เอพี/เอเจนซีส์ - โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯของพรรครีพับลิกัน ซึ่งเส้นทางสู่ชัยชนะดูตีบตันลงเรื่อยๆ ยังคงต่อสู้อย่างท้าทายในวันจันทร์ (24 ต.ค.) โดยพยายามออกมากระตุ้นเพิ่มพลังกลุ่มผู้สนับสนุนที่ภักดีต่อเขาอย่างเหนียวแน่นที่สุด พร้อมกับประณามกล่าวโทษว่า “โพลหลอกลวง” จากสื่อที่ “น่ารังเกียจ” เป็นตัวสร้างความยากลำบากให้แก่การรณรงค์หาเสียงของเขา
ขณะเหลือเพียง 14 วันก่อนถึงวันเลือกตั้ง ทรัมป์ได้เร่งหาเสียงในสมรภูมิใหญ่และสำคัญยิ่งอย่างรัฐฟลอริดา โดยที่ทีมงานของเขายอมรับทั้งในที่สาธารณะและในการพูดคุยส่วนตัวว่า รัฐที่เป็นจุดชี้เป็นชี้ตายอีกสนามหนึ่งคือเพนซิลเวเนีย น่าจะกำลังหลุดไปอยู่ในกำมือของ ฮิลลารี คลินตัน ผู้สมัครของพรรคเดโมแครตเสียแล้ว สถานการณ์เช่นนั้นทำให้เขาเหลือช่องทางน้อยนิดมากที่จะช่วงชิงคะแนนคณะผู้มีสิทธิเลือกตั้ง (electoral votes) ให้ได้ถึง 270 เสียง ซึ่งเป็นเกณฑ์ต่ำสุดสำหรับชัยชนะได้เข้าครองทำเนียบขาวในการเลือกตั้งวันที่ 8 พฤศจิกายนนี้
ทั้งๆ ที่ยังคงเผชิญความลำบากอย่างต่อเนื่องในการดึงดูดคะแนนจากผู้ออกเสียงที่เป็นผู้หญิงและชนกลุ่มน้อย แต่ทรัมป์ก็ปฏิเสธไม่ยอมลดน้ำหนักเนื้อหาและท่าทีในการหาเสียงวันท้ายๆ ของเขาให้นุ่มนวลลง เพื่อจะได้ขยายแนวร่วมให้กว้างขวางมากขึ้น ตรงกันข้ามเขากับป่าวร้องให้มองโลกในแง่ดีในขณะออกตระเวนหาเสียงเป็นเวลา 3 วันทั่วฟลอริดา ซึ่งผู้ออกเสียงจำนวนนับหมื่นนับแสนคนที่ขอใช้สิทธิล่วงหน้า เริ่มออกมาลงคะแนนกันแล้ว
“ผมเชื่อว่าจริงๆ แล้วเรากำลังเป็นฝ่ายชนะ” ทรัมป์ประกาศระหว่างการพูดคุยโต๊ะกลมกับกลุ่มเกษตรกร ซึ่งรวมตัวกันอยู่ถัดจากแปลงฟักทองท้องถิ่นแห่งหนึ่ง
หนึ่งวันหลังจากเสนอแนะว่า บทแก้ไขที่ 1 ของรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ ซึ่งรับประกันสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นนั้น น่าที่จะให้เสรีภาพแก่พวกนักหนังสือพิมพ์มากเกินไปแล้ว เขายังคงกล่าวยืนยันอีกในวันจันทร์ (24) ว่า พวกสื่อมวลชนกำลังส่งเสริมการจัดทำโพลหยั่งเสียงที่มีอคติ เพื่อมุ่งทำให้พวกผู้สนับสนุนเขาหมดกำลังใจไม่อยากออกไปลงคะแนน
“พวกสื่อไม่ได้เพียงแค่ต่อต้านผมเท่านั้น พวกเขายังต่อต้านพวกคุณทุกคนด้วย” ทรัมป์บอกกับกลุ่มผู้สนับสนุนที่ส่งเสียงเชียร์ลั่น ในการหาเสียงต่อมาอีกจุดหนึ่งที่เมืองเซนต์ออกัสติน “พวกเขาต่อต้านสิ่งที่พวกเราเป็นตัวแทนอยู่”
ในบรรดาข่าวร้ายที่ไหลเข้ามามากขึ้นสำหรับทรัมป์ ข่าวหนึ่งคือผลการหยั่งเสียงครั้งใหม่ที่ชี้ว่า ผู้ออกเสียงวัยหนุ่มสาวกำลังหันไปหาคลินตันขณะที่การแข่งขันระหว่างผู้สมัครตัวเก็ง 2 รายนี้กำลังมาถึงระยะทางท้ายๆ ทั้งนี้ ผลสำรวจครั้งใหม่ของเจนฟอร์เวิร์ด (GenForward survey) แสดงว่า ในหมู่ผู้ออกเสียงวัย 18 ถึง 30 ปี เวลานี้คลินตันเป็นฝ่ายนำทรัมป์ขาดลอย 60% ต่อ 19%
