รอยเตอร์ - มหาเศรษฐี โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรครีพับลิกัน ออกมาเชิญชวน “รัสเซีย” ให้ช่วยแฮกอีเมลอีกหลายหมื่นฉบับที่ ฮิลลารี คลินตัน ไม่ได้ส่งมอบให้สำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) ตรวจสอบ ขณะที่บรรดาผู้สนับสนุนคลินตันต่างออกมาโจมตีมหาเศรษฐีปากเปราะว่ากำลังเชื้อเชิญต่างชาติให้สอดแนมชาวอเมริกัน
“รัสเซีย ถ้าฟังอยู่ผมหวังว่าพวกคุณจะช่วยหาอีเมลอีก 30,000 ฉบับยังที่หายไป” ทรัมป์ให้สัมภาษณ์เมื่อวันพุธ (27 ก.ค.) ที่โดรัล กอล์ฟ รีสอร์ต ในมลรัฐฟลอริดา
ทีมหาเสียงของอดีตรัฐมนตรีหญิงผู้ผ่านการรับรองจากที่ประชุมใหญ่ของพรรคเดโมแครตให้เป็นตัวแทนลงชิงชัยในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปลายปีนี้ ออกมาโต้กลับทันทีว่า ทรัมป์คือ “ภัยคุกคามของประเทศ” เพราะสนับสนุนให้ต่างชาติสอดแนมสหรัฐฯ ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญข่าวกรองบางคนถึงกับวิจารณ์ว่า คำพูดของ ทรัมป์สื่อให้เห็นถึงความไร้วิจารณญาณของเขา
เจสัน มิลเลอร์ โฆษกส่วนตัวของทรัมป์ พยายามออกมาแก้สถานการณ์ โดยยืนยันว่าทรัมป์ไม่มีเจตนาเรียกร้องให้มอสโกแฮกอีเมลของคลินตัน
ด้านทรัมป์ก็ได้โพสต์ข้อความทางทวิตเตอร์ว่า ถ้าใครมีอีเมลของคลินตันอยู่ “ก็ควรจะส่งมอบให้เอฟบีไอตรวจสอบ”
คำพูดของมหาเศรษฐีปากร้ายยังถูกนำไปอ้างถึงในการประชุมใหญ่ของพรรคเดโมแครตที่เมืองฟิลาเดลเฟีย เพื่อพิสูจน์ว่าคลินตันคือผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมต่อการเป็นผู้นำประเทศมากกว่าทรัมป์
“นี่เป็นอีกครั้งที่โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศถือหางรัสเซีย และขอให้รัสเซียแทรกแซงการเมืองของอเมริกา” เลียน เพเนตตา อดีตผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองกลาง (ซีไอเอ) ซึ่งสนับสนุนคลินตันมานาน ระบุ
“โดนัลด์ ทรัมป์ เรียกร้องให้ประเทศคู่อริของเราเข้ามาแฮกข้อมูล หรือสอดแนม โดยเจตนาให้มีผลต่อการเลือกตั้งประธานาธิบดีในสหรัฐฯ”
พล.ร.ต.จอห์น ฮัตสัน ซึ่งได้ขึ้นปราศรัยบนเวทีประชุมพรรคเดโมแครตเช่นกัน ระบุว่า “เช้าวันนี้โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกปากเชื้อเชิญด้วยตนเองให้รัสเซียเจาะระบบคอมพิวเตอร์ในสหรัฐฯ การทำเช่นนี้ผิดระเบียบ ผิดกฎหมาย และเข้าข่ายเจตนาก่ออาชญากรรม”
เอฟบีไอกำลังตรวจสอบว่าแฮกเกอร์รัสเซียมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่กับการเจาะอีเมลของผู้นำพรรคเดโมแครต หลังจากมีอีเมลกว่า 19,000 ฉบับรั่วไหลออกมาเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (22 ก.ค.) โดยเนื้อหาของอีเมลเหล่านี้ยืนยันสิ่งที่ ส.ว.เบอร์นี แซนเดอร์ส กล่าวหามาโดยตลอดว่าผู้นำพรรคเดโมแครต “ลำเอียง” เข้าข้างคลินตัน และจงใจขัดขวางไม่ให้ตนเป็นผู้ชนะในศึกเลือกตั้งไพรมารีที่ผ่านมา
คลินตันยอมรับว่าเธออาจจะเคยพลาดไปโดย “รู้เท่าไม่ถึงการณ์” หลังจากเอฟบีไอได้แถลงผลการตรวจสอบ ซึ่งพบว่าคลินตันเคยรับ-ส่ง ข้อมูลชั้นความลับผ่านเซิร์ฟเวอร์ส่วนตัวอย่างน้อย 115 ครั้ง ระหว่างที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศ ช่วงปี 2009-2013
เจมส์ โคมีย์ ผู้อำนวยการเอฟบีไอวิจารณ์คลินตัน และผู้ช่วยของเธอว่า “สะเพร่าอย่างยิ่ง” และชี้ว่า พนักงานรัฐที่ “รู้จักคิด” ควรจะทราบว่าข้อมูลแบบไหนที่ไม่สามารถส่งผ่านอีเมลได้ แต่ถึงกระนั้น เขาก็ประกาศจะไม่เอาผิดคลินตัน โดยอ้างว่าไม่มีหลักฐานเพียงพอต่อการส่งฟ้องคดีอาญา
คลินตันได้ส่งมอบอีเมลหลายหมื่นฉบับให้เอฟบีไอตรวจสอบเมื่อปี 2015 แต่ปฏิเสธที่จะเผยข้อมูลในอีเมลอีกราวๆ 30,000 ฉบับที่เธออ้างว่าเป็น “เรื่องส่วนตัว” และไม่เกี่ยวข้องกับงาน
ทรัมป์ออกมาปฏิเสธข้อสันนิษฐานที่ว่า อีเมลของคณะกรรมการพรรคเดโมแครตแห่งชาติ (DNC) ที่ถูกเปิดโปงผ่านเว็บไซต์วิกิลีกส์เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเป็นแผนของ “รัสเซีย” ที่ต้องการเพิ่มคะแนนนิยมให้แก่ตน โดยก่อนหน้านี้ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ก็เคยออกมาชื่นชมทรัมป์ว่าเป็นคน “มีพรสวรรค์อย่างยิ่ง”
“ข่าวลือที่เกี่ยวกับรัสเซียทั้งหมดเป็นแค่แผนเบนความสนใจเท่านั้น... ผมไม่เคยพบปูติน และไม่รู้ด้วยว่าปูตินคือใคร” ทรัมป์กล่าว