เอเจนซีส์/เอเอฟพี – ริก มาร์คาร์ หัวหน้ากบฏซูดานใต้ และอดีตรองประธานาธิบดีซูดานใต้ที่ถูกปลด ได้ประกาศล่าสุดวันนี้(18 ต.ค)จากสาธารณรัฐแอฟริกาใต้ในระหว่างการลี้ภัยว่า เขาจะเดินทางกลับเข้าไปยังซูดานใต้อีกครั้ง หลังเกิดการปะทะอย่างรุนแรงเกิดขึ้นตั้งแต่วันศุกร์(14 ต.ค)ที่ผ่านมาระหว่างกองทัพซูดานใต้และกองกำลังฝ่ายกบฎส่งผลทำให้มีตัวเลขผู้เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 60 คน
บีบีซี สื่ออังกฤษรายงานวันนี้(18 ต.ค)ว่า หัวหน้ากบฏซูดานใต้ และอดีตรองประธานาธิบดีซูดานใต้ที่ถูกปลด ริก มาคาร์ (Riek Machar)ได้ให้สัมภาษณ์พิเศษกับสื่ออังกฤษในวันอังคาร(18 ต.ค)จากสาธารณรัฐแอฟริกาใต้ว่า SPLA/IO กลุ่มกบฏซูดานใต้ภายใต้สังกัดของเขายังคงสามารถเข้าสู่ข้อตกลงสันติภาพกับประธานาธิบดีซูดานใต้ ซัลวา คิอีร์
โดยสื่ออังกฤษชี้ว่า มาคาร์ออกมาประกาศทั้งๆที่ในสัปดาห์ที่ผ่านมาเกิดการสู้รบขึ้นอย่างดุเดือดระหว่างกลุ่มกบฎซูดานใต้และกองกำลังทหารของประธานาธิบดีคิอีร์ในเมืองมาลากัล( Malakal)
ทั้งนี้สื่ออังกฤษชี้ว่า ในตอนแรกมาคาร์ได้หลบหนีออกนอกซูดานใต้ไปยังสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก และในปัจจุบันนี้เขาอยู่ในระหว่างการเข้ารับการรักษาพยาบาลที่เมืองโจฮันเนสเบิร์ก สาธารณรัฐแอฟริกาใต้
ซึ่งมาคาร์ได้กล่าวในรายการฮาร์ดทอล์กของบีบีซีว่า “ผมจะเดินทางกลับเข้าไปยังซูดานใต้อีกครั้ง” และกล่าวต่อว่า “เป็นเพราะประธานาธิบดีซัลวา คิอีร์ไม่ต้องการเลือกตั้งที่เป็นประชาธิปไตย โปร่งใส และเสมอภาคให้เกิดขึ้น ซึ่งคิอีร์โจมตีพวกเรา และเขาได้จุดสงครามขึ้นอีกครั้ง”
และผู้นำกบฏซูดานใต้กล่าวต่อว่า “แต่ผมหวังว่าบรรดาผู้นำที่ชาญฉลาดในภูมิภาค ในแอฟริกา และทั่วทั้งโลก จะสร้างกระบวนการทางการเมืองที่จะนำมาสู่สันติภาพอีกครั้ง และนำข้อตกลงสันติภาพให้กลับมามีชีวิตใหม่ และจัดตั้งรัฐบาลรักษาการปรองดองแห่งชาติ
พร้อมกันนี้มาคาร์ยังปฎิเสธคำกล่าวหาจากฝ่ายตรงกันข้ามที่อ้างว่า เขาเป็นผู้กระหายสงคราม โดยยืนยันว่ากองกำลังกบฎซูดานใต้ของเขาเพียงแต่กระทำแต่ปกป้องตัวเองเท่านั้น ทั้งนี้คนของคิอีร์ได้กล่าวหากองกำลังกลุ่มกบฎซูดานใต้ SPLA/IO ว่าเป็นผู้เริ่มต้นก่อเหตุปะทะก่อน
โดยเอเอฟพีรายงานก่อนหน้านี้ว่า ในเหตุปะทะที่เกิดขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์ล่าสุด ทำให้มีผู้เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 60 คน โดยเป็นสมาชิกกลุ่มกบฏซูดานใต้ 56 คน และทหารซูดานใต้อีก 4 นาย
พลจัตวา Lul Ruai Koang โฆษกกองทัพปลดแอกซูดานใต้ SPLAของรัฐบาลซูดานใต้ ออกแถลงการณ์ในวันจันทร์(17 ต.ค)ว่า กองกำลังกลุ่มกบฎที่สนับสนุนอดีตรองประธานาธิบดีซูดานใต้มาคาร์เข้าโจมตีกองกำลังทหารรัฐบาลซูดานใต้ใกล้กับเมืองมาลากัล( Malakal) ซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ของประเทศ
และในแถลงการณ์โฆษกกองทัพปลดแอกซูดานใต้ SPLA ยังชี้ต่อว่า “กองกำลังกบฏของริก มาคาร์โจมตีเราก่อนใน 2 จุดของที่ตั้งของเราในวาจว็อก(Wajwok)และเลโล(Lelo) ซึ่งเราสามารถทำให้พวกเขาได้รับผลกระทบอย่างใหญ่หลวง โดยสามารถยืนยันได้จากจำนวนศพของสมาชิกลุ่มกบฏที่หลังจากได้รับการยืนยันแล้วอยู่ที่ 56 คน” และในแถลงการณ์ของ Koangยังกล่าวต่อว่า “การปะทะเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ช่วงเย็นวันศุกร์(14 ต.ค)และสิ้นสุดลงในวันเสาร์(15 ต.ค)”
นอกจากนี้ในแถลงการณ์ยังระบุถึงตัวเลขสูญเสียในฝ่ายทหารรัฐบาลซูดานใต้ว่า “ในฝ่ายของเรา มีการเสียชีวิตของทหารซูดานใต้จำนวน 4 นาย และอีก 20 นายได้รับบาดเจ็บ”
เอเอฟพีรายงานว่า กองกำลังที่จงรักภักดีต่อคิอีร์ได้เชิญกลุ่มนักข่าวไปยังพื้นที่ในวันอาทิตย์(16 ต.ค)เพื่อยืนยันว่า พื้นที่อยู่ภายใต้การควบคุมของฝ่ายรัฐบาลซูดานใต้จริง ซึ่งช่างภาพนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า พบเห็นศพจำนวน 40 ศพในสถานที่เขาได้เดินเข้าไป
แต่ทว่าพันตรีดิกสัน กัตลวก(Dickson Gatluak) จากกลุ่มกบฏซูดานใต้ SPLA-IO ได้กล่าวยืนยันว่า ทางกลุ่มของเขาเป็นยังเป็นผู้ควบคุมพื้นที่ของทั้งสองเมือง รวมไปถึงทางเหนือของรัฐ อัพเปอร์ ไนล์ (Upper Nile) “สิ่งที่เราพยายามจะกระทำอยู่ในเวลานี้คือ ทางกองกำลังของเราพยายามจะมุ่งหน้าเข้าสู่เมืองมาลากัล ดังนั้นทางกองกำลังของเรายังไม่ออกไปจากพื้นที่เหล่านี้ และนั่นไม่เป็นความจริง”
ทั้งนี้พบว่าเมืองมาลากัลป์นั้นใกล้อยู่กับบ่อน้ำมันซูดานใต้ในแถบอัพเปอร์ ไนล์ ซ฿งกัตลวกอ้างว่า ยังคงมีการสู้รบต่อไป แต่ช่างาภาพนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ในวันอาทิตย์(16 ต.ค)พื้นที่ดูมีความสงบ