เอเอฟพี - องค์การสหประชาชาติ ระบุ มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 140 ราย บาดเจ็บอีก 525 ราย จากการโจมตีทางอากาศเข้าใส่งานศพของฝ่ายกบฏฮูตีในเยเมน ด้านกลุ่มพันธมิตรอาหรับที่นำโดยซาอุดีอาระเบีย ประกาศจะสืบสวนการโจมตีดังกล่าว
กลุ่มพันธมิตรที่นำโดยซาอุดีอาระเบีย ประกาศจะสืบสวนกรณีการโจมตีทางอากาศในเยเมน ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 140 ราย เมื่อวันเสาร์ (8) หลังวอชิงตันลั่นกำลังทบทวนการสนับสนุนพันธมิตรกลุ่มนี้ ที่สู้รบกับกลุ่มกบฎฮูตีมาตั้งแต่ช่วงต้นปีที่แล้ว ขณะที่นานาชาติกดดันอย่างหนักให้ทุกฝ่ายยุติการโจมตีพลเรือนเยเมน
กบฏฮูตีที่มีอิหร่านให้การสนับสนุน กล่าวหาว่า พันธมิตรอาหรับเป็นผู้โจมตีเมื่อวันเสาร์ ซึ่งถือเป็นเหตุการณ์นองเลือดที่สุดนับจากกลุ่มพันธมิตรเริ่มต้นปฏิบัติการทางทหารเพื่อขับไล่กบฏสุหนี่เมื่อเดือนมีนาคมปีที่ผ่านมา
การโจมตีดังกล่าวอาจกระทบความสัมพันธ์อเมริกา - ซาอุฯ เกี่ยวกับการแทรกแซงทางทหารของกลุ่มพันธมิตร ที่ถูกสงสัยว่า ทำให้พลเรือนเสียชีวิตกว่า 4,000 คนในเยเมน
ในวันอาทิตย์ (9) หลังจากปฏิเสธความรับผิดชอบในตอนแรก กลุ่มพันธมิตรแถลงว่า พร้อมเปิดการสืบสวนการโจมตีที่น่าเสียใจและเจ็บปวด ซึ่งสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ระบุว่า ทำให้ประชาชนบาดเจ็บกว่า 525 คน โดยการสอบสวนนี้จะเริ่มต้นทันที และมีผู้เชี่ยวชาญจากอเมริกาที่มีส่วนในการสอบสวนหลายครั้งก่อนหน้านี้เข้าร่วมด้วย
แถลงการณ์ที่เผยแพร่ผ่านสำนักข่าว ซาอุดี เพรส ยังระบุว่า กลุ่มพันธมิตรยินดีให้ข้อมูลเกี่ยวกับปฏิบัติการทางทหารในวันเวลาและสถานที่เกิดเหตุ รวมทั้งบริเวณรอบ ๆ แก่ทีมสืบสวน
ยูเอ็น ระบุว่า เจ้าหน้าที่ตะลึงและเจ็บปวดกับการโจมตีห้องโถงของชุมชนในซานา ตอนที่ชาวบ้านหลายร้อยคนกำลังร่วมไว้อาลัยในพิธีศพ จาลัล อัล-โรไวชาน พ่อของรัฐมนตรีมหาดไทยของฝ่ายกบฏฮูตี
ทั้งนี้ เว็บไซต์ข่าวของกลุ่มกบฏ sabanews.net รายงานว่า เครื่องบินของกลุ่มพันธมิตรเป็นผู้โจมตีและทำการสังหารหมู่
อย่างไรก็ตาม กบฏฮูตีไม่ได้ระบุว่า โรไวชาน หรือผู้นำระดับสูงคนอื่น ๆ อยู่ในอาคารดังกล่าวระหว่างที่มีการโจมตีหรือไม่ ขณะที่สถานีทีวีของกลุ่มกบฏรายงานว่า อับเดล กาเดอร์ ไฮตัล นายกเทศมนตรีซานา คือ หนึ่งในผู้เสียชีวิต
ด้านวอชิงตันที่เป็นพันธมิตรสำคัญของซาอุฯ เตือนว่า จะทบทวนการสนับสนุนกลุ่มพันธมิตรทันที เพื่อปรับการสนับสนุนให้สอดคล้องกับหลักการ ค่านิยม และผลประโยชน์ของอเมริกามากขึ้น
เน็ด ไพรซ์ โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติทำเนียบขาว แถลงว่า อเมริกาไม่สบายใจอย่างมากกับรายงานข่าวการโจมตีทางอากาศในเยเมน ซึ่งหากเป็นจริง จะถือเป็นการโจมตีพลเรือนเยเมนครั้งล่าสุด
ไพรซ์ สำทับว่า การร่วมมือด้านความมั่นคงของอเมริกากับซาอุฯ ไม่ใช่การให้อนุญาตแบบไม่จำกัด พร้อมเรียกร้องทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องให้หยุดยิงทันที
ทั้งนี้ เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา กองทัพสหรัฐฯ ประกาศลดจำนวนที่ปรึกษาด้านข่าวกรองหลังมีเหตุการณ์ที่น่ากังวล ว่า การโจมตีของกลุ่มพันธมิตรอาจทำให้พลเรือนบาดเจ็บล้มตาย
เจมี แม็กโกลด์ริก ผู้ประสานงานด้านมนุษยชนในเยเมนของยูเอ็น เรียกร้องให้สอบสวนการโจมตีงานศพเมื่อวันเสาร์ พร้อมระบุว่า นานาชาติต้องร่วมกันกดดันเพื่อให้แน่ใจว่า พลเรือนในเยเมนจะได้รับการปกป้อง และการใช้ความรุนแรงกับพลเมืองต้องยุติลงทันที
เช่นเดียวกับ สตีเฟน โอไบรอัน รองเลขาธิการยูเอ็นฝ่ายกิจการมนุษยธรรมและผู้ประสานงานการบรรเทาทุกข์ฉุกเฉิน เรียกร้องให้ตรวจสอบการโจมตีดังกล่าวอย่างเป็นธรรมในทันที รวมทั้งเรียกร้องให้ทุกฝ่ายปกป้องพลเรือน และยุติการใช้ระเบิดหรือการโจมตีทางอากาศต่อบริเวณที่มีพลเรือนอาศัยอยู่ในเยเมน
กลุ่มพันธมิตรที่นำโดยซาอุฯ กำลังถูกนานาชาติจับตามากขึ้นเกี่ยวกับการเสียชีวิตของพลเรือน
เดือนกันยายนปีที่แล้ว มีข้อสงสัยว่า การโจมตีทางอากาศของกลุ่มพันธมิตรทำให้พลเรือนอย่างน้อย 131 คนเสียชีวิตในงานแต่งงานใกล้เมืองโมคา ทว่า กลุ่มพันธมิตรยืนกรานปฏิเสธ
ต่อมาในเดือนมีนาคมปีนี้ การโจมตีทางอากาศที่นำโดยซาอุดีฯ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 119 คน ซึ่งรวมถึงพลเรือน 106 คน และ 24 คนเป็นเด็ก ในตลาดใกล้จังหวัดฮัจจาที่กบฏยึดครองอยู่
สำหรับการโจมตีล่าสุดเมื่อวันเสาร์ กลุ่มพันธมิตรออกแถลงการณ์ยืนยันว่า ไม่มีปฏิบัติการในบริเวณที่เกิดเหตุ และกลุ่มพันธมิตรพยายามหลีกเลี่ยงการโจมตีในที่ชุมนุมของพลเรือนมาโดยตลอด
อย่างไรก็ตาม ในแถลงการณ์ล่าสุดเมื่อวันอาทิตย์ (9) กลุ่มพันธมิตรแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง และให้กำลังใจครอบครัวเหยื่อความรุนแรงนับจากที่กลุ่มกบฏเข้ายึดอำนาจในเยเมนในปี 2014 ซึ่งยูเอ็นระบุว่า ความขัดแย้งนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 6,700 คน โดยเกือบ 2 ใน 3 เป็นพลเรือน และประชาชนอย่างน้อย 3 ล้านคนต้องทิ้งบ้านเรือนนับจากกลุ่มพันธมิตรเริ่มปฏิบัติการทางทหาร
กลุ่มพันธมิตร ซึ่งประกอบด้วย บาห์เรน อียิปต์ โมร็อกโก กาตาร์ ซูดาน และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ รวมถึงซาอุดีฯ เผชิญการวิจารณ์จากกลุ่มสิทธิมนุษยชนมาโดยตลอด เกี่ยวกับการบาดเจ็บล้มตายของพลเรือนจากปฏิบัติการในเยเมน
รูเพิร์ต โคลวิลล์ โฆษกสำนักงานสิทธิมนุษยชนยูเอ็น กล่าวเมื่อวันอังคาร (4) ว่า มีพลเรือนเสียชีวิต 4,014 คน และบาดเจ็บเกือบ 7,000 คนนับจากเดือนมีนาคม 2015 ถึงสิ้นเดือนกันยายนปีนี้