เอเอฟพี - กองทัพเกาหลีเหนือยิงทดสอบขีปนาวุธพิสัยกลาง “มูซูดัน” เป็นครั้งที่ 2 ในรอบสัปดาห์วันนี้ (20 ต.ค.) แต่ผลออกมาล้มเหลวตามเคย ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าจรวดอานุภาพร้ายแรงของโสมแดงรุ่นนี้อาจ “พร้อมใช้งาน” ได้ภายในปีหน้า
ผู้สังเกตการณ์ในเกาหลีใต้และกองทัพสหรัฐฯ ระบุตรงกันว่า ขีปนาวุธซึ่งเชื่อว่าน่าจะเป็นชั้นมูซูดันถูกปล่อยออกจากฐานยิงเมื่อเวลาราว 6.30 น. ตามเวลากรุงเปียงยาง (5.00 น. ตามเวลาในไทย)
การยิงจรวดลูกนี้มีขึ้นไม่กี่ชั่วโมง ก่อนที่ศึกดีเบตนัดสุดท้ายของผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะเริ่มขึ้น และสะท้อนให้เห็นถึงภัยคุกคามจากโครงการอาวุธโสมแดงที่ผู้นำทำเนียบขาวคนต่อไปจะต้องเตรียมรับมือ
ก่อนหน้านั้น รัฐมนตรีกลาโหมและต่างประเทศของสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ได้ร่วมประชุมที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. โดย จอห์น เคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ได้เน้นย้ำว่า หากเกาหลีเหนือกล้านำอาวุธนิวเคลียร์ออกมาใช้ก็จะ “ถูกตอบโต้ด้วยมาตรการที่หนักหน่วง และมีประสิทธิภาพ”
ผู้เชี่ยวชาญประเมินว่า ขีปนาวุธมูซูดันซึ่งมีพิสัยเดินทางระหว่าง 2,500-4,000 กิโลเมตร สามารถโจมตีเป้าหมายในเกาหลีใต้และญี่ปุ่นได้ทุกแห่ง และอาจเดินทางไปได้ไกลจนถึงฐานทัพสหรัฐฯ บนเกาะกวม
กองทัพโสมแดงได้นำขีปนาวุธมูซูดันออกมายิงทดสอบแล้วถึง 8 ครั้งในปีนี้ แต่เพิ่งจะ “สำเร็จ” ตามเป้าหมายเพียงครั้งเดียวคือในเดือน มิ.ย. ซึ่งจรวดสามารถเดินทางไปไกลถึง 400 กิโลเมตร ก่อนจะตกลงสู่ทะเลญี่ปุ่น
ผู้นำคิม จองอึน ยกย่องความสำเร็จดังกล่าวว่าเป็น “ข้อพิสูจน์” ว่าโสมแดงมีศักยภาพพอที่จะโจมตีฐานทัพสหรัฐฯ “ทั่วยุทธบริเวณในแปซิฟิก”
แม้จะประสบความล้มเหลวติดต่อกันหลายครั้ง แต่ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า การที่เกาหลีเหนือยิงทดสอบจรวดมูซูดันติดๆ กันเช่นนี้ แม้จะยิ่งเสี่ยงต่อความล้มเหลว แต่ขณะเดียวกันก็ทำให้พวกเขาได้บทเรียนจากการทดสอบแต่ละครั้งเพื่อนำไปแก้ไขจุดบกพร่อง
“ถ้าพวกเขายังเดินหน้าทดสอบในอัตราเร็วเช่นนี้ ขีปนาวุธพิสัยกลางมูซูดันน่าจะพร้อมใช้งานได้จริงภายในปีหน้า เร็วกว่าที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้มาก” จอห์น สกิลลิง วิศวกรการบินและอวกาศผู้เชี่ยวชาญด้านระบบขับเคลื่อนจรวด เขียนในบทความที่เผยแพร่ทางเว็บไซต์ 38 North ของสถาบันสหรัฐฯ-เกาหลี มหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกินส์
สหรัฐฯ เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ต่างออกมาประณามการยิงจรวดมูซูดันว่าเป็นการละเมิดคำสั่งองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ที่ห้ามมิให้เปียงยางใช้เทคโนโลยีขีปนาวุธทุกรูปแบบ
“สหรัฐฯ มีเจตนารมณ์แน่วแน่ที่จะปกป้องชาติพันธมิตร รวมถึงสาธารณรัฐเกาหลีและญี่ปุ่น ในยามที่เผชิญภัยคุกคามเช่นนี้” แกรี รอสส์ โฆษกเพนตากอน กล่าว
ประธานเสนาธิการทหารร่วมเกาหลีใต้ยืนยันว่า กองทัพโสมขาว “พร้อมรับมือ” การยั่วยุจากการเกาหลีเหนือ ขณะที่ญี่ปุ่นก็ประกาศจะเพิ่มมาตรการกดดันโสมแดงให้หนักยิ่งกว่าเก่า
การยิงทดสอบขีปนาวุธมูซูดันเกิดขึ้นในขณะที่สหรัฐฯ และจีนยังตกลงกันไม่ได้ว่า จะใช้มาตรการคว่ำบาตรอย่างไรเพื่อตอบโต้การทดสอบนิวเคลียร์ครั้งที่ 5 เมื่อเดือน ก.ย.
ยูเอ็นคว่ำบาตรเกาหลีเหนือมาแล้วถึง 5 ครั้ง ตั้งแต่เปียงยางเริ่มทดสอบนิวเคลียร์ครั้งแรกในปี 2006
การทดสอบนิวเคลียร์ครั้งที่ 4 เมื่อวันที่ 6 ม.ค.ปีนี้ ทำให้คณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นตัดสินใจใช้บทลงโทษที่รุนแรงที่สุดในรอบ 20 ปี โดยมุ่งปิดกั้นการค้าแร่ธาตุและธุรกรรมการเงินของโสมแดง