รอยเตอร์ - สหรัฐฯ มีผลประโยชน์ที่ยั่งยืนถาวรในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและกำลังทำงานเพื่อการเปลี่ยนผ่านอำนาจอย่างเป็นระเบียบสู่คณะบริหารของว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ แอชตัน คาร์เตอร์ กล่าวในวันนี้ (7 ธ.ค.)
คาร์เตอร์อยู่ในญี่ปุ่นเพื่อพยายามบรรเทาความวิตกกังวลที่เกิดจากชัยชนะของทรัมป์ ซึ่งเรียกร้องให้พันธมิตรออกค่าใช้จ่ายมากขึ้นเพื่อรักษากองกำลังของสหรัฐฯ เอาไว้ หรือไม่ก็อาจเผชิญกับการถอนกำลังออก
คณะบริหารของบารัค โอบามา ให้ความสำคัญกับเอเชียและพันธมิตรของสหรัฐฯ เป็นอันดับหนึ่ง รายละเอียดเกี่ยวกับนโยบายต่อภูมิภาคนี้ของทรัมป์ยังคงไม่ชัดเจน แต่เขาต้องการเห็นพันธมิตรของสหรัฐฯ อย่างญี่ปุ่นและเกาหลีใต้รับภาระค่าใช้จ่ายการป้องกันประเทศร่วมกันมากกว่านี้
“สหรัฐฯ มีผลประโยชน์ที่สำคัญในภูมิภาคนี้ และด้วยเหตุนั้น เนื่องจากผลโยชน์มากมายที่มีร่วมกับญี่ปุ่น เราจึงมีผลประโยชน์ร่วมในการสร้างเสริมขีดความสามารถของพันธมิตร” คาร์เตอร์บอกกับผู้สื่อข่าว
คาร์เตอร์กล่าวว่า เขาไม่อาจพูดแทนคณะบริหารของทรัมป์ที่จะเข้ามาในเร็วๆ นี้ได้ แต่เขารู้จักและเคารพ เจมส์ แมททิส นายพลหน่วยนาวิกโยธินปลดเกษียณ ซึ่งเป็นผู้ที่ทรัมป์เลือกให้คุมเพนตากอน
“ผมมีหน้าที่ส่งมอบความรับผิดชอบในกระทรวงกลาโหมอย่างเป็นระเบียบเพื่อให้ผู้สืบทอดตำแหน่งต่อจากผมสามารถเริ่มทำงานอย่างประสิทธิภาพได้ทันที” เขากล่าว
“ผลประโยชน์ของอเมริกาในภูมิภาคนี้ยั่งยืนถาวรและความเป็นพันธมิตรของเราเอื้อประโยชน์มากมายแก่พวกเราทั้งสองฝ่าย”
ในการรับรู้ถึงความกังวลเกี่ยวกับการผงาดขึ้นมาของจีนซึ่งกิจกรรมทางทะเลอันก้าวร้าวของพวกเขาในทะเลจีนตะวันออกและทะเลจีนใต้ทวีความขัดแย้งทางอาณาเขตกับหลายประเทศในภูมิภาคนี้รวมถึงญี่ปุ่น คาร์เตอร์กล่าวว่า วอชิงตันและโตเกียวมีผลประโยชน์และค่านิยมร่วมกัน
“มันเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องค้ำจุนสิ่งต่างๆ อย่างเช่นเสรีภาพในการเดินเรือในภูมิภาคนี้และเสรีภาพจากการถูกบีบบังคับ และนั่นเป็นแง่มุมที่เราก็มีทัศวิสัยร่วมกัน” เขากล่าว
คาร์เตอร์จะเดินทางต่อไปยังอินเดียซึ่งได้บรรลุข้อตกลงกับสหรัฐฯ เกี่ยวกับการใช้ฐานทัพของอีกฝ่ายหนึ่งเพื่อการซ่อมแซม พวกเขายังกำลังร่วมมือกันเกี่ยวกับโครงการเรือบรรทุกเครื่องบินของอินเดียด้วย