เอเอฟพี - เว็บไซต์ข่าวชื่อดัง Buzzfeed ประกาศยกเลิกสัญญาลงโฆษณาหาเสียงให้แก่มหาเศรษฐี โดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อวานนี้ (6 มิ.ย.) โดยเปรียบเปรยว่าที่ผู้แทนพรรครีพับลิกันรายนี้ว่า “เป็นอันตรายต่อสุขภาพ” ไม่ต่างจาก “บุหรี่”
โจนาห์ เปเรตติ ประธานบริหาร Buzzfeed ระบุในบันทึกข้อความที่เผยแพร่บนเว็บไซต์ว่า บริษัทได้แจ้งไปยังคณะกรรมการพรรครีพับลิกันแห่งชาติ (Republican National Committee) แล้วว่า “จะไม่รับโฆษณาแคมเปญหนุนทรัมป์เป็นประธานาธิบดี (Trump for President) อีกต่อไป และขอยกเลิกสัญญาที่เคยทำร่วมกันไว้”
“นโยบายหาเสียงของทรัมป์มีเนื้อหาลิดรอนเสรีภาพพนักงานของเราทั้งในสหรัฐฯ และทั่วโลก รวมถึงในบางกรณี เช่น การเสนอห้ามชาวมุสลิมเดินทางเข้าสหรัฐฯ ซึ่งจะทำให้พนักงานของเราไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้” เปเรตติระบุ
“แน่นอนว่าบริษัทไม่ต้องการปฏิเสธเงินรายได้ ซึ่งจะเป็นทุนอุดหนุนภารกิจสำคัญที่พวกเราทำอยู่... แต่บางครั้งก็จำเป็นต้องมีข้อยกเว้นทางธุรกิจ... เราไม่รับโฆษณาบุหรี่เพราะมันเป็นอันตรายต่อสุขภาพ และที่เราไม่รับโฆษณาให้โดนัลด์ ทรัมป์ ก็ด้วยเหตุผลเดียวกัน”
Buzzfeed ไม่ได้ระบุว่าการยกเลิกสัญญาครั้งนี้ทำให้บริษัทสูญเสียรายได้ไปเท่าใด แต่เว็บไซต์ Politico ซึ่งเป็นสื่อคู่แข่งประเมินว่า ข้อตกลงระหว่าง Buzzfeed กับทรัมป์น่าจะมีมูลค่าประมาณ 1.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
Buzzfeed เคยประกาศจุดยืนเป็นปรปักษ์กับทรัมป์มาแล้วก่อนหน้านี้
เมื่อเดือน ธ.ค. ปีที่แล้ว เบน สมิธ บรรณาธิการบริหาร Buzzfeed ได้ออกบันทึกข้อความแจ้งแก่พนักงานทุกคนว่า การให้ฉายา “นักเหยียดผิวจอมโกหก” (mendacious racist) แก่โดนัลด์ ทรัมป์ นั้นถือว่า “ยุติธรรม” แล้ว “เพราะเขาเที่ยวป่าวประกาศในสิ่งที่ไม่เป็นจริง และยังต่อต้านชาวมุสลิมอย่างออกหน้าออกตา”
คณะกรรมการพรรครีพับลิกันแห่งชาติได้ออกมาชี้แจงว่า พรรคได้จองพื้นที่โฆษณาบนสื่อต่างๆ หลายสื่อด้วยกัน รวมถึง Buzzfeed เพื่อให้มั่นใจว่าจะได้เรตติ้งที่ดีที่สุด แต่ไม่เคยมีแผนที่จะลงโฆษณากับ Buzzfeed อยู่แล้วแต่ต้น
“เราไม่ได้คิดจะใช้บริการ Buzzfeed อยู่แล้ว” ฌอน สไปเซอร์ โฆษกของรีพับลิกัน ระบุ
“แต่ก็น่าแปลกนะที่พวกเขาไม่ปฏิเสธเงินค่าโฆษณาจากผู้สมัครอีกคนหนึ่งที่กำลังถูกเอฟบีไอสอบสวนอยู่” เขากล่าว โดยหมายถึง ฮิลลารี คลินตัน ว่าที่ผู้แทนพรรคเดโมแครต ซึ่งยังคงถูกสำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) ซักฟอกเรื่องการใช้อีเมลส่วนตัวรับส่งข้อมูลขณะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศ