เอเจนซีส์ – ประธานาธิบดีจีน สี จิ้น ผิง ประกาศในวันอาทิตย์(16 ต.ค) ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการประชุมกลุ่มเศรษฐกิจ BRICS ที่รวมจำนวนประชากรโลกเกือบครึ่ง และมีผลผลิตทางเศรษฐกิจรวมเกือบ 25% ของโลก ซึ่งมีรัสเซียเป็นผู้จัดตั้ง โดยทางผู้นำจีนย้ำ ปักกิ่งยังคงสนับสนุนชาติสมาชิกทั้งหมดไม่เปลี่ยนแปลงถึงแม้ว่าสถานการณ์เศรษฐกิจโลกยังผันผวน ที่มีรัสเซียและบราซิลอยู่ในช่วงภาวะถดถอย
บีบีซี สื่ออังกฤษรายงานเมื่อวานนี้(16 ต.ค)ว่า ในวันปิดท้ายการประชุมกลุ่ม BRICS ที่ถูกจัดขึ้นในรัฐกัว ที่มีอินเดียเป็นเจ้าภาพในปีนี้ ประธานาธิบดีจีน สี จิ้น ผิง กล่าวในวันอาทิตย์(16 ต.ค)ให้คำมั่นในการยังคงให้การสนับสนุนต่อสมาชิกของกลุ่มที่มีชาติ สมาชิกรวมตัว 5 ชาติซึ่งล้วนแต่เป็นกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ ได้แก่ รัสเซีย จีน อินเดีย บราซิล และแอฟริกาใต้
โดยทางผู้นำจีนกล่าวว่า ชาติสมาชิกกลุ่ม BRICS รวมอยู่ในกลุ่มประเทศที่มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจช้าลง แต่ทว่าสียังย้ำว่า ศักยภาพและความแข็งแกร่งของทางกลุ่มนั้นไม่เปลี่ยนแปลง
ซึ่งการประกาศจุดยืนของผู้นำจีนมีขึ้นหลังจากที่บรรดาผู้นำทั้ง 5 ชาติได้ตกลงร่วมกันในการร่วมมือความสัมพันธ์ทางการค้าและธุรกิจให้มีความใกล้ชิดกันมากขึ้น
ทั้งนี้สี ได้กล่าวโยงไปถึงสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ไม่แน่นอน และประกอบกับชาติสมาชิกของกลุ่มอยู่ในกลุ่มประเทศที่มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจช้าลง แต่ทว่าสียังชี้ถึงจุดแข็งที่ทางกลุ่ม BRICS มีคือ ทรัพยากรและแรงงาน ซึ่งส่งผลทำให้ส่งผลดีในระยะยาว
สื่ออังกฤษรายงานว่า ในต้นเดือนนี้ ทางสถาบันการเงินระหว่างประเทศ IMF ได้ปรับลดตัวเลขการคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจโลกปี 2016 และพบว่าบราซิล แอฟริกา และระสเซียถูกปรับลดชั้นลงอย่างมาก
นอกจากนี้ยังพบว่า เศรษฐกิจของกลุ่ม BRICS ยังได้รับผลกระทบอย่างหนักจากความต้องการของตลาดที่ตกลง และราคาที่ต่ำลงของสินค้าคอมโมดิตี ในขณะที่บางส่วนต้องเผชิญกับปัญหาการคอร์รัปชัน
บีบีซีชี้ต่อว่า และในขณะนี้ทั้งบราซิลและรัสเซียกำลังตกอยู่ในวิกฤตเศรษฐกิจถดถอย ส่วนแอฟริกาใต้เกือบจะต้องเข้าสู่วิกฤตเศรษฐกิจถดถอยในเดือนที่ผ่านมา ด้านจีนกำลังตกอยู่ในระหว่างการเติบโตเศรษฐกิจต่ำที่สุดในรอบ 25 ปี
กระนั้น ลอร์ด จิม โอ เนล Lord Jim O'Neill) นักเศรษฐศาสตร์ผู้คิดค้น "BRICS" ได้กล่าวให้สัมภาษณ์กับสื่ออังกฤษว่า เขายังคงมีความเชื่อมั่นในความสำเร็จของกลุ่ม โดยการให้สัมภาษณ์ล่วงหน้าก่อนการประชุม โอ เนลระบุว่า “ในวันทางนี้ทางกลุ่มนั้นยิ่งใหญ่กว่าเดิมมาก ซึ่งมากกว่าโมเดลผลบวกที่สุดที่ผมได้คาดการณ์ไว้เมื่อ 15 ปีก่อนหน้านี้ และสิ่งสำคัญที่สุดเป็นเพราะจีน”
ทั้งนี้ในการประชุม ผู้นำกลุ่ม 5 ชาติสมาชิกได้ตกลงที่จะจัดตั้งสถาบันการจัดเรตติ้งแห่งใหม่ของโลกขึ้นมา และรวมไปถึงการเพิ่มบทบาทของประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ให้มากขึ้น รวมไปถึงให้ความสำคัญจากภัยก่อการร้าย
และในอีกข้อตกลง ผู้นำจีนประกาศที่จะเพิ่มความใกล้ชิดทางด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกับอินเดียและรัสเซีย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการปักกิ่งสำหรับพันธมิตรทางการค้าร่วมในระดับโลก
ด้านนายกรัฐมนตรีอินเดีย นเรนทรา โมดี ซึ่งเป็นเจ้าภาพได้ประกาศว่า จีนและอินเดียมีภาระในการทำให้โลกในศตวรรษที่ 21 เป็น “ศตวรรษแห่งเอเชีย”
ซึ่งก่อนหน้านี้ในวันเสาร์(15 ต.ค)โมดีและประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ได้ใช้เวลานอกรอบในการลงนามความร่วมมือ 16 ฉบับมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ด้านพลังงานและความมั่นคง