เอเจนซีส์ - อเมริกาถล่มสถานีเรดาร์ 3 แห่งของกบฏฮูตีในเยเมน นับเป็นการโจมตีโดยตรงครั้งแรกของสหรัฐฯ ต่อกลุ่มนี้ หลังจากเรือรบอเมริกันถูกโจมตีหลายครั้งตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ผ่านมา (9) ขณะที่กบฏฮูตีที่ได้รับการหนุนหลังจากอิหร่านโต้ว่าไม่เกี่ยวข้องกับการโจมตีดังกล่าว แต่เป็นเพราะเพนตากอนต้องการหาข้ออ้างให้ตัวเองในการสนับสนุนด้านข่าวกรองและการส่งกำลังบำรุงแก่กลุ่มพันธมิตรที่นำโดยริยาด
ปีเตอร์ คุก เลขาธิการฝ่ายประชาสัมพันธ์ของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ แถลงเมื่อวันพฤหัสฯ (13) ว่า ประธานาธิบดี บารัค โอบามา อนุมัติปฏิบัติการดังกล่าว ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อเวลา 1.00 น. ตามเวลามาตรฐานเมืองกรีนิช (เวลาไทยประมาณ 08.00 น.) โดยเรือพิฆาต ยูเอสเอส นิตซี โจมตีพื้นที่ครอบครองของกบฏฮูตีบนชายฝั่งทะเลแดงด้วยขีปนาวุธร่อนนำวิถีโทมาฮอว์ก และจากการประเมินเบื้องต้นพบว่าการโจมตีประสบผลสำเร็จ
แถลงการณ์ยังระบุว่า สถานีเรดาร์เป้าหมาย 3 แห่งเกี่ยวข้องกับการโจมตีด้วยขีปนาวุธเมื่อเร็วๆ นี้ต่อเรือพิฆาต ยูเอสเอส เมสัน และเรืออื่นๆ ที่ปฏิบัติการในน่านน้ำสากลของทะเลแดง และบับ อัล-มันเดบ
“การโจมตีแบบจำกัดเพื่อปกป้องตัวเองเหล่านี้ดำเนินการเพื่อปกป้องเจ้าหน้าที่ เรือ และเสรีภาพของเราในการเดินเรือในเส้นทางเดินเรือที่สำคัญนี้”
รายงานระบุว่า เรือยูเอสเอส เมสัน ตกเป็นเป้าหมายการโจมตีเมื่อวันพุธ (12) ทว่า ขีปนาวุธที่ยิงจากพื้นที่ยึดครองของกบฏฮูตีระเบิดในมหาสมุทรก่อนถึงเป้าหมาย นอกจากนั้น เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (9) เรือเมสันและเรือขนส่งสะเทินน้ำสะเทินบก ยูเอสเอส พอนซ์ ยังถูกเล็งเป้าหมายโดยขีปนาวุธสองลูกแต่ไม่สำเร็จเช่นกัน
คุกสำทับว่า อเมริกาจะตอบโต้ภัยคุกคามต่อเรือและการขนส่งทางพาณิชย์อย่างเหมาะสม และยังคงยึดมั่นเสรีภาพในการเดินเรือในทะเลแดง, บับ อัล-มันเดบ และทุกที่ทั่วโลกต่อไป
อย่างไรก็ตาม กบฏฮูตีปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวผ่านสำนักข่าวซาบา โดยอ้างว่า เพนตากอนพยายามหาข้ออ้างให้ตัวเองสำหรับการสนับสนุนด้านข่าวกรองและการส่งกำลังบำรุงแก่กลุ่มพันธมิตร
ไมเคิล ไนต์ ผู้เชี่ยวชาญด้านความขัดแย้งในเยเมนจากสถาบันวอชิงตันเพื่อนโยบายตะวันออกใกล้ มองว่า การพยายามโจมตีเรือรบอเมริกันบ่งชี้ว่ากบฏฮูตีอาจตัดสินใจร่วมเป็นพันธมิตรกับแกนต่อต้านที่ขณะนี้รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน ฮามาส และอิหร่าน
ทั้งนี้ อเมริกาให้การสนับสนุนกลุ่มพันธมิตรที่นำโดยซาอุดีอาระเบีย ในการต่อสู้กับกบฏกลุ่มต่างๆ ที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน และกองกำลังของอดีตประธานาธิบดีอาลี อับดัลเลาะห์ ซาเลห์ของเยเมน
กองทัพสหรัฐฯ ให้การสนับสนุนด้านข่าวกรองและการเติมเชื้อเพลิงแก่เครื่องบินของกลุ่มพันธมิตรที่ทำการโจมตีกลุ่มกบฏในเยเมน รวมทั้งจัดหากระสุนขั้นสูงและการส่งกำลังบำรุง อีกทั้งยังเป็นซัปพลายเออร์อาวุธรายใหญ่สุดของริยาด
อย่างไรก็ตาม กองทัพอากาศอเมริกาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงในการโจมตีในเยเมน ซึ่งถูกวิจารณ์หนักขึ้นจากนานาชาติเนื่องจากส่งผลกระทบร้ายแรงต่อพลเรือน
ภายหลังการโจมตีทางอากาศของกลุ่มพันธมิตรเมื่อวันอาทิตย์ต่อสถานที่จัดงานศพแห่งหนึ่งในเยเมนที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 140 นสบ คณะบริหารสหรัฐฯ ประกาศทบทวนความร่วมมือกับกลุ่มพันธมิตรทันที
ด้านกลุ่มพันธมิตรกล่าวหากบฏฮูตียิงขีปนาวุธใส่ฐานทัพอากาศของซาอุดีฯ ในเมืองทาอิฟทางตะวันตกเฉียงใต้ ห่างจากพรมแดนติดกับเยเมนหลายร้อยกิโลเมตรเมื่อวันอาทิตย์
นอกจากนั้น เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ซึ่งเป็นสมาชิกสำคัญของกลุ่มพันธมิตรยังเปิดเผยว่า กบฏเยเมนโจมตีเรือพลเรือนในน่านน้ำบับ อัล-มันเดบ ทำให้ลูกเรือได้รับบาดเจ็บ สอดคล้องกับที่กบฏชีอะห์ออกมาประกาศความรับผิดชอบ
อนึ่ง เรือรบของกลุ่มพันธมิตรได้ปิดกั้นทางทะเลต่อท่าเรือที่ถูกกบฏยึดครองตลอดแนวชายฝั่งทะเลแดง และอนุญาตให้เรือลำเลียงความช่วยเหลือของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ผ่านเท่านั้น
ความขัดแย้งในเยเมนที่ปะทุขึ้นนับจากที่กบฏฮูตีเข้ายึดกรุงซานาเมื่อเดือนกันยายน 2014 และรุกคืบครอบครองพื้นที่กว้างขวางทั่วประเทศ บีบให้ประธานาธิบดี อาเบดรับโบ มานซูร์ ต้องหนีออกนอกประเทศนั้น ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 6,700 ราย ซึ่งเกือบ 2 ใน 3 เป็นพลเรือน รวมทั้งยังทำให้ประชาชนอย่างน้อย 3 ล้านคนต้องทิ้งบ้านเรือนนับจากที่กลุ่มพันธมิตรเริ่มปฏิบัติการทางทหารเมื่อเดือนมีนาคม ปีที่แล้ว