เอพี/เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ - หลังจากที่โดน ฮิลลารี คลินตัน คู่แข่งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 2016 โจมตีก่อนหน้านี้ ล่าสุด วานนี้ (22 มิ.ย.) โดนัลด์ ทรัมป์ ไม่ปล่อยให้ลอยนวล โจมตีเธอกลับกลางโรงแรมโรงแรมทรัมป์ โซโห นิวยอร์ก (Trump SoHo New York) ระดับ 5 ดาวของตัวเอง โดยชี้ว่า คลินตันเป็นตัวแม่จอมโกหกระดับเวิลด์คลาส ที่ใช้ตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง
เอพีรายงานเมื่อวานนี้ (22 มิ.ย.) ว่า การเมืองสหรัฐฯร้อนแรงมากขึ้น เมื่อ โดนัลด์ ทรัมป์ ออกมาตอบโต้ฮิลลารี คลินตัน ผ่านแถลงการณ์กลางโรงแรมทรัมป์ โซโห นิวยอร์ก (Trump SoHo New York) ระดับ 5 ดาว เมืองนิวยอร์ก ซิตีเมื่อวันพุธ (22 มิ.ย.) โดยชี้ว่า คลินตัน เป็นผู้สมัครลงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯที่ “ฉ้อฉลมากที่สุด” เท่าที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์ชาติอเมริกา หลังจากที่ในวันอังคาร (21 มิ.ย.) ก่อนหน้านี้ คลินตันได้ออกแถลงการณ์โจมตีทรัมป์ทางเศรษฐกิจ ว่า จะทำให้อเมริกาต้องล้มละลายทางเศรษฐกิจ เหมือนที่เขาได้เคยกระทำต่อธุรกิจของตัวเอง
ซึ่งในแถลงการณ์ของทรัมป์ ว่าที่ตัวแทนจากพรรครีพับลิกัน ได้ประทับตราคลินตัน ว่า เธอเป็น “ตัวแม่จอมโกหกระดับเวิลด์คลาส” ที่ใช้ตำแหน่งเจ้ากระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว และยังอ้างต่อว่า “เธอทำให้ตัวเองรวยขึ้น แต่คนอื่นยากจนลง”
นอกจากนี้ ในแถลงการณ์ของทรัมป์ยังอ้างต่อไปอีกว่า คลินตันยังเป็นต้นตอการแพร่กระจาย “ความตาย การทำลายล้าง และการก่อการร้ายในขณะที่เธอดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ
ซึ่งทำให้ว่าที่ตัวแทนจากพรรคเดโมแครตที่กำลังหาเสียงอยู่ในรัฐนอร์ทแคโรไลนาอยู่นั้น ได้ส่งเสียงกล่าวตอบโต้กลับมาว่า “เป็นคำโกหกที่ผิดปกติมากที่สุดเท่าที่เคยได้ยินมา”
และในการตอบโต้เมื่อวานนี้ (22 มิ.ย.) คลินตันยังชี้ว่า “ทรัมป์จำเป็นต้องใช้เรื่องส่วนตัวเพื่อเล่นงานดิฉัน เพราะเขาไม่สามารถตอบคำถามได้ในส่วนที่สำคัญ” และกล่าวต่อว่า “และสิ่งที่โดนัลด์ ทรัมป์ทำคือ พยายามหันเหความสนใจของพวกเราเสีย”
เอพีชี้ว่า ข้อกล่าวหาที่เจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์ยื่นให้กับคลินตันนั้นสอดคล้องกับการวิพากษ์วิจารณ์ของพรรครีพับลิกันที่ใช้โจมตีคลินตันที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นการใช้เซิร์ฟเวอร์ส่วนตัวเพื่อเก็บอีเมลในระหว่างที่เธอทำหน้าที่ในตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ หรือบทบาทของเธอในเหตุการณ์เอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำลิเบีย และพลเมืองสหรัฐฯคนอื่น ๆ ถูกสังหารในการโจมตีเผากงสุลอเมริกันที่เบงกาซีปี 2012
แต่อย่างไรก็ตาม เอพีระบุว่า ข้อกล่าวหาและการโจมตีคลินตันของทรัมป์ในหลายส่วนไม่เป็นความจริง หรือเป็นการกล่าวเกินจริง ซึ่งรวมไปถึงการกล่าวอ้างว่า ฮิลลารี คลินตัน ใช้เงินหลายพันล้านดอลลาร์ในโครงการนำผู้อพยพชาวตะวันออกกลางเข้ามาลี้ภัยในอเมริกา
