เอเอฟพี - องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) แถลงยืนยันเมื่อวันพุธ (21 ก.ย.) ว่าพร้อมที่จะจัดส่งความช่วยเหลือไปยังพลเมืองซีเรียที่ถูกปิดล้อมอีกครั้ง หลังมีคำสั่งระงับเนื่องจากขบวนรถบรรเทาทุกข์และคลังเก็บของถูกถล่มเสียหายยับเยินเมื่อวันจันทร์ (19 ก.ย.)
“เราได้เริ่มตระเตรียมสิ่งของบรรเทาทุกข์อีกครั้ง และพร้อมที่จะส่งไปยังเมืองที่ถูกปิดล้อมหรือพื้นที่ซึ่งยากแก่การเข้าถึงโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้” สำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ (OCHA) ระบุในคำแถลง
เหตุโจมตีดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่ขบวนรถบรรทุกของยูเอ็นและสภาเสี้ยวเดือนแดงแห่งอาหรับซีเรีย (SARC) กำลังขนสิ่งของบรรเทาทุกข์ลงมายังโกดังที่ย่านโอรุม อัล-คูบรา ในจังหวัดอะเลปโป ซึ่งทำให้อาสาสมัครหลายคน รวมถึงเจ้าหน้าที่คนหนึ่งของ SARC เสียชีวิต
ยูเอ็นได้สั่งระงับส่งความช่วยเหลือทันทีในเช้าวันอังคาร (20) และเรียกร้องให้มีการสืบสวนว่าใครเป็นผู้โจมตี
ศูนย์สังเกตการณ์สิทธิมนุษยชนซีเรียซึ่งมีฐานที่กรุงลอนดอนชี้ว่า โศกนาฏกรรมครั้งนี้เป็นผลมาจากการโจมตีทางอากาศ ซึ่งหากเป็นความจริง เครื่องบินขับไล่ของรัสเซียและซีเรียก็อยู่ในข่ายต้องสงสัยมากที่สุด เนื่องจากฝ่ายกบฏหรือนักรบญิฮาดไม่มีกองกำลังทางอากาศที่จะโจมตีในลักษณะนี้ได้
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ คนหนึ่งให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพีเมื่อวันอังคาร (20) ว่า วอชิงตันเชื่อแน่ว่าการโจมตีขบวนรถบรรทุกยูเอ็นเป็นฝีมือรัสเซีย เนื่องจากขณะนั้นมีเครื่องบินขับไล่ Su-24 ของแดนหมีขาว 2 ลำปฏิบัติการอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ทั้งรัสเซียและซีเรียยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้
การส่งความช่วยเหลือให้ถึงมือประชาชนซึ่งติดอยู่ในพื้นที่ขัดแย้งถือเป็นภารกิจหลักของยูเอ็นในซีเรีย ทว่าขบวนรถบรรเทาทุกข์มักเผชิญอุปสรรคในการเข้าถึงชุมชนเหล่านั้นด้วยสาเหตุต่างๆ เช่น รัฐบาลซีเรียไม่อนุญาต หรือฝ่ายกบฏซีเรียกำหนดเงื่อนไขเข้มงวด
OCHA ยังเรียกร้องให้ทุกฝ่าย “ยอมเปิดเส้นทางให้ขบวนรถบรรเทาทุกข์สามารถเข้าถึงพลเรือนซีเรียที่กำลังเดือดร้อนได้อย่างยั่งยืน ปลอดภัย ไร้เงื่อนไข และปราศจากการขัดขวาง ไม่ว่าคนเหล่านั้นจะอยู่ในพื้นที่ใดก็ตาม”