ก่อนหน้านี้ กลุ่มผู้ออกเสียงวัยหนุ่มสาวที่เป็นคนผิวดำ อยู่ข้างเธออย่างมั่นคงอยู่แล้ว แต่มาในเวลานี้หนุ่มสาวผิวขาวก็กำลังหันมาหนุนเธอด้วย ทั้งนี้ตามผลการสำรวจเจนฟอร์เวิร์ด ซึ่งจัดทำโดยโครงการเยาวชนผิวดำ (Black Youth Project) แห่งมหาวิทยาลัยชิคาโก ร่วมกับสำนักข่าวเอพี-ศูนย์ NORC เพื่อการวิจัยกิจการสาธารณะ (NORC Center for Public Affairs Research)
ในสถานการณ์ที่ทรัมป์กลายเป็นฝ่ายตั้งรับ คลินตันและพรรคเดโมแครตก็มุ่งมั่นที่จะปิดโอกาสของเขาในนิวแฮมป์เชียร์ อันเป็นรัฐ “สวิง สเตท” (swing state) ที่ผู้ลงคะแนนไม่ได้เอนเอียงนิยมพรรคใดพรรคหนึ่งอย่างชัดเจนอีกรัฐหนึ่ง พร้อมๆ กับที่มองหาทางทำให้เดโมแครตได้ครองเสียงข้างมากในวุฒิสภาไปด้วย
ทั้งนี้ คลินตันออกหาเสียงในนิวแฮมป์เชียร์เคียงข้างผู้ว่าการรัฐ แม็กกี ฮัสซัน ซึ่งกำลังลงแข่งขันชิงตำแหน่งเป็นวุฒิสมาชิกสหรัฐฯจากรัฐนี้ และวุฒิสมาชิกสหรัฐฯจากรัฐแมสซาชูเซตส์ เอลิซาเบธ วอร์เรน โดยที่วอร์เรนกล่าวระหว่างปราศรัยหาเสียงโจมตีทรัมป์แบบไร้ความปรานี เกี่ยวกับการคุยโวความเป็นเสือผู้หญิงของเขา และเรื่องที่เขาถูกกล่าวหาจากผู้หญิงหลายคนว่าล่วงละเมิดทางเพศพวกเธอ
เหลืออีกเพียง 2 สัปดาห์เท่านั้นก็จะถึงวันเลือกตั้ง แต่เส้นทางไปสู่ชัยชนะของทรัมป์ดูมืดมนลงเรื่อยๆ
เมื่อวันอาทิตย์ (24) เคลลีแอนด์ คอนเวย์ ผู้จัดการทีมรณรงค์หาเสียงของทรัมป์ ได้นำเสนอแผนซึ่งจะทำให้ได้เสียงคณะผู้เลือกตั้งครบ 270 เสียง โดยปรากฏว่า ในบรรดารัฐสวิงสเตท เธอฝากความหวังไว้กับชัยชนะที่ฟลอริดา, โอไฮโอ, ไอโอวา และนอร์ทแคโรไลนา ตลอดจนนิวแฮมป์เชียร์ และเขตเลือกตั้งที่ 2 ของรัฐเมน สมมุติฐานที่ตั้งเอาไว้ก็คือถ้าทรัมป์ชนะในสนามเหล่านี้ทั้งหมด (ซึ่งในทางเป็นจริงแล้วเวลานี้เขาตามหลังคลินตันอยู่ในหลายรัฐทีเดียว) เขาก็จะได้จำนวนคณะผู้ออกเสียง 270 เสียงพอดีไม่มีขาดไม่มีเกิน
สมรภูมิที่ขาดหายไปอย่างน่าสังเกตจากรายชื่อนี้ก็คือเพนซิลเวเนีย รัฐซึ่งที่ปรึกษาระดับสูงผู้หนึ่งของทรัมป์กล่าวยอมรับเมื่อพูดกันเป็นการส่วนตัวว่า กำลังหลุดจากมือไปแล้ว ถึงแม้ทรัมป์พยายามอย่างหนักเพื่อดึงผู้ออกเสียงที่เป็นผู้ใช้แรงงานผิวขาวของรัฐนี้
บรรยากาศการหาเสียงในช่วงต้นสัปดาห์นี้ ทั้ง 2 พรรคต่างโฟกัสไปที่ฟลอริดามากกว่าเพื่อน เนื่องจากเริ่มมีการออกเสียงล่วงหน้าใน 50 เทศมณฑล รวมทั้งเทศมณฑลใหญ่ที่สุดของรัฐด้วย สำหรับการออกเสียงล่วงหน้าโดยส่งบัตรเลือกตั้งทางไปรษณีย์นั้นได้ดำเนินมาหลายสัปดาห์แล้ว โดยที่มีผู้ออกเสียงในฟลอริดา ส่งบัตรเลือกตั้งกันทางไปรษณีย์แล้วเกือบ 1.2 ล้านคน