xs
xsm
sm
md
lg

ปักกิ่งประท้วง “ทรัมป์” คุยผู้นำไต้หวัน ย้ำนโยบาย “จีนเดียว” คือหัวใจสำคัญ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


รอยเตอร์ - จีนประท้วงทางการทูตเมื่อวันเสาร์ (3) หลังทรัมป์คุยโทรศัพท์กับประธานาธิบดีไต้หวัน โทษผู้นำแดนมังกรน้อยเป็นฝ่ายเริ่มการเคลื่อนไหวหยุมหยิม ย้ำ ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงนโยบายจีนเดียว ที่เป็นพื้นฐานทางการเมืองของความสัมพันธ์ จีน - สหรัฐฯ

การสนทนาทางโทรศัพท์นาน 10 นาที กับประธานาธิบดี ไช่ อิงเหวิน ของไต้หวัน ถือเป็นการพูดคุยครั้งแรกกับว่าที่ประธานาธิบดี หรือประธานาธิบดีสหรัฐฯ นับจากที่อดีตประธานาธิบดี จิมมี คาร์เตอร์ ผละจากไต้หวันไปให้การยอมรับจีนในปี 1979 พร้อมยอมรับว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีน

กระทรวงต่างประเทศของจีน เผยว่า ได้ยื่นประท้วงอย่างแข็งกร้าวต่อฝ่ายที่เกี่ยวข้องของสหรัฐฯ ซึ่งหมายถึงทีมงานของว่าที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เพื่อเรียกร้องให้จัดการกับประเด็นไต้หวันอย่างระมัดระวัง เพื่อหลีกเลี่ยงการกระทบกระทั่งกันโดยไม่จำเป็น ย้ำหลักการจีนเดียว คือ พื้นฐานทางการเมืองของความสัมพันธ์ จีน - สหรัฐฯ

นอกจากนั้น เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (2) ไม่กี่ชั่วโมงหลังการพูดคุยระหว่างทรัมป์กับไช่ โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน หวัง อี้ ได้กล่าวโทษไต้หวันเรื่องนี้มากกว่าจะโทษทรัมป์ นักธุรกิจที่มีประสบการณ์นโยบายต่างประเทศเท่าหางอึ่ง

“ไต้หวันเป็นฝ่ายเริ่มเรื่องหยุมหยิมนี้ ซึ่งไม่สามารถเปลี่ยนนโยบายจีนเดียวที่อเมริกายึดถือได้” หวัง กล่าวในงานประชุมทางวิชาการในกรุงปักกิ่ง พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีน และทรัมป์หารือทางโทรศัพท์ทันทีที่ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งเมื่อต้นเดือนที่แล้ว และว่าที่ประมุขทำเนียบขาวยกย่อง ว่า จีนเป็นประเทศที่ยิ่งใหญ่

หวัง สำทับว่า การพูดคุยดังกล่าวเป็นการส่งสัญญาณแง่บวกอย่างชัดเจนเกี่ยวกับพัฒนาการความสัมพันธ์ จีน - อเมริกา ในอนาคต ผู้นำทั้งคู่ไม่ได้เอ่ยถึงไต้หวันระหว่างการพูดคุยแต่อย่างใด

สำนักงานกิจการไต้หวันของจีน วิจารณ์เช่นเดียวกันว่า การเคลื่อนไหวไร้สาระของไต้หวันไม่สามารถเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงที่ว่า ไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีนได้ ปักกิ่งคัดค้านการประกาศเอกราชของไทเปอย่างเด็ดขาด

ทางฝ่ายทรัมป์ทวีตว่า ไช่เป็นฝ่ายโทร.หาตนเพื่อแสดงความยินดีในชัยชนะจากการเลือกตั้ง ส่วนทางด้าน อเล็กซ์ ฮวง โฆษกของไช่ เผยว่า ทั้งสองฝ่ายตกลงกันล่วงหน้าว่าจะมีการติดต่อกัน

ขณะที่ทีมเปลี่ยนถ่ายอำนาจของทรัมป์ แถลงว่า ทรัมป์และไช่ตั้งข้อสังเกตถึงความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ การเมือง และความมั่นคง ที่ใกล้ชิดระหว่างไต้หวัน และอเมริกา ส่วนสำนักงานประธานาธิบดีไต้หวัน เผยว่า ทั้งคู่หารือกันเรื่องส่งเสริมการติดต่อและความร่วมมือระหว่างกัน

จีนนั้นมองไต้หวันเป็นมณฑลขบถ และไม่ตัดความเป็นไปได้ในการใช้กำลังเพื่อให้ไต้หวันอยู่ในอาณัติ ความสัมพันธ์ระหว่างสองฝ่ายเลวร้ายลงหลังจากที่ไช่ ผู้นำพรรคเดโมเครติก โปรเกรสซีพ ที่สนับสนุนการประกาศเอกราช ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีไต้หวันในเดือนมกราคม