ทั้งนี้ ในส่วนการใช้ตำแหน่งในฐานะรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อผลประโยชน์ตัวเอง เอพีรายงานว่า ทางสำนักข่าวได้ตรวจสอบตารางการนัดหมายของคลินตันในระหว่างที่เธอยังทำหน้าที่เป็นเจ้ากระทรวงอยู่นั้น พบว่า คลินตันเปิดโอกาสหลายสิบครั้งให้กับผู้อุปการคุณในการระดมทุนหาเสียงของพรรคเข้าพบ รวมไปถึงผู้สนับสนุนส่วนตัวของเธอ และบริษัทยักษ์ใหญ่ที่มีชื่อเป็นผู้บริจาค แต่ทว่าในการตรวจสอบของเอพี กลับไม่พบหลักฐานใดที่จะบ่งชี้ได้ว่า ***การพบปะเหล่านั้นมีการกระทำผิดกฎหมาย หรือผิดทางจริยธรรมเข้ามาข้องเกี่ยว***
ซึ่งในการออกแถลงการณ์ใหญ่ในวันพุธ (22 มิ.ย.) ของ โดนัลด์ ทรัมป์ เกิดขึ้นหลังจากมีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญทางการทำนโยบายหาเสียงการเมืองของเขา โดยเอพีชี้ว่า ทรัมป์ที่ยังอ่อนประสบการทางการเมือง ต้องเผชิญกับความยากลำบากในการเปลี่ยนผ่านช่วงการหาเสียงเพื่อเป็นตัวแทนพรรคมาสู่เฟสการหาเสียงระดับชาติเพื่อชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯแข่งกับฮิลลารี คลินตัน ผู้มากประสบการณ์ทางการเมือง และมีมืออาชีพคอยสนับสนุนมากมาย
โดยเอพีชี้ว่า ทรัมป์ประสบปัญหากับเรื่องอื้อฉาวจำนวนมากที่ตัวเขาเป็นผู้สร้างขึ้น และอีกทั้งยังขาดทีมงานที่มีประสบการณ์ และความสามารถอยู่เบื้องหลัง รวมไปถึงปัจจัยต่าง ๆ ในการทำแคมเปญหาเสียงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯในช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่จะมาถึง
ซึ่งในต้นสัปดาห์นี้ มีรายงานไปทั่วโลกที่ว่า ที่ตัวแทนพรรครีพับลิกันได้ไล่ คอรี เลแวนโดว์สกี (Corey Lewandowski) ผู้จัดการหาเสียงของตัวเองออกอย่างกะทันหัน ซึ่งมีรายงานจากแหล่งข่าวที่ได้ให้ข้อมูลกับ NBC NEWS สื่อสหรัฐฯ ว่า ในตอนต้นทรัมป์ลดความรับผิดชอบและอำนาจในการสั่งการของเลแวนโดว์สกีลง ก่อนที่จะใช้โทรศัพท์เพื่อบอกข่าวการสิ้นสุดการเลิกจ้างทางโทรศัพท์ ซึ่งมีรายงานว่า อดีตผู้จัดการหาเสียงของโดนัลด์ ทรัมป์ ถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเดินประกบนำตัวออกไปจากที่ทำการหาเสียงหลังจากนั้น
เอพีชี้ต่อว่า ข่าวการเปลี่ยนตัวผู้จัดการหาเสียงของทรัมป์เป็นเสมือนการส่งสัญญาณความจำเป็นต้องปรับโครงสร้างทางบริหารใหม่ และพบว่า ในไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่เลแวนโดว์สกีถูกไล่ออก มีรายงานจำนวนเงินระดมทุนหาเสียงออกมา ซึ่งพบว่าเศรษฐีที่ดินอสังหาริมทรัพย์ผู้นี้มีเงินสดติดกระเป๋าสำหรับแคมเปญของเขาเริ่มเดือนมิถุนายนด้วยตัวเลขแค่ 1.3 ล้านดอลลาร์เท่านั้น เป็นตัวเลขที่ต่ำมากสำหรับตัวเก็งคนสำคัญในการเลือกตั้งใหญ่ระดับชาติเช่นนี้
แต่อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่า ในการกล่าวโจมตีฮิลลารีคู่แข่ง พบว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ไม่กล่าวเลยไปถึงอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ บิล คลินตัน ผู้เป็นสามี ถึงแม้ในช่วงเริ่มแรกของการหาเสียง ทรัมป์ได้เคยกล่าวถึงบ้าง
นอกจากนี้ ในแถลงการณ์ในวันพุธ (22 มิ.ย.) ยังพบว่า ทรัมป์ได้ส่งสัญญาณบางอย่างไปยังผู้สนับสนุนคนนอกพรรครีพับลิกัน เช่นตัวเขา และไปทางอ้อมกับผู้สนับสนุนคนนอกพรรคเดโมแครต เบอร์นี แซนเดอร์ โดยเอพีรายงานว่า ทรัมป์ได้เรียกร้องให้ชาวอเมริกันทำการปฏิวัติต่อนักการเมืองอาชีพในระบบ โดยยุให้ผู้สนับสนุนใช้โอกาสที่จะถึงนี้เพื่อเปลี่ยนระบบการเมืองสหรัฐฯที่ไม่เป็นธรรม
“การเลือกตั้งที่จะถึงนี้ จะเป็นการชี้ชะตาว่า เราจะต้องอยู่ใต้การชี้นำของประชาชนอเมริกัน หรือมาจากนักการเมืองอาชีพ” ทรัมป์กล่าว