รอยเตอร์ - ตำรวจตุรกีบุกจับกุม 2 แกนนำผู้ก่อตั้งพรรค พีเพิลส์ เดโมเครติก ปาร์ตี (HDP) ซึ่งเป็นพรรคการเมืองชาวเคิร์ด พร้อม ส.ส.อีก 9 คน เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (4 พ.ย.) หลังจากไม่ยอมเข้าให้ปากคำเกี่ยวกับการมีส่วนร่วม “โฆษณาชวนเชื่อเพื่อก่อการร้าย”
กระทรวงมหาดไทยตุรกีแถลงว่า ได้มีการออกหมายจับ ส.ส.พรรคเอชดีพี รวมทั้งสิ้น 13 คน ทว่าสามารถจับกุมได้เพียง 11 คน เนื่องจากอีก 2 คนอยู่ต่างประเทศ
ก่อนหน้านี้ ทนายของพรรคได้อ้างว่าตำรวจจับกุม ส.ส.ไปถึง 15 คนด้วยกัน
ตำรวจได้บุกเข้าตรวจค้นบ้านของ เซลาฮัตติน เดมีร์ตัส ในกรุงอังการา และบ้านของ ฟิเกน ยุกเซนดัก ในเมืองดียาร์บาคีร์ (Diyarbakir) ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงใต้ของตุรกีซึ่งมีชาวเคิร์ดอาศัยอยู่มาก ทนายของพรรคให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์
“เอชดีพีขอเรียกร้องให้ประชาคมโลกร่วมต่อต้านการก่อรัฐประหารโดยระบอบของแอร์โดอัน” พรรคเอชดีพีแถลงผ่านทวิตเตอร์ โดยอ้างถึงประธานาธิบดีเรเจป ตัยยิบ แอร์โดอัน แห่งตุรกี
ตำรวจยังได้เข้าตรวจค้นสำนักงานใหญ่ของพรรคเอชดีพีในกรุงอังการา โดยสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นได้แพร่ภาพเจ้าหน้าที่พรรคหลายคนมีปากเสียงกับตำรวจในขณะที่สำนักงานถูกค้น ขณะที่ผู้สื่อข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เห็นรถตำรวจและรถหุ้มเกราะหลายคันจอดอยู่ใกล้ๆ ประตูทางเข้าสำนักงานใหญ่พรรคเอชดีพี
ผู้ประท้วงกลุ่มหนึ่งป่าวร้องสโลแกนและพยายามเดินเข้าไปยังสำนักงานใหญ่พรรคเอชดีพี แต่ถูกตำรวจสกัดเอาไว้
“มีข่าวร้ายมากอีกแล้วจากตุรกี ขณะนี้ ส.ส.พรรคเอชดีพี ถูกตำรวจควบคุมตัว” กาตี ปิริ ผู้เสนอรายงานเกี่ยวกับตุรกีประจำรัฐสภายุโรป โพสต์ข้อความทางทวิตเตอร์
ทั้งนี้ มีรายงานว่าผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในตุรกีประสบปัญหาในการเข้าถึงสื่อสังคมออนไลน์ เช่น ทวิตเตอร์ เฟซบุ๊ก และ WhatsApp หลังปฏิบัติการจับกุม ส.ส.พรรคเอชดีพี เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่เมื่อเที่ยงคืนที่ผ่านมา
เอชดีพีถือเป็นพรรคการเมืองใหญ่อันดับ 3 โดยมีจำนวน ส.ส. 59 ที่นั่ง จากทั้งหมด 550 ที่นั่งในรัฐสภาตุรกี
โดยปกติแล้วสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตุรกีจะได้รับสิทธิ์คุ้มกันจากการถูกฟ้องร้อง ทว่าพรรคเอชดีพีถูกเพิกถอนสิทธิ์นี้ไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา
รัฐบาลตุรกีกล่าวหาว่าเอชดีพีมีส่วนรู้เห็นเป็นใจกับกลุ่มติดอาวุธเคิร์ดพีเคเค ซึ่งถูกสหรัฐฯ สหภาพยุโรป และตุรกี ประกาศเป็นองค์กรก่อการร้าย
เมื่อวันอาทิตย์ (30 ต.ค) อังการาได้สั่งปลดเจ้าหน้าที่รัฐจำนวน 10,131 คน โดยส่วนใหญ่อยู่ในสังกัดกระทรวงการศึกษา กระทรวงยุติธรรม และกระทรวงสาธารณสุข ทั้งยังสั่งปิดสื่อที่สนับสนุนชาวเคิร์ดอีก 15 แห่ง ซึ่งนับเป็นการกวาดล้างอย่างต่อเนื่องหลังมีความพยายามก่อรัฐประหารโค่นอำนาจ แอร์โดอัน ในเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา
