เอเอฟพี - ชาวมาเลเซียนับหมื่นคนสวมใส่เสื้อสีเหลืองออกมาเดินขบวนใจกลางกรุงกัวลาลัมเปอร์ในวันนี้ (19 พ.ย.) เพื่อกดดันให้นายกรัฐมนตรี นาจิบ ราซัก แสดงความรับผิดชอบต่อคดีทุจริตอื้อฉาวด้วยการลาออก ขณะที่ฝ่าย “แดงมาเลย์” ที่หนุนหลังรัฐบาลก็มีการเรียกระดมพล จนเสี่ยงที่จะเกิดปรากฏการณ์ม็อบชนม็อบ
นับเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 15 เดือนที่กลุ่มนักเคลื่อนไหวเพื่อการปฏิรูปเลือกตั้ง “เบอร์ซิห์” (Bersih) ได้นัดชุมนุมใหญ่ เพื่อบีบให้มีการดำเนินคดีกับนายกฯ นาจิบ ซึ่งถูกกล่าวหาว่ายักยอกเงินนับพันๆ ล้านดอลลาร์ไปจากกองทุนเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจระยะยาว วัน มาเลเซีย ดีเวลลอปเมนต์ เบอร์ฮัด (1MDB)
สถานการณ์ทางการเมืองในมาเลเซียช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมาทวีความตึงเครียดขึ้นเรื่อยๆ หลังจากกลุ่ม “เสื้อแดง” ที่มีแนวคิดขวาจัดประกาศจะระดมมวลชนที่สนับสนุน นาจิบ ออกมาชุมนุมต้านม็อบเสื้อเหลือง
รัฐบาลมาเลเซียได้สั่งจับกุมแกนนำทั้ง 2 ฝ่ายเพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนจะถึงเวลานัดชุมนุมใหญ่ แต่ยังไม่แน่ว่าการทำเช่นนี้จะยิ่งโหมกระพือสถานการณ์ให้ย่ำแย่ลงไปอีกหรือไม่
ตำรวจปราบจลาจลถูกส่งไปดูแลความสงบเรียบร้อยตามพื้นที่สำคัญ และยังมีการปิดถนนหลายเส้นทางทั้งภายในและรอบๆ กรุงกัวลาลัมเปอร์ตั้งแต่เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา
ล่าสุด ยังไม่มีรายงานเหตุรุนแรงใดๆ
“เราต้องการรัฐบาลที่ขาวสะอาด เราอยากเห็นการเลือกตั้งที่เป็นธรรม” เดเร็ก หว่อง นายหน้าค้าอสังหาริมทรัพย์วัย 38 ปี ซึ่งออกมาร่วมชุมนุมกับกลุ่มเบอร์ซิห์ในวันนี้ (19) กล่าว
“ในฐานะพลเมืองคนหนึ่ง ผมมาที่นี่อย่างสันติเพื่อร่วมตัดสินอนาคตของประเทศ พวกเราอยากให้ นาจิบ พ้นตำแหน่งนายกฯ และถูกดำเนินคดีในศาล”
“เบอร์ซิห์” ซึ่งหมายถึง “สะอาดบริสุทธิ์” ในภาษามาเลย์ เป็นกลุ่มพันธมิตรเอ็นจีโอและภาคประชาสังคมที่เคยชุมนุมเรียกร้องให้มีการปฏิรูประบบเลือกตั้งในมาเลเซียมาแล้วหลายครั้งในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทว่าระยะหลังๆ พวกเขาได้หันมาพุ่งเป้าโจมตีรัฐบาลในเรื่องคดีทุจริต 1MDB
เมื่อเดือน ส.ค. ปี 2015 กลุ่มเบอร์ซิห์ได้นัดชุมนุมขับไล่ นาจิบ อย่างสันติเป็นเวลา 2 วันที่ใจกลางกรุงกัวลาลัมเปอร์ และมีประชาชนออกมาร่วมแสดงพลังกับพวกเขานับแสนๆ คน
สถานการณ์ทางการเมืองในมาเลเซียปั่นป่วนมานานกว่า 1 ปี หลังจากที่ นาจิบ ถูกครหาว่ายักยอกเงินนับพันๆ ล้านดอลลาร์ไปจากกองทุน 1MDB เขาก่อตั้งขึ้นเองเมื่อปี 2009
นาจิบ วัย 63 ปี และกองทุน 1MDB ต่างยืนกรานว่าไม่มีการทุจริตใดๆ เกิดขึ้น ทว่ากระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ได้ออกมาแฉข้อมูลเมื่อเดือน ก.ค. ซึ่งบ่งชี้เป็นนัยๆ ว่าคดียักยอกเงินจำนวนมหาศาลนี้พัวพันไปถึงตัวผู้นำเสือเหลือง บุตรบุญธรรม และคนสนิทอีกหลายคน
หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในหลายประเทศก็กำลังสอบสวนเรื่องนี้อยู่เช่นกัน
เจ้าหน้าที่ในคณะรัฐมนตรีมาเลเซียคนหนึ่งเคยออกมายอมรับว่า “Malaysian Official 1” ที่ถูกเอ่ยถึงในเอกสารคำฟ้องของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ก็หมายถึงตัว นาจิบ นั่นเอง
นาจิบ ได้ใช้อิทธิพลยุติกระบวนการสอบสวนภายในประเทศเมื่อปีที่แล้ว ทำให้นักวิจารณ์หลายคนออกมาตำหนินายกฯ ว่าใช้อำนาจ “เผด็จการ” ปกปิดความฉาวโฉ่ ทั้งยังจับกุมฝ่ายตรงข้าม และปิดกั้นการทำงานของสื่อมวลชน
ผู้นำเสือเหลืองได้แถลงผ่านสื่อวิทยุเมื่อวานนี้ (18) ว่า การเคลื่อนไหวของกลุ่มเบอร์ซิห์เป็นเพียง “แผนลวง” เพื่อ “โค่นล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย”
เมื่อวานนี้ (18) ตำรวจมาเลเซียได้เข้าจับกุม มาเรีย ชิน อับดุลเลาะห์ แกนนำกลุ่มเบอร์ซิห์ หลังจากที่ได้จับกุมนักเคลื่อนไหวเพื่อการปฏิรูปและนักการเมืองฝ่ายค้านไปแล้วหลายคน
องค์การนิรโทษกรรมสากล (Amnesty International) ได้ออกมาแถลงติเตียนการกระทำของรัฐบาลเสือเหลืองว่า “ป่าเถื่อนรุนแรงเกินเหตุ และมีจุดประสงค์เพื่อข่มขู่นักเคลื่อนไหวภาคประชาสังคมและนักสิทธิมนุษยชน” ในมาเลเซีย
เมื่อช่วงกลางดึก ตำรวจยังได้เข้าควบคุมตัว ญามาล ยูนุส หัวหน้าแผนกของพรรคพรรคสหมาเลย์แห่งชาติ (อัมโน) และแกนนำเครือข่ายเสื้อแดง ซึ่งออกมาขู่เมื่อไม่กี่วันก่อนว่าอาจจะเกิด “ความรุนแรง” ขึ้น หากคนเสื้อแดงต้องเผชิญหน้ากับกลุ่มเบอร์ซิห์