xs
xsm
sm
md
lg

“อังคณา” ยื่นดีเอสไอ คัดค้านยุติคดีอุ้ม “ทนายสมชาย” ชี้เป็นอาชญากรรมไม่มีอายุความ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


MGR Online - “อังคณา นีละไพจิตร” เข้าพบดีเอสไอ คัดค้านการยุติการสอบสวนคดี “ทนายสมชาย” อ้างยูเอ็นจัดคดีอุ้มหายเป็นอาชญากรรมไม่มีอายุความ อธิบดีดีเอสไอระบุงดการสอบสวนจนกว่าจะปรากฏหลักฐานใหม่

วันนี้ (3 พ.ย.) เวลา 10.00 น. กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นางอังคณา นีละไพจิตร กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ และ พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รองอธิบดีดีเอสไอ เพื่อขอคัดค้านมติคณะกรรมการคดีพิเศษในการยุติการสอบสวนคดีนายสมชาย นีละไพจิตร เนื่องจากไม่ปรากฏตัวผู้กระทำผิด

นางอังคณากล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 12 ต.ค. 2559 ที่ผ่านมา ตนได้รับหนังสือจากดีเอสไอแจ้งว่าคณะกรรมการคดีดังกล่าวมีมติให้ยุติคดีนายสมชาย จนกระทั่งวันนี้ได้เดินทางมายื่นหนังสือให้ดีเอสไอที่ตนฐานะคนในครอบครัวขอคัดค้านมติคณะกรรมการ สาเหตุเนื่องจากว่าคดีการบังคับสูญหายเป็นคดีต่อเนื่องไม่มีอายุความ ดังนั้น ดีเอสไอก็ต้องสอบสวนคดีนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะพบผู้สูญหาย ทั้งนี้ กฎหมาย พ.ร.บ.การป้องกันและปราบปรามการทรมานและการบังคับบุคคลให้สูญหายก็กำลังจะผ่านพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และหากกฎหมายนี้ประกาศใช้จะเป็นประโยชน์แก่ญาติและครอบครัวของผู้สูญหาย โดยที่ผ่านมาตนได้มีโอกาสพูดคุยกับนางสุวณา สุวรรณจูฑะ อธิบดีดีเอสไอคนก่อน ซึ่งได้ให้ความสำคัญต่อคดีนี้และจะยังคงสอบสวนอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะมี พ.ร.บ.ดังกล่าว พร้อมเชิญครอบครัว มาหารือร่วมกัน แต่ก็ประหลาดใจเมื่อดีเอสไอยุติการสอบสวน

นางอังคณากล่าวอีกว่า เรื่องคดีการบังคับสูญหายต้องยอมรับไม่ใช่เรื่องส่วนตัว แต่เป็นปัญหาของสังคมที่เกิดขึ้นมานาน และดีเอสไอรับคดีนี้ไปกว่า 11 ปี 9 เดือนเศษ แต่ก็มีปัญหามาตลอด ที่จริงแล้วครอบครัวตน ไม่รู้เลยว่ามีการสอบสวนไปถึงไหนบ้าง แม้ที่ผ่านมามีการหาศพนายสมชายแต่ก็ไม่เจอหลักฐาน โดย พนักงานสอบสวนดีเอสไอทราบดีว่าตำรวจที่อุ้มฆ่านายสมชายเผาทำลายศพจนไม่เหลืออะไร อย่างไรก็ตาม ดีเอสไอต้องหาแนวทางอื่นมาคลี่คลายคดี ฉะนั้น หากว่าทุกคดีที่ไม่พบศพแล้วจะให้ความยุติธรรมไม่ได้ ต่อไปคดีเช่นนี้ในสังคมไทยจะดำเนินการอย่างไร

ด้าน พ.ต.อ.ไพสิฐเปิดเผยว่า ดีเอสไอดำเนินการตรวจสอบมาตลอดและทุกวิถีทางเพื่อให้ได้ทราบตัวผู้กระทำผิด แต่เมื่อดีเอสไอสืบสวนเป็นเวลานานพอสมควรไม่มีหลักฐานมายืนยันการกระทำผิด ดีเอสไอจึงงดการสอบสวน แต่การงดของอัยการบอกว่าหากรู้ตัวบุคคลหรือมีพยานหลักฐานเพิ่มเติมสามารถดำเนินการต่อไปได้ ส่วนร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวหากผ่านพิจาณาก็สามารถดำเนินการต่อไปได้เช่นกัน

นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีการโอนย้าย 3 เจ้าหน้าที่ดีเอสไอไปยังสังกัดสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี มีผลตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 2559 โดย พ.ต.อ.ไพสิฐกล่าวเพิ่มเติมว่า เป็นเรื่องของผู้บังคับบัญชาพิจารณาพร้อมปฏิบัติตามคำสั่ง เมื่อมีคำสั่งก็ต้องปฏิบัติตามขั้นตอน สำหรับคดีที่สำคัญในความรับผิดชอบของดีเอสไอนั้นได้ทำงานในรูปแบบคณะกรรมการ ส่วนหัวหน้าชุดปฏิบัติจะมีการมอบหมายกันต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น