รอยเตอร์ - สตรีที่เป็นแก่นกลางแห่งเรื่องอื้อฉาวทางการเมืองของเกาหลีใต้ บอกว่าตนเองสมควรตายและร้องขอการให้อภัยในวันจันทร์ (31 ต.ค.) ระหว่งที่เธอเดินทางเข้าพบคณะอัยการที่กำลังดำเนินการสืบสวนตามคำกล่าวหาที่ว่าเธอใช้ความเป็นเพื่อนสนิทกับประธานาธิบดีพัค กึน-ฮเย แสวงหาผลประโยชน์และมีอิทธิพลเหนือกิจการต่างๆ ของรัฐ
ชอย ซุน-ซิล สวมหมวกและเอามือปิดบังใบหน้า เดินแทรกผ่านกองทัพสื่อมวลชนและเหล่าผู้ประท้วงที่เรียกร้องให้จับกุมเธอและให้นางพัคลาออกจากตำแหน่ง เข้าไปยังอาคารสำนักงานอัยการในกรุงโซล
“ฉันก่ออาชญากรรม ฉันสมควรตาย” ชอยกล่าว จากรายงานของเหล่าผู้สื่อข่าวที่ตามเธอเข้าไปในอาคาร “กรุณายกโทษให้ฉันด้วยเถิด”
ก่อนหน้านี้ ชอยเพิ่งเดินทางจากเยอรมนีกลับมายังเกาหลีใต้ในวันอาทิตย์ (30 ต.ค.) และทนายความของเธอบอกว่าเธอพร้อมตอบคำถามของคณะอัยการ
เธอตกอยู่ภายใต้ความกดดันอย่างหนักใหัเดินทางกลับประเทศ ในขณะที่วิกฤตการเมืองกำลังรุมเร้าประธานาธิบดีพัค ต่อกรณีที่ปล่อยให้ชอยใช้ความเป็นเพื่อนสนิทแสดงอิทธิพลอย่างไม่เหมาะสมและแสวงหาผลประโยชน์
ชาวเกาหลีใต้นับหมื่นคนเดินขบวนเมื่อวันเสาร์ (29 ต.ค.) เรียกร้องให้นางพัคลาออกจากตำแหน่งรับผิดชอบเรื่องอื้อฉาวดังกล่าว โดยพวกเขาบอกว่าประธานาธิบดีหญิงรายนี้ทรยศความไว้ใจของประชาชนและบริหารงานรัฐบาลผิดพลาด รวมถึงสูญเสียความเป็นผู้นำ
ด้านฝ่ายค้านเรียกร้องให้ดำเนินการสืบสวนอย่างละเอียด แต่ไม่ได้หยิบยกถึงความเป็นไปได้ในการยื่นถอดถอนประธานาธิบดี
นางพัค อยู่ในปีที่ 4 ของวาระการดำรงตำแหน่ง 5 ปี และวิกฤตนี้กำลังคุกคามความพยายามแก้ไขรัฐธรรมนูญ เปิดทางให้ประธานาธิบดีในอนาคตสามารถดำรงตำแหน่งได้เกินกว่า 1 สมัย
ในปฏิกิริยาตอบสนองต่อเรื่องอื้อฉาว คณะผู้ช่วยของนางพัค ในนั้นรวมถึงเลขานุการของเธอและที่ปรึกษา 3 คนซึ่งดูแลจัดการการเข้าถึงประธานาธิบดีหญิงรายนี้ ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่ง
เมื่อถูกถามว่าการร้องขอการยกโทษ ถือเป็นการสารภาพผิดหรือไม่ ทนายความของชอย ตอบว่าเธอแค่เพียงแสดงความรู้สึกเท่านั้น และมันไม่ใช่จุดยืนทางกฎหมาย
สัปดาห์ที่แล้ว นางพัคออกมาขอโทษต่อกรณีที่ให้เพื่อนสนิทของเธอเข้าถึงร่างคำปราศรัยในช่วงเดือนแรกๆของการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี แต่มันมิอาจเบี่ยงเบนเสียงเรียกร้องของประชาชน ที่ต้องการให้ประธานาธิบดีเปิดเผยลักษณะความสัมพันธ์ที่แท้จริงระหว่างเธอกับชอย
พัค บอกว่าเธอมักปรึกษานางชอบด้วยเจตนาดี และชอย เป็นหนึ่งในบุคคลที่คอยช่วยเหลือเธอให้ผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบาก
ในความเห็นแรกของชอย ที่ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เธอบอกว่าได้รับร่างคำปราศรัยของนางพัค หลังจากพัคชนะการเลือกตั้ง แต่ปฏิเสธว่าไม่ได้เข้าถึงข้อมูลของทางการอื่นๆ หรือมีอิทธิพลเหนือกิจการของรัฐหรือได้รับผลประโยชน์ทางการเงินใดๆ
ทนายความของชอยบอกว่าเธอมีสุขภาพที่ย่ำแย่และบางทีอาจเป็นโรคหัวใจ ซึ่งเขาจะหารือกับคณะอัยการในเรื่องนี้