เอเอฟพี - นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ แห่งญี่ปุ่นจะเดินทางไปนครนิวยอร์กเพื่อพบกับ โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ ในสัปดาห์หน้า หลังจากที่ได้พูดคุยกันแล้วทางโทรศัพท์ เจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นแถลงวันนี้ (10 พ.ย.)
อาเบะ และ ทรัมป์ ได้คุยโทรศัพท์กันประมาณ 20 นาที และนัดพบกันในวันที่ 17 พ.ย.นี้ ก่อนที่ อาเบะ จะเดินทางไปร่วมประชุมผู้นำกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (APEC) ที่เปรู เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่นเผยกับเอเอฟพี
ก่อนหน้านี้ ทรัมป์ สร้างความหวั่นไหวต่อรัฐบาลปลาดิบด้วยการขอให้โตเกียวจ่ายเงินอุดหนุนกองกำลังสหรัฐฯ ที่ประจำการอยู่ในญี่ปุ่นมากขึ้นกว่าเดิม และถึงขั้นเสนอให้ญี่ปุ่นผันตัวมาเป็น “มหาอำนาจนิวเคลียร์” เสียเอง เพื่อรับมือภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือที่ยังคงเดินหน้าทดสอบนิวเคลียร์และขีปนาวุธไม่หยุดหย่อน แม้จะถูกองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) คว่ำบาตรมาหลายครั้งก็ตาม
คำพูดของทรัมป์ สร้างความตกตะลึงต่อชาวญี่ปุ่นซึ่งเป็นประเทศเดียวในโลกที่เคยถูกโจมตีด้วยระเบิดปรมาณู
ทรัมป์ ยังมีทีท่าว่าจะไม่สานต่อความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (TPP) ที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ได้ริเริ่มไว้ และฝ่ายญี่ปุ่นก็หวังว่าสภาคองเกรสสหรัฐฯ จะยอมให้สัตยาบันเร็วๆ นี้
นายกฯ ญี่ปุ่นได้แสดงความยินดีกับ ทรัมป์ เป็นคนแรกๆ หลังจากที่เขาสามารถคว้าชัยในศึกเลือกตั้งผู้นำอเมริกา และดับฝันของ ฮิลลารี คลินตัน ที่จะได้เป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรก
ระหว่างพูดคุยโทรศัพท์กับทรัมป์ นายกฯ อาเบะ ยืนยันว่าญี่ปุ่นพร้อมที่จะรักษาความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้น และ “ความเป็นพันธมิตรที่ไม่อาจถูกสั่นคลอน” กับวอชิงตัน พร้อมย้ำว่าความสัมพันธ์ทวิภาคีและความเป็นพันธมิตรระหว่างสหรัฐฯ และญี่ปุ่นนั้นจำเป็นเพียงใด และขอให้ ทรัมป์ ตระหนักถึงความสำคัญของสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกด้วย
ฝ่ายทรัมป์ก็ยืนยันว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของตนจะกระชับความสัมพันธ์กับญี่ปุ่นให้แนบแน่นยิ่งๆ ขึ้นไป พร้อมทั้งแสดงความชื่นชมนโยบายเศรษฐกิจของ อาเบะ และรอคอยที่จะได้ร่วมทำงานกับเขา
เจ้าหน้าที่กระทรวงต่างประเทศญี่ปุ่นปฏิเสธที่จะเผยรายละเอียดอื่นๆ ของการสนทนาครั้งนี้