เอเจนซีส์ - รัฐมนตรีต่างประเทศฟิลิปปินส์ระบุว่า ประธานาธิบดