บีบีซี - เฟซบุ๊กงานเข้า ถูกวิพากษ์วิจารณ์เผยแพร่ข่าวเท็จช่วยให้นายโดนัลด ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ส่งผลให้ซีอีโออย่าง มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ต้องรุดออกมาปฏิเสธทันควัน
ในการกล่าว ณ เวทีสัมมนาทางเทคโนโลยี ในแคลิฟอร์เนีย นายซักเคอร์เบิร์ก ระบุว่าเฟซบุ๊กไม่ควรต้องรับผิดชอบกับผลการเลือกตั้ง "ความคิดที่ว่าข่าวเท็จบนบนเฟซบุ๊กมีอิทธิพลต่อการเลือกตั้ง มันเป็นความคิดที่บ้ามาก" เขากล่าว
ข้อมูลบางส่วนแสดงให้เห็นว่าเรื่องราวเท็จมักมีการแชร์ต่อกันอย่างกว้างขวางบนเฟซบุ๊ก จากนั้นก็จะตามด้วยเรื่องราวต่างๆที่จะมาหักล้างคำกล่าวอ้างเหล่านั้น
เฟซบุ๊กกำลังกลายเป็นหล่งข้อมูลปฐมภูมิของการรายงานข่าว เนื่องจากมีผู้ใช้จำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะชาวอเมริกัน
ฟีดข่าวของเฟซบุ๊กออกแบบอย่างเจาะจงให้แสดงเนื้อหาที่คิดว่าผู้ใช้ให้ความสนใจมากที่สุด ซึ่งมันก่อสิ่งที่เรียกว่า "filter bubble" หรือฟองสบู่ที่กรองข้อมูลให้ผู้ใช้ ซึ่งจะเสริมมุมมองแก่บุคคลหนึ่งๆโดยไม่ได้ให้ความเห็นที่แตกต่างเลย
ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงต้นปี เฟซบุ๊กถูกกล่าวหาว่าต่อต้านทรัมป์ หลังมีคำกล่าวอ้างว่าพวกผู้ดูแลที่เป็นมนุษย์ของสื่อออนไลน์แห่งนี้ ชื่นชอบเรื่องราวเสรีนิยมและมันมักปรากฎอยู่ในหมวด trending stories ของผู้ใช้
แม้พวกเขาได้ปฏิเสธ แต่ทางเฟซบุ๊กได้ปลดคณะทำงานที่เป็นมนุษย์ และหันไปพึ่งพิงแต่โปรแกรมเพียงอย่างเดียว เพื่อสรุปว่าเรื่องราวไหนควรอยู่ในหมวดยอดนิยม ทว่าผลก็คือเรื่องราวอันเป็นเท็จมักปรากฎอยู่ในไทม์ไลน์สของผู้ใช้จำนวนมาก
เมื่อถูกถามว่าบริษัทอย่างเช่นเฟซบุ๊ก จำเป็นต้องอยู่ในกรอบของการตรวจสอบและถ่วงดุลหรือไม่ นายซัคเคอร์เบิร์ก ตอบว่า "มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับการฟังเสียงผู้คน ว่าพวกเขาต้องการอะไร"
"เป้าหมายและสิ่งที่ผมแคร์คือ ให้ผู้คนมีอำนาจในการแชร์ เพื่อเราจะได้มีโลกเสรีและเชื่อมต่อกันมากขึ้น นั่นคือความจำเป็นต้องส่งนิวส์ฟีดในเวอร์ชันที่ดี เรากำลังทำงานกันในเรื่องนี้ เรากำลังปรับปรุงมันให้ดียิ่งขึ้น"
ตั้งแต่นางฮิลลารี คลินตัน ยอมรับการแข่งขันที่ว่าแพ้การเลือกตั้งให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ บางคนกล่าวโทษเฟซบุ๊กว่าเผยแพร่เรื่องราวเท็จที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบจากการเลือกตั้ง ทว่า ซัคเคอร์เบิร์ก เมื่อช่วงกลางสัปดาห์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเป็นครั้งแรกหลังจากการประกาศผลการเลือกตั้งของสหรัฐฯ โดยเขาให้มุมมองในทางบวกเกี่ยวกับชัยชนะของนายทรัมป์