เอเอฟพี - ประธานาธิบดีพัค กึน-ฮเย แห่งเกาหลีใต้มีคำสั่งแต่งตั้งประธานคณะเจ้าหน้าที่รัฐบาล (chief of staff) คนใหม่วันนี้ (3 พ.ย.) หลังจากที่ปลดผู้ช่วยคนสำคัญไปแล้วหลายราย เพื่อบรรเทากระแสความไม่พอใจของประชาชนต่อเหตุอื้อฉาวทางการเมืองที่เพื่อนหญิงคนสนิทของเธอเป็นต้นเหตุ
ฮัน กวาง-อ๊ก ซึ่งเคยเป็นผู้ช่วยของอดีตประธานาธิบดีคิม แด-จุง ผู้ล่วงลับ ได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานคณะเจ้าหน้าที่รัฐบาลคนใหม่ ซึ่งทำเนียบประธานาธิบดีหวังว่าจะช่วยกอบกู้ภาพลักษณ์ของรัฐบาลพัค กลับคืนมาได้บ้าง
ฮัน วัย 74 ปี นักการเมืองสายลิเบอรัลที่ผันตัวมาสนับสนุน พัค กึน-ฮเย ในปี 2013 ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้ที่อุทิศชีวิต “เพื่อประชาธิปไตยและความปรองดองในชาติ”
“ประชาชนส่วนใหญ่มองว่าท่านมีความพร้อมที่จะเข้ามาช่วยงานประธานาธิบดี” จุง ยุน-กุก โฆษกประธานาธิบดีแถลง
ก่อนหน้านี้ พัค ได้สั่งปลดนายกรัฐมนตรีฮวาง เคียว-อันห์ ส่วนรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง และรัฐมนตรีกระทรวงความปลอดภัยสาธารณะก็ถูกเปลี่ยนตัวเช่นกัน
รัฐบาลพัค กึน-ฮเย กำลังเผชิญมรสุมลูกใหญ่ หลังความสัมพันธ์ใกล้ชิดระหว่างประธานาธิบดีกับเพื่อนหญิงคนสนิท ชอย ซุน-ซิล กลายมาเป็นประเด็นทางการเมือง โดยอัยการได้มีคำสั่งฉุกเฉินเมื่อวันจันทร์ (31 ต.ค.) ให้กักตัว ชอย เพื่อสอบปากคำในข้อหาใช้อิทธิพลก้าวก่ายการบริหารประเทศ
กระแสข่าวที่ว่า ชอย เป็นผู้ตรวจทานสุนทรพจน์ของประธานาธิบดี และยังสามารถเข้าถึงเอกสารชั้นความลับทั้งที่ไม่มีตำแหน่งในรัฐบาล ทำให้ พัค ซึ่งเป็นผู้นำหญิงคนแรกของเกาหลีใต้ถูกสังคมตำหนิอย่างรุนแรง และยังส่งผลให้คะแนนนิยมของเธอร่วงดิ่งเหวในช่วงปีสุดท้ายของการบริหารประเทศ
ผู้นำหญิงโสมขาวได้รับคำแนะนำให้แก้สถานการณ์ด้วยการปรับคณะรัฐมนตรีให้มีความเป็นกลางมากขึ้น โดยดึงคนจากหลากหลายพรรคเข้ามาทำงาน นอกเหนือไปจากคนในพรรครัฐบาลแซนูรีของเธอเอง
อย่างไรก็ตาม พรรคฝ่ายค้านยังคงวิจารณ์การปรับคณะรัฐมนตรีครั้งนี้ว่าเป็นเพียง “ม่านควัน” และเรียกร้องให้มีการสอบสวนความสัมพันธ์ระหว่าง พัค กับ ชอย ให้กระจ่าง ไม่เช่นนั้นก็จะระดมเสียงส่วนใหญ่ในสภาขัดขวางการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีคนใหม่
สำนักข่าวยอนฮัปรายงานว่า ชอย ยังคงยืนยันว่าไม่เคยใช้เส้นสายประธานาธิบดีข่มขู่บริษัทใหญ่ๆ เช่น ซัมซุง ให้บริจาคเงินจำนวนมากเข้ามูลนิธิไม่แสวงผลกำไร 2 แห่ง จากนั้นก็ยักยอกเงินออกมาใช้ประโยชน์ส่วนตัว
ชอย วัย 60 ปี เป็นบุตรสาวของ ชอย แต-มิน ผู้นำลัทธิที่ชื่อว่า “โบสถ์แห่งชีวิตหลังความตาย” (Church of the Afterlife)
ชอย แต-มิน ผู้นี้อ้างว่าสามารถติดต่อกับมารดาของ พัค ที่ถูกลอบสังหารไปเมื่อปี 1974 และเป็นที่ปรึกษาให้แก่ พัค มานาน จนกระทั่งเขาเสียชีวิตลงในปี 1994 ทว่าความสนิทชิดเชื้อก็ได้ถูกสืบทอดต่อมาจนถึงรุ่นลูกคือ ชอย ซุน-ซิล
สื่อเกาหลีใต้อ้างถึง ชอย ซุน-ซิล ว่าเป็นเสมือน “รัสปูติน” ที่มีอิทธิพลอย่างสูงต่อความคิดจิตใจของประธานาธิบดีพัค เช่นเดียวกับที่พ่อของเธอเคยเป็น
พฤติกรรมอื้อฉาวของผู้นำโสมขาวถูกเปิดโปงในขณะที่เกาหลีใต้ซึ่งมีเศรษฐกิจขนาดใหญ่อันดับ 4 ของเอเชียกำลังเผชิญปัญหาการส่งออกซบเซา อัตราการว่างงานสูง รวมไปถึงความกังวลเรื่องภัยคุกคามนิวเคลียร์จากเกาหลีเหนือ