เอเจนซีส์ - เกิดเหตุรถรางพลิกคว่ำกระเด็นออกจากราง ที่บริเวณทางตอนใต้ของลอนดอนเมื่อช่วงเช้าวันพุธ (9 พ.ย.) โดยเชื่อว่าเป็นเพราะแล่นด้วยความเร็วสูงเกินไปจึงเสียหลักตอนเข้าโค้ง ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 ราย กับผู้บาดเจ็บอีกกว่า 50 รายที่ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลแล้ว
บรรดาผู้รอดชีวิตจากอุบัติเหตุครั้งนี้ พากันบอกว่าตอนรถรางพลิกคว่ำหลุดออกจากราง ผู้คนก็กระเด็นกระดอนกัน มีร่างคนกับเลือดเต็มไปหมดภายในขบวนรถ เหตุเกิดเมื่อตอนเวลาประมาณ 06.10 น.ของวันพุธ ตามเวลาท้องถิ่น ผู้โดยสารบางรายบอกด้วยว่า คนขับรถรางผู้ถูกจับกุมในภายหลัง มีอาการวูบหมดสติด้วย
เควิน สโนว์ ทหารผ่านศึกของกองทัพเรืออังกฤษวัย 57 ปี คือหนึ่งในผู้ได้รับบาดเจ็บ เขาบอกว่ารถรางไม่ยอมลดความเร็วตอนออกจากอุโมงค์ที่อยู่ระหว่างลอยด์ปาร์ก กับจุดจอดแซนดิแลนด์
“ปกติเวลาออกจากอุโมงค์ คุณจะรู้สึกได้ถึงการเบรก แต่ครั้งนี้ไม่มีเลย ตอนนั้นผมยังคิดเลยว่าเขาควรจะเบรคได้แล้ว หลังจากนั้นสิ่งที่ผมรู้ก็คือเราพลิกคว่ำลงไปอยู่ข้างทาง ทุกคนพากันกรีดร้องและตะโกน คนบาดเจ็บเยอะมาก มีหลายคนที่ขยับตัวไม่ได้ด้วย” สโนว์กล่าว
เขาบอกด้วยว่า รถรางไถลอยู่ประมาณ 8-10 วินาที ก่อนที่จะหยุดนิ่ง ทุกคนพยายามที่จะออกจากรถ แต่มองไม่เห็นทางออก หลายคนสงสัยว่า หากไม่มีใครแจ้งเหตุฉุกเฉิน อาจโดนรถรางคันอื่นชนซ้ำ
สำนักงานสืบสวนอุบัติเหตุทางรถไฟ (อาร์เอไอบี) ระบุว่า ข้อบ่งชี้เบื้องต้นแสดงให้เห็นว่ารถรางแล่นด้วยความเร็วสูงกว่าที่ได้รับอนุญาต ด้านตำรวจขนส่งอังกฤษระบุกำลังสืบสวนว่า คนขับมีการหลับในหรือไม่ เช่นเดียวกับการสืบสวนปัจจัยอื่นๆ ส่วนคนขับรถรางวัย 42 ปี ได้ถูกควบคุมตัวไว้ในฐานะผู้ต้องสงสัยทำให้ผู้อื่นเสียชีวิต
การพลิกคว่ำครั้งนี้เกิดขึ้นใกล้กับทางแยกแซนดิแลนด์ บริเวณทางโค้งก่อนถึงจุดจอด รถรางคันดังกล่าวเดินทางจากนิวแอดดิงตัน มุ่งหน้าไปวิมเบิลดัน มีการจำกัดความเร็วตรงบริเวณนั้นที่เป็นรางเก่าไว้ที่ 12 ไมล์ต่อชั่วโมง ส่วนรถรางคันดังกล่าวสามารถแล่นได้เร็วสุดประมาณ 50 ไมล์ต่อชั่วโมง
