รอยเตอร์ – อัยการบราซิลได้เริ่มสอบคดีโรงแรมในเครือของผู้สมัครพรรครีพับลิกัน โดนัลด์ ทรัมป์ ใน รีโอเดจาเนโร เมืองตากอากาศจัดการแข่งขันโอลิมปิก หลังกองทุนบำนาญของรัฐบาลแดนแซมบ้า 2 แห่ง เซอร์โปร (Serpro) และ อิเกเปรฟ( Igeprev) นำเงินจำนวน 130 เฮอัลบราซิล หรือ 40 ล้านดอลลาร์ ที่อาจขัดกับกฎหมายบราซิล หลังพบพิรุจน์เงื่อนงำการลงทุนที่เสี่ยงขาดทุนมหาศาล แถมยังไม่มีเงินปันผลค่าตอบแทน และตัวโรงแรมยังก่อสร้างไม่เสร็จ
รอยเตอร์รายงานเมื่อวานนี้(1 พ.ย)ว่า สำนักงานอัยการสูงสุดบราซิลได้เริ่มต้นการสอบสวนคดีอาญากับกองทุนบำนาญที่มีรัฐบาลแดนแซมบ้าเป็นเจ้าของคือ กองทุนบำนาญเซอร์โปร (Serpro) กองทุนบำนาญของบริษัทไอทีของรัฐ และกองทุนอิเกเปรฟ( Igeprev) สำหรับเจ้าหน้าที่รัฐโตกันตินส์ (Tocantins) หลังจากผู้บริหารเงินกองทุนทั้งสองแห่งได้นำเงินของกองทุนบำนาญไปลงทุนในบริษัทพัฒนา LSH บาร์รา เอ็มปรีนไดเมนโตส อีโมบิลิอาไรออซ เอสเอ(LSH Barra Empreendimentos Imobiliários SA) ซึ่งได้ทำการก่อสร้างโรงแรมให้กับโดนัลด์ ทรัมป์ ในเมืองรีโอเดจาเนโร สถานที่จัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ที่มีบราซิลเป็นเจ้าภาพในปีนี้
โดยอัยการบราซิลอันเซลโม โลเปซ( Anselmo Lopes) ได้แถลงในคำฟ้องที่ได้ยื่นต่อศาลบราซิลว่า “จำนวนเงิน 130 เฮอัลบราซิล หรือ 40 ล้านดอลลาร์ ที่ถูกกองทุนบำนาญของรัฐบาลบราซิล 2 แห่งนำไปลงทุนในบริษัทพัฒนาที่ได้สร้างโรงแรมทรัมป์โฮเตล นั้นต้องการได้รับการถูกตรวจสอบ เนื่องมาจากมูลค่าของเงินลงทุน โครงสร้าง และระดับความเสี่ยงสูง”
รอยเตอร์รายงานว่า คำร้องนี้ได้ตีพิมพ์ระบุวันที่ 21 ต.คล่าสุด ซึ่งเป็นวันที่ทางสำนักงานอัยการสูงสุดบราซิลได้เริ่มต้นกระบวนการสอบสวนอย่างเป็นทางการ
และในคำร้องยังกล่าวต่อว่า “มีคำวามจำเป็นที่ต้องเข้าตรวจสอบว่า มีความโน้มเอียงของกองทุนเหล่านี้ที่มีต่อบริษัทพัฒนา LSH บาร์รา เอ็มปรีนไดเมนโตส อีโมบิลิอาไรออซ เอสเอ และ เดอะ ทรัมป์ ออร์แกไนเซชัน( The Trump Organization )บริษัท ของโดนัลด์ ทรัมป์ เนื่องมาจากการจ่ายเงินผิดกฎหมายและคอร์รัปชันหรือไม่” โลเปซกล่าวในเอกสารคำร้องที่ยื่นจำนวน 15 หน้า
ทั้งนี้ทั้งบริษัทของทรัมป์ และบริษัท LSH บาร์รา พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นเจ้าของโรงแรมแห่งนี้แต่เพียงผู้เดียว ต่างออกมาปฎิเสธในข้อกล่าวหา โดยกล่าวว่าไม่ได้ทำสิ่งใดผิด
รอยเตอร์รายงานว่า โรงแรม เดอะทรัมป์โฮเตล รีโอเดจาเนโร (The Trump Hotel Rio de Janeiro) ตั้งอยู่ติดชายหาด มีห้องพักทั้งหมด 170 ห้อง ตั้งอยู่ใกล้กับโอลิมปิกปาร์กนั้นถูกบริหารโดยบริษัทอสังหาริมทรัพย์ของทรัมป์ ถึงแม้ว่าจะไม่มีเม็ดเงินจากเดอะ ทรัมป์ ออร์แกไนเซชัน จะเข้ามาใช้ในการลงทุน
