เอเอฟพี – วันนี้ (7 ก.ย.) ซูดานเตรียมประกาศสงครามดาร์ฟูร์ที่เคยยืดเยื้อมานานร่วม 13 ปี ได้ยุติลงแล้ว ถึงแม้ว่าจะยังคงมีเงื่อนตายในการเจรจาสันติภาพของสหภาพแอฟริกา AU และการสู้รบที่ยังคงเกิดขึ้น และทำให้ผู้คนจำนวนมากต้องหลบหนีออกจากบ้านของตัวเองในปีนี้
เอเอฟพีรายงานวันนี้ (7 ก.ย.) ว่า ประธานาธิบดีซูดาน โอมาร์ อัล-บาเชียร์ (Omar al-Bashir) มีกำหนดที่จะต้องประกาศความสำเร็จการยุติสงครามดาร์ฟูร์ ที่ยืดเยื้อในพิธีที่ถูกจัดขึ้นในเมืองเอล ฟาเชอร์ (El Fasher) เมืองเอกของรัฐดาร์ฟูร์เหนือ และในพิธีครั้งนี้ได้รับเกียร์ติจาก ชีค ทามิม บิน ฮาหมัด อัล-ธานี (Tamim bin Hamad al-Thani) อีมีร์เจ้าผู้ครองรัฐกาตาร์ และประธานาธิบดีชาด อิดรีส เดบี เข้าร่วม
ทั้งนี้ เป็นที่รู้กันว่ากาตาร์เป็นเจ้าภาพจัดการเจรจาสันติภาพประสบความสำเร็จมาแล้วหลายรอบ ระหว่างรัฐบาลคาร์ทูมของพลเมืองมุสลิมส่วนใหญ่ของประเทศและกลุ่มกบฎชนกลุ่มน้อยที่ได้ลุกขึ้นจับอาวุธในปี 2003
และในการเจรจาที่กรุงโดฮา เมืองหลวงของกาตาร์ในปี 2011 ประสบความสำเร็จในการเจรจาสันติภาพกับกบฏกลุ่ม the Liberation and Justice Movement และในวันนี้ (7 ก.ย.) จะเป็นวันในการทำพิธีแสดงความสำเร็จในข้อตกลงสันติภาพโดฮาที่ได้เกิดขึ้น
“ในวันนี้ ประธานาธิบดี บาเชียร์ จะร่วมการเฉลิมฉลองต่อการประกาศข้อตกลงสันติภาพโดฮาที่ได้บังคับใช้อย่างสมบูรณ์ในดาร์ฟูร์” สื่อทางการซูดาน สำนักข่าวซูนา รายงานโดยอ้างอิงคำแถลงของผู้ว่าการรัฐดาร์ฟูร์เหนือ อับเดลวาฮิด ยูเซฟ (Abdelwahid Youssef)
และภาพปรากฏทางโทรทัศน์แสดงให้เห็นถึงฝูงคนจำนวนมากเข้าร่วมพิธีเฉลิมฉลอง และมีประชาชนซูดานจำนวนมากถือภาพบาชาร์ และเจ้านครรัฐกาตาร์
เอเอฟพีรายงานว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา คาร์ทูมประกาศแสดงความต้องการยุติสงครามดาร์ฟูร์ที่ยืดเยื้อให้สำเร็จภายในปีนี้ โดยอ้างไปถึงผลการลงประชามติในเดือนเมษายนที่ผ่านมาสนับสนุนซูดานให้เดินหน้าต่อ
แต่อย่างไรก็ตาม การลงประชามติที่ถูกบอยคอตจากกลุ่มกบฏได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์หนาหูจากนานาประเทศ และในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา คณะมนตรีความมั่นคงแห่งองค์การสหประชาชาติ ได้ออกเสียงให้มีการยืดคำสั่งคงกองกำลังรักษาสันติภาพของยูเอ็นจำนวน 18,000 นาย ที่ได้รับการสนับสนุนจากสหภาพแอฟริกา AU ออกไป
ซึ่งผลทำให้คาร์ทูมคัดค้านอย่างรุนแรง แต่ทว่าทางคณะมนตรีความมั่นคงแห่งยูเอ็น ชี้ว่า เป็นเพราะยังมีการสู้รบเกิดขึ้นอยู่ในพื้นที่ระหว่างกองกำลังของคาร์ทูมและกับฝ่ายกลุ่มกบฏ และทำให้แค่เฉพาะในช่วงวันที่ 5 พฤษภาคมของปีนี้ ประชาชนชาวซูดานร่วม 80,000 คน ต้องหลบหนีภัยสงครามจากบ้านเรือนของตนไป บวกกับประชานอีกจำนวนมากที่ได้พลัดถิ่นก่อนหน้านี้ และต้องอาศัยอยู่ในค่ายผู้ลี้ภัยมาจนถึงวันนี้
เอเอฟพีรายงานต่อว่า กลุ่มกบฏซูดาน 2 กลุ่ม ที่ชื่อกลุ่ม the Justice and Equality Movement หรือ JEM และกลุ่ม the Sudan Liberation Army ที่นำโดย มินนี มินนาวี (Minni Minnawi) ได้ลงนามโรดแมปสันติภาพกับสหภาพแอฟริกา AU ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
แต่ทว่า กลุ่มกบฏกลุ่มที่ 3 ที่เรียกว่า SLA นำโดย อัลเดลวาฮิด นูร์ (Abdelwahid Nur) ไม่ได้ลงนามร่วมด้วย
และในวันพุธ (7 ก.ย.) กลุ่มกบฏ JEM ออกแถลงการณ์ประกาศจะยอมปล่อยตัวเชลยทั้งหมดที่ทางกลุ่มได้จับกุมไว้ในช่วงระหว่างการปะทะกับกองกำลังทหารรัฐบาลซูดาน
“ทางกลุ่มจะร่วมปล่อยนักโทษกลับไปให้แก่รัฐบาลคาร์ทูม” รายงานจากแถลงการณ์ของกบฏ JEM ซึ่งไม่ได้ระบุเงื่อนเวลาในแถลงการณ์
เอเอฟพีรายงานว่า ประธานาธิบดี บาเชียร์ ถูกต้องการตัวจากศาลอาญาระหว่างประเทศ ICC ในฐานะอาชญากรสงครามเกี่ยวข้องกับสงครามดาร์ฟูร์ ซึ่งเขาได้ปฏิเสธในข้อกล่าวหา โดยจากข้อมูลขององค์การสหประชาชาติ พบว่า รัฐบาลภายใต้การบริหารของบาเชียร์ใช้ความรุนแรงต่อต้านกลุ่มกบฏ ส่งผลทำให้มีผู้เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 300,000 คน