เอเจนซีส์ / MGR online - รายได้จากการท่องเที่ยวของเอธิโอเปีย ลดลงกว่า 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากผลพวงของการประท้วงต่อต้านรัฐบาลที่ยืดเยื้อ
รายงานข่าวระบุว่า บรรดาผู้ประกอบการภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหาร และร้านจำหน่ายสินค้าที่ระลึกในเอธิโอเปียกำลังประสบความยากลำบากในการประคับประคองกิจการของตน หลังจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศหดหายไปมากกว่าครึ่งในปีนี้ เพราะผลพวงจากการประท้วงต่อต้านรัฐบาลที่ยืดเยื้อ
ในปีที่แล้ว จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาเยือนดินแดนที่ราบสูงแห่งแอฟริกาตะวันออกแห่งนี้มีสูงกว่า 900,000 คน แต่ผลพวงจากปัญหาความไม่สงบทางการเมืองที่เกิดขึ้นทำให้จำนวนผู้มาเยือนจากต่างแดนหดหายไปเกินกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ทางการเอธิโอเปียคาดการณ์ว่ารายได้จากการท่องเที่ยวตลอดทั้งปี 2016 นี้จะหดหายไปกว่า 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากที่เคยตั้งเป้าว่าเม็ดเงินที่ไหลเข้าประเทศจากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในปีนี้ น่าจะพุ่งสูงแตะระดับ 3,000 ล้านดอลลาร์
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลเอธิโอเปียประกาศขยายภาวะฉุกเฉินออกไปอีกเป็นเวลา 6 เดือนนับตั้งแต่ 8 ต.ค.ในพื้นที่รัฐโอโรเมีย หลังสถานการณ์ด้านความมั่นคงในพื้นที่ย่ำแย่เลวร้ายลง
รายงานข่าวซึ่งอ้างสื่อดังของเอธิโอเปียอย่าง “ดิ แอดดิส ฟอร์จูน” ระบุว่า รัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี ไฮเลมาเรียม เดซาเลกน์ ยืนยันถึงความจำเป็นในการประกาศภาวะฉุกเฉินในพื้นที่รัฐโอโรเมีย เป็นเวลาอีกอย่างน้อย 6 เดือน หลังสถานการณ์ด้านความมั่นคงในพื้นที่เลวร้ายย่ำแย่ลงอย่างต่อเนื่อง
การประท้วงต่อต้านรัฐบาลเอธิโอเปียได้ปะทุขึ้นในพื้นที่ของรัฐโอโรเมีย เมื่อ 5 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยกลุ่มผู้ประท้วงซึ่งมีทั้งสมาชิกของพรรคการเมืองฝ่ายค้าน นักศึกษา และประชาชนทั่วไป ได้ยื่นข้อเรียกร้องให้รัฐบาลกลางเอธิโอเปียในกรุงแอดดิสอาบาบาดำเนินมาตรการปฏิรูปทั้งทางสังคมและทางการเมือง รวมถึงการขอให้รัฐบาลเอธิโอเปียยุติการละเมิดสิทธิมนุษยชน การข่มขู่คุกคามทางการเมือง ตลอดจนการเข้ายึดที่ดินทำกินของประชาชน
อย่างไรก็ดี การประท้วงซึ่งเริ่มต้นขึ้นอย่างสันติได้แปรเปลี่ยนเป็นเหตุรุนแรงหลังจากรัฐบาลเอธิโอเปียประกาศมาตรการ “จำกัดการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต” ในพื้นที่รัฐโอโรเมียหวังสกัดกั้นการปลุกระดมผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ของฝ่ายต่อต้าน และรัฐบาลได้ออกคำสั่งเดินหน้าใช้ความรุนแรงสลายการชุมนุม เป็นเหตุให้มีกลุ่มผู้ประท้วงถูกกองกำลังความมั่นคงของรัฐบาลที่ใช้ “กระสุนจริง” กราดยิงเข้าใส่จนมีผู้เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 90 รายภายในระยะเวลาเพียง 3 วัน (ระหว่างวันที่ 6-8 ส.ค.)
ด้านแหล่งข่าวทางการทูตภายในองค์การสหภาพแอฟริกัน (เอยู) เผยว่า ปัญหาความไม่สงบและเหตุรุนแรงยังคงเกิดขึ้นเป็นรายวันทั่วพื้นที่รัฐโอโรเมีย ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตในรัฐแห่งนี้ได้เพิ่มจำนวนขึ้นเป็นมากกว่า 500 รายแล้ว เฉพาะในเดือนตุลาคมที่ผ่านมาเพียงเดือนเดียว