สื่อของทางการจีนช่วยกันลดความเป็นไปได้ที่เหตุการณ์นี้ จะส่งผลอย่างรุนแรงต่อความสัมพันธ์ปักกิ่ง - วอชิงตัน ขณะที่ทรัมป์กำลังเตรียมตัวเพื่อเข้าสู่ทำเนียบขาวต้นปีหน้า

หนังสือพิมพ์ กลอบัล ไทม์ ของจีน ระบุในบทบรรณาธิการฉบับออนไลน์ ว่า หากทรัมป์คว่ำหลักการจีนเดียวหลังจากเข้ารับตำแหน่ง จะก่อให้เกิดวิกฤตกับจีนที่จะทำให้เขาไม่มีเวลาไปทำอย่างอื่นเลย

“เราเชื่อว่า คนฉลาดอย่างทรัมป์ไม่อยากทำแบบนั้น” สื่อแดนมังกร ระบุ

ส่วนสำนักข่าวซินหัวของจีน สำทับว่า ทรัมป์ต้องรู้ว่า ปักกิ่งสามารถเป็นหุ้นส่วนที่ร่วมมือกัน ตราบที่วอชิงตันเคารพผลประโยชน์หลักของปักกิ่ง ซึ่งรวมถึงประเด็นไต้หวัน

แม้อเมริกายังคงเป็นพันธมิตรทางการเมืองที่สำคัญที่สุด และผู้จัดหาอาวุธเพียงรายเดียวของไต้หวัน แต่กลับไม่มีความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการระหว่างกัน

ทรัมป์นำข้อเท็จจริงนี้มาประชดในทวิตเตอร์ว่า “น่าสนใจ อเมริกาขายอาวุธให้ไต้หวันเป็นมูลค่านับพันล้านดอลลาร์ แต่ผมกลับไม่ควรรับสายผู้นำไทเปที่โทร.มาแสดงความยินดี”

นับจากชนะเลือกตั้ง ทรัมป์เลี่ยงการพูดคุยทางโทรศัพท์กับผู้นำต่างชาติหลายคน ทั้งที่เป็นธรรมเนียมปฏิบัติ ร้อนถึงทำเนียบขาวต้องกระตุ้นให้ทรัมป์ใช้ประสบการณ์ทางการทูต และที่ปรึกษาจากกระทรวงต่างประเทศ

เคลลี่ แอนน์ คอนเวย์ ที่ปรึกษาของทรัมป์ ให้สัมภาษณ์ทางซีเอ็นเอ็น ว่า ทรัมป์ตระหนักดีถึงนโยบายของอเมริกาต่อไต้หวัน

ทว่า เจ้าหน้าที่คณะบริหารชุดปัจจุบัน เผยว่า ทีมทรัมป์ไม่ได้แจ้งทำเนียบขาวก่อนที่จะคุยโทรศัพท์กับผู้นำไทเป ทำเนียบขาวยังยืนยันว่า นโยบายเกี่ยวกับจีนและไต้หวันที่มีมายาวนานไม่มีการเปลี่ยนแปลง

อย่างไรก็ตาม ที่ปรึกษาของทรัมป์ ระบุว่า ทรัมป์อาจใช้นโยบายต่อจีนอย่างแข็งกร้าวมากกว่ายุคประธานาธิบดี บารัค โบอามา และมีแผนส่งเสริมการทหารส่วนหนึ่งเพื่อรับมือการขยายอิทธิพลของจีนในเอเชีย แต่ยังไม่มีแผนการที่ชัดเจนอย่างใด

ทั้งนี้ ทรัมป์วิจารณ์จีนรุนแรงตลอดฤดูหาเสียง รวมทั้งประกาศพร้อมขึ้นภาษีสินค้าจีน 45% และยังตราหน้าจีนเป็นนักบิดเบือนค่าเงิน

เมื่อต้นสัปดาห์ที่แล้ว เขายังพูดคุยและยกย่องนายกรัฐมนตรี นาวาซ ชารีฟ ของปากีสถาน เป็นบุคคลที่ยอดเยี่ยม

ทั้งนี้ ความสัมพันธ์วอชิงตัน - อิสลามาบัด ปีนเกลียวมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา จากการที่อเมริกากล่าวหาปากีสถานให้ที่พักพิงกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงที่สังหารทหารอเมริกันในอัฟกานิสถาน

ขณะเดียวกัน ผู้ช่วยของประธานาธิบดี โรดริโก ดูเตอร์เต ของฟิลิปปินส์ เผยว่า ทรัมป์เชิญดูเตอร์เตที่เคยเรียกโอบามา ว่า “ลูกกะหรี่” ไปยังทำเนียบขาวในปีหน้า แต่แถลงการณ์จากทีมงานของทรัมป์ไม่ได้ระบุถึงเรื่องนี้แต่อย่างใด


กำลังโหลดความคิดเห็น