็นเทรนด์ยอดนิยมในทวิตเตอร์ทั่วโลกภายในไม่กี่ชั่วโมง
ผลสำรวจความคิดเห็นเมื่อวันศุกร์ (5) พบว่า มาครง มีคะแนนนำห่าง เลอแปน อยู่ที่ 62 ต่อ 38 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นสัญญาณชัยชนะสำหรับอดีตนายธนาคารหนุ่มที่ชูแนวคิดโปรยุโรปและส่งเสริมภาคธุรกิจ
กระแสต่อต้านกลุ่มอำนาจเก่าและแนวคิดขวาจัดที่กำลังมาแรงทั่วโลกทำให้ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสครั้งนี้เป็นที่จับตามองทั้งในยุโรปและนานาชาติ โดย มาครง และ เลอแปน ต่างก็มีวิสัยทัศน์ที่แตกต่างกันอย่างสุดขั้ว
ขณะเดียวกัน นักเคลื่อนไหวกลุ่มกรีนพีซก็ได้ฝ่าฝืนมาตรการรักษาความปลอดภัยปีนขึ้นไปบนหอไอเฟล และติดป้ายรณรงค์ต่อต้าน เลอแปน ซึ่งมีข้อความว่า “เสรีภาพ เสมอภาค ภราดรภาพ” และ “#resist”
ตำรวจฝรั่งเศสชี้ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสะท้อนถึงความหละหลวมในการรักษาความปลอดภัยสถานที่ท่องเที่ยวระดับโลก ขณะที่กรุงปารีสก็ได้สั่งเสริมกำลังเจ้าหน้าที่คอยเดินตรวจตรารอบๆ หอไอเฟลแล้ว