สื่อมะกันแฉคลิปเสียง “จอห์น เคร์รี” ตัดพ้อ รบ.โอบามาไม่ใช้กำลังทหารยุติ “สงครามซีเรีย”

เอเอฟพี - หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สเผยแพร่คลิปเสียง จอห์น เคร์รี รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ซึ่งแสดงความท้อแท้ใจที่วอชิงตันปฏิเสธใช้กำลังทหารเข้าสนับสนุนความพยายามทางการทูตเพื่อยุติสงครามกลางเมืองในซีเรีย

จากคลิปเสียงที่ถูกเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ (30 ก.ย.) เคร์รี ได้โอดครวญต่อกลุ่มพลเรือนซีเรียที่นครนิวยอร์กเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ตนเคยเรียกร้องให้สหรัฐฯ ใช้กำลังทหารกดดันรัฐบาลประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด แต่ไม่มีใครยอมฟัง

“พอมองหน้าคน 3-4 คนในรัฐบาลที่ยืนกรานคัดค้านการใช้กำลัง ผมก็ไม่รู้จะพูดอะไรต่อ” เคร์รี กล่าว

“ผมพยายามชี้แจงเหตุผลที่เราต้องใช้กำลังทหาร... แต่แล้วเหตุการณ์มันก็กลับกลายเป็นอีกอย่างหนึ่ง”

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ จอห์น เคอร์บีย์ ไม่ปฏิเสธความจริงแท้ของคลิปเสียงดังกล่าว ซึ่งเป็นบันทึกบทสนทนาทางการทูตแบบเป็นส่วนตัวนอกรอบการประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ

“เราไม่ขอให้ความเห็นเกี่ยวกับบทสนทนาที่เป็นส่วนตัว แต่ท่านรัฐมนตรี เคร์รี รู้สึกยินดีที่ได้มีโอกาสพบกับพลเมืองซีเรียกลุ่มนี้ เพื่อรับฟังปัญหาโดยตรงจากพวกเขา และยืนยันว่าสหรัฐฯ ยังคงมุ่งมั่นที่จะยุติสงครามกลางเมืองในซีเรียให้ได้”

สื่อหลายสำนักรายงานตรงกันว่า เคร์รี พยายามโน้มน้าวประธานาธิบดี บารัค โอบามา ให้ใช้มาตรการที่แข็งกร้าวยิ่งขึ้นในซีเรีย เพื่อเสริมเขี้ยวเล็บแก่ความพยายามของนานาชาติที่จะบีบให้ อัสซาด ยอมลงจากอำนาจ และปิดฉากสงครามกลางเมืองซึ่งกำลังยืดเยื้อเข้าปีที่ 6

เมื่อเดือน ส.ค. ปี 2013 หลังจากที่ผู้นำซีเรียถูกกล่าวหาว่าใช้อาวุธเคมีสังหารพลเรือน รัฐมนตรี เคร์รี ได้ใช้ถ้อยคำประณามเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างรุนแรง จนหลายฝ่ายคาดเดาว่าอเมริกาคงจะตัดสินใจส่งทหารภาคพื้นดินเข้าโจมตีซีเรีย ทว่า โอบามา กลับออกมาผ่อนจุดยืนของสหรัฐฯ ลงในอีกไม่กี่ชั่วโมงให้หลัง

เคร์รี ได้อ้างถึงคำพูดดังกล่าวไว้ในคลิปเสียงด้วย แต่โทษว่าเป็นเพราะสภาคองเกรสไม่ยอมอนุมัติให้ใช้กำลังทหารโจมตี อัสซาด

ด้านกลุ่มพลเมืองซีเรียซึ่งสนับสนุนฝ่ายกบฏก็แสดงท่าทีไม่สบอารมณ์ที่สหรัฐฯ มุ่งแต่ปราบปรามกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) แต่ไม่คิดจะบั่นทอนกำลังของทหารอัสซาดหรือพวกนักรบพันธมิตรบ้าง

เมื่อวันที่ 9 ก.ย. เคร์รี และผู้แทนรัสเซียได้บรรลุข้อตกลงให้มีการประกาศหยุดยิงระหว่างกองทัพซีเรียกับฝ่ายกบฏ การหยุดยิงเริ่มมีผลบังคับในวันที่ 12 ก.ย. และพังทลายลงในเวลาแค่ไม่ถึง 1 สัปดาห์

รัสเซียและสหรัฐฯ ต่างกล่าวโทษซึ่งกันและกันว่าเป็นต้นเหตุทำให้ข้อตกลงหยุดยิงล่ม ขณะที่กองทัพอัสซาดซึ่งมีรัสเซียหนุนหลังก็เริ่มปฏิบัติการโจมตีระลอกใหม่ในจังหวัดอะเลปโป

“ฟังก่อนนะ... ผมเข้าใจดีทุกอย่าง” เคร์รี บอกกับกลุ่มพลเมืองซีเรีย

“พวกเราส่วนใหญ่ต้องการให้มีกลไกบังคับ พวกเราหลายคนพยายามต่อสู้เพื่อให้เกิดกลไกที่ว่านี้ แต่เรายังทำไม่สำเร็จ”

“เราพยายามใช้วิธีทางการทูต ซึ่งผมเข้าใจว่ามันน่าผิดหวังแค่ไหน ขอให้รู้ว่าไม่มีใครที่รู้สึกผิดหวังท้อแท้มากไปกว่าเรา”