เอเอฟพี - องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ประกาศคำสั่งหยุดยิงเป็นเวลา 72 ชั่วโมงในเยเมน โดยจะเริ่มมีผลบังคับตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 20 ต.ค.เป็นต้นไป
อิสมาอีล อูลด์ ชัยค์ อาเหม็ด ผู้แทนพิเศษยูเอ็นว่าด้วยสงครามเยเมน แถลงเมื่อวันจันทร์ (17) ว่า คำสั่งระงับความรุนแรงซึ่งเคยถูกบังคับใช้ครั้งแรกเมื่อเดือน เม.ย. “จะเริ่มมีผลอีกครั้งตั้งแต่ 23.59 น. ตามเวลาในเยเมน (20.59 GMT) ของวันที่ 19 ต.ค. 2016 โดยมีระยะเวลาเบื้องต้น 72 ชั่วโมง เว้นเสียแต่จะมีการประกาศขยายเวลา”
คำสั่งของยูเอ็นมีขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดีอับดุรรับบูห์ มันซูร์ ฮาดี แห่งเยเมน มีถ้อยแถลงยอมรับข้อตกลงหยุดยิงตามข้อเรียกร้องของนานาชาติ เมื่อวันจันทร์ (17)
อาเหม็ด กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ (16) ว่า ตนได้ติดต่อพูดคุยกับทั้งผู้แทนเจรจาของกบฏฮูตี และรัฐบาลฮาดี
สหรัฐฯ อังกฤษ และผู้แทนยูเอ็นว่าด้วยสงครามเยเมน ต่างเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่มีส่วนร่วมในสงครามครั้งนี้ยอมรับข้อตกลงหยุดยิง
เยเมนซึ่งมีพรมแดนติดกับซาอุดีอาระเบียตกอยู่ในภาวะสงครามกลางเมือง ตั้งแต่กบฏฮูตีนิกายชีอะห์ซึ่งมีอิหร่านหนุนหลังยกพลเข้ายึดกรุงซานาไว้ได้ในเดือน ก.ย.ปี 2014
อย่างไรก็ตาม ความขัดแย้งในเยเมนได้ยกระดับขึ้น หลังจากที่กลุ่มพันธมิตรอาหรับที่นำโดยซาอุดีอาระเบียเริ่มส่งเครื่องบินเข้าไปถล่มพวกกบฏฮูตีและพันธมิตรในเดือน มี.ค.ปี 2015
ตั้งแต่เดือน มี.ค.ปีที่แล้วเป็นต้นมา สงครามเยเมนได้คร่าชีวิตประชาชนไปแล้วเกือบ 6,900 คน บาดเจ็บอีกกว่า 35,000 คน ขณะที่ชาวเยเมนอีกอย่างน้อย 3 ล้านคนต้องพลัดถิ่นที่อยู่ ตามข้อมูลของยูเอ็น
เมื่อวันอาทิตย์ (16) จอห์น เคร์รี รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้ร่วมประชุมกับผู้แทนยูเอ็น ตลอดจนเจ้าหน้าที่ฝ่ายอังกฤษ ซาอุดีอาระเบีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่กรุงลอนดอน เพื่อหารือแนวทางยุติเหตุนองเลือดในเยเมน
“ถึงเวลาแล้วที่จะต้องมีการประกาศหยุดยิงอย่างไร้เงื่อนไข เพื่อเปิดทางไปสู่การเจรจา” เคร์รี ออกมาให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนหลังเสร็จสิ้นการประชุม
ความพยายามที่จะบังคับใช้ข้อตกลงหยุดยิงในเยเมนล้มเหลวมาโดยตลอด และสงครามได้ทวีความรุนแรงขึ้น หลังการเจรจาสันติภาพที่คูเวตเมื่อเดือน ส.ค. ต้องปิดฉากลงโดยไร้ผล
คำสั่งหยุดยิงครั้งก่อนหน้าที่ประกาศในช่วงเริ่มต้นการเจรจาสันติภาพที่คูเวตแทบจะไม่มีผลใดๆ ในสมรภูมิรบ และคู่ขัดแย้งทั้งสองฝ่ายต่างกล่าวโทษกันและกันว่าเป็นฝ่ายละเมิดข้อตกลงก่อน
เมื่อต้นเดือนนี้ อาเหม็ด ระบุว่าจะมีการประกาศหยุดยิงเป็นเวลา 72 ชั่วโมงในอีกไม่ช้า และหวังว่าจะสามารถร่างแผนสันติภาพฉบับใหม่เพื่อยุติสงครามเยเมนได้
กลุ่มพันธมิตรซาอุฯ ได้โจมตีทางอากาศใส่ฐานที่มั่นของกบฏฮูตีนับร้อยๆ ครั้ง และยังส่งทหารภาคพื้นดินเข้าไปช่วยสนับสนุนกองกำลังของประธานาธิบดีฮาดีอีกด้วย แต่ถึงกระนั้น พวกเขาก็ยังไม่สามารถขับไล่กบฏฮูตี รวมถึงกองกำลังที่ภักดีต่ออดีตประธานาธิบดีอาลี อับดุลเลาะห์ ซาเลห์ ออกไปจากกรุงซานาและพื้นที่สำคัญอื่นๆ ได้
กบฏฮูตียังคงควบคุมดินแดนกว้างขวางทางภาคเหนือซึ่งเป็นเขตอิทธิพลดั้งเดิมของพวกเขาอยู่แล้ว รวมถึงหลายเมืองทางภาคตะวันตกและภาคกลางของเยเมน