ทั้งนี้ในสัปดาห์ที่ผ่านมา อัยการบราซิล โลเปซได้ประกาศว่า ตั้งข้อสงสัยว่า “เดอะ ทรัมป์ ออร์แกไนเซชัน” อาจได้รับผลประโยชน์อย่างน่าสงสัยจากความเคลื่อนไหวของพอร์ตการลงทุนรีโอเดจาเนโร ซึ่งทางบริษัทของทรัมป์มีแผนการที่จะก่อสร้างตึกสำนักงานออฟฟิศจำนวนมาก
แต่อย่างไรก็ตาม รอยเตอร์ชี้ว่า เป็นที่น่าเสียดายว่าโลเปซไม่ได้เปิดเผยในรายละเอียด และไม่ได้แสดงหลักฐานเพื่อยืนยันในการตั้งข้อสงสัยของเขา
ด้านเดอะ ทรัมป์ ออร์แกไนเซชันออกมาปฎิเสธ พร้อมระบุว่า “ทางเราไม่เกี่ยวข้องในกองทุนบำนาญเหล่านี้แต่อย่างใด” อลัน การ์เทน(Alan Garten)รองประธานและที่ปรึกษาทั่วไปของ เดอะ ทรัมป์ ออร์แกไนเซชัน แถลง และยังกล่าวต่อว่า “เรามีตัวแทนทำหน้าที่ติดต่อกับบริษัทพัฒนา ที่เราได้รับการว่าจ้างให้คำที่ปรึกษา”
และในแถลงการณ์ของการ์เทนยังเสริมต่อว่า “ในไม่ช้า ทางคณะผู้สอบสวนจะตระหนักได้ว่า สิ่งเหล่านี้นั้นจะไม่เกี่ยวข้องกับเรา และไม่ได้เกี่ยวข้องกับเราอย่างสิ้นเชิง”
ทั้งนี้การ์เทนชี้แจงต่อว่า ทางองค์กรได้ใช้บริการจากบริษัทนอกในการจัดการติดต่อและทำทุกข้อตกลงอย่างกว้างขวาง แต่อย่างไรก็ตามรองประธานของทรัมป์รายนี้ไม่ได้เปิดเผยชื่อบริษัทนอกที่เขาอ้างถึง
ด้านบริษัทพัฒนา LSH บาร์รา เอ็มปรีนไดเมนโตส อีโมบิลิอาไรออซ เอสเอได้ออกแถลงการณ์ กล่าวถึงโปรเจกต์โรงแรมทรัมป์ที่ยังก่อสร้างไม่เสร็จว่า มีมูลค่าราว 250- 320 ล้านเฮอัลบราซิล (78ล้านดอลลาร์ -100 ล้านดอลลาร์)นั้นจะสามารถนำผลตอบแทนกลับไปยังนักลงทุนได้อย่างแน่นอน
และในแถลงการณ์ยังยืนยันว่า การลงทุนของกองทุนบำนาญบราซิลนั้นอยู่ในกฎหมายบราซิลที่ได้ระบุไว้ทุกประการ และทั้งบริษัทพร้อมที่จะร่วมมือกับสำนักงานอัยการสูงสุดบราซิลเพื่อประโยชน์ในการสอบสวน
รอยเตอร์รายงานต่อว่า และในคำฟ้องที่ยื่นต่อศาลบราซิลนั้น โลเปซระบุต่อว่า สำหรับการลงทุนของอิเกเปรฟจำนวน 54 ล้านเฮอัลบราซิลต่อบริษัทพัฒนา LSH บาร์รา นั้นดูน่าสงสัยเป็นอย่างมาก เนื่องมาจากทางกองทุนนี้ “ได้ทำการซื้อหนี้” ที่เชื่อมโยงกับบริษัทพัฒนาแห่งนี้ด้วยเช่นกัน
โดยจัคส์ ซิลวา( Jacques Silva) หัวหน้าผู้จัดการกองทุนอิเกเปรฟคนปัจจุบันได้ออกมายอมรับในเรื่องนี้ว่า เป็นการลงทุนที่ดูผิดปกติ และกล่าวยอมรับว่ากองทุนแห่งนี้เสี่ยงที่จะต้องสูญเงินถึง 1 พันล้านเฮอัลบราซิล เนื่องมาจากข้อตกลงที่หัวหน้าผู้จัดการกองทุนคนก่อนได้ทำไว้
รอยเตอร์รายงานต่อว่า ทั้งนี้แผนการก่อสร้างโรงแรม เดอะทรัมป์โฮเตล รีโอเดจาเนโร ได้ถูกประกาศขึ้นในปี 2014 ซึ่งมีกำหนดที่จะต้องก่อสร้างให้เสร็จสิ้นทันการจัดกีฬาโอลิมปิกที่มีรัฐบาลบราซิลเป็นเจ้าภาพในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา แต่ทว่าต้องถูกเลื่อนออกไป โดยมีการเปิดเป็นทางการบางส่วนในช่วงการแข่งขัน ที่มีห้องพักน้อยกว่าครึ่งสามารถเปิดให้บริการแก่แขกผู้เข้าพักได้
ซิลวากล่าวต่อว่า ข้อตกลงเดอะทรัมป์โฮเตล รีโอเดจาเนโร นั้นเป็นข้อตกลงที่แย่สำหรับกองทุนอิเกเปรฟ เป็นเพราะเป็นการลงทุนระยะยาวที่เสี่ยงและไม่มีเงินปันผลตอบแทนให้