xs
xsm
sm
md
lg

ยอดตายเหตุไฟไหม้โกดังจัดปาร์ตี้ในแคลิฟอร์เนียพุ่ง 33 ราย - คาดจะพบอีกหลายศพ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ภาพเหตุการณ์เพลิงไหม้โกดังซึ่งถูกใช้เป็นสถานที่จัดงานปาร์ตีในเมืองโอ๊คแลนด์ มลรัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อกลางดึกวันที่ 3 ธ.ค.
รอยเตอร์ - ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุเพลิงไหม้โกดังเก็บของซึ่งถูกดัดแปลงเป็นสถานที่จัดงานปาร์ตี้ในเมืองโอ๊กแลนด์ มลรัฐแคลิฟอร์เนีย เพิ่มขึ้นเป็นน้อย 33 รายเมื่อวานนี้ (4 ธ.ค.) และมีแนวโน้มจะขยับสูงขึ้นอีก ขณะที่พนักงานสอบสวนคดีอาชญากรรมและหน่วยเก็บกู้ได้เดินทางเข้าไปตรวจสอบซากอาคารที่ถูกเพลิงไหม้แล้ว

หน่วยดับเพลิงเมืองโอ๊คแลนด์ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกของซานฟรานซิสโก พบร่างที่ไหม้เกรียมของนักเที่ยวกว่า 30 คนติดอยู่ในซากโกดังสินค้า 2 ชั้น ซึ่งถูกดัดแปลงเป็นสถานที่เก็บงานศิลปะ

สาเหตุของเพลิงไหม้ยังไม่เป็นที่แน่ชัด แต่เจ้าหน้าที่ได้ตัดประเด็นการลอบวางเพลิงออกไป

อย่างไรก็ดี พนักงานสอบสวนยังจำเป็นต้องตรวจสอบว่าโกดังซึ่งเคยถูกใช้เป็นสถานที่จัดแสดงดนตรีมาแล้วหลายครั้งนี้มีการฝ่าฝืนกฎหมายโครงสร้างอาคารหรือไม่

ลิบบี ชาฟ นายกเทศมนตรีเมืองโอ๊กแลนด์ ระบุว่า สำนักงานอัยการแขวงเทศมณฑลอลาเมดา (Alameda) ได้ส่งทีมสืบสวนคดีอาชญากรรมเข้าไปยังจุดเกิดเหตุแล้ว และมีผู้แทนจากสำนักงานอัยการไปเฝ้าสังเกตการณ์การเก็บกู้หลักฐานต่างๆ

ชาฟระบุด้วยว่า ภารกิจหลักของเจ้าหน้าที่คือการค้นหาร่างผู้เสียชีวิต และช่วยเหลือครอบครัวที่สูญเสีย

“เราได้แจ้งข่าวอันน่าเศร้าสลดและยากจะรับได้ให้ครอบครัวผู้เสียชีวิตทราบแล้ว 7 ราย” เธอบอก

เพลิงไหม้ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 23.30 น.ของวันศุกร์ (2) ถูกยกให้เป็นอัคคีภัยครั้งเลวร้ายที่สุดในสหรัฐฯ ถัดจากเหตุเพลิงไหม้ไนต์คลับ “เดอะ สเตชัน” บนเกาะโรดไอแลนด์เมื่อปี 2003 ซึ่งคร่าชีวิตนักเที่ยวไปถึง 100 คน

โกดังแห่งนี้ได้ฉายาว่า “โกสต์ชิป” (Ghost Ship) และเป็นหนึ่งในโกดังที่ถูกแปรสภาพหลายแห่งในย่านฟรุตเวล (Fruitvale) ซึ่งเป็นชุมชนคนเชื้อสายละติโน และมีค่าเช่าถูกกว่าย่านอื่นๆ ในเมืองโอ๊กแลนด์

เรย์ เคลลี โฆษกสำนักงานผู้ปกครองเทศมณฑลอลาเมดา แถลงเมื่อค่ำวันอาทิตย์ (4) ว่า การตรวจค้นซากโกดังที่ถูกไฟไหม้เพิ่งจะแล้วเสร็จประมาณ 35-40%

เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถระบุจำนวนผู้สูญหาย เนื่องจากไม่ทราบว่าขณะเกิดเหตุมีนักท่องเที่ยวอยู่ภายในโกดังกี่คน

เคลลี กล่าวเสริมว่า หน่วยเก็บกู้ยังต้องเข้าไปตรวจค้นบ้านเคลื่อนที่หลายหลังซึ่งถูกนำไปจอดไว้ที่ชั้นล่างของอาคาร ซึ่งดูเหมือนจะมีผู้คนอาศัยอยู่ด้วย

อาคารหลังนี้ถูกออกแบบเพื่อใช้เป็นโกดังเก็บสินค้าเท่านั้น แต่ฝ่ายบริหารเมืองก็ได้รับแจ้งอยู่เนืองๆ ว่ามีผู้คนแอบเข้าไปอาศัยอยู่อย่างผิดกฎหมาย

การทำงานของหน่วยเก็บกู้ล่าช้าไปหลายชั่วโมง เนื่องจากหลังคาอาคารพังถล่มลงมาบนชั้นสอง และพื้นชั้นสองบางจุดก็ถล่มลงมาถึงชั้นล่าง ทำให้อันตรายแก่การเข้าไปตรวจสอบ

“เราพบร่างผู้เสียชีวิตในแทบจะทุกส่วนของโกดัง... แม้แต่บริเวณที่เราไม่คาดคิดว่าจะพบ” เคลลี กล่าว

ผู้เสียชีวิตบางรายอายุเพียงแค่ 17 ปี หรือต่ำกว่านั้น แต่ส่วนใหญ่เป็นนักเที่ยวในวัย 20-30 ปีเศษ และมีทั้งผู้ที่เดินทางมาจากรัฐอื่นๆ หรือแม้แต่ชาวต่างประเทศ

เนื่องจากหลายศพถูกไฟคลอกจนแทบไม่เหลือเค้าเดิม เจ้าหน้าที่จึงขอให้ครอบครัวผู้เสียชีวิตเก็บรักษาสิ่งของที่อาจมีดีเอ็นเอติดอยู่ เพื่อช่วยในการพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล



กำลังโหลดความคิดเห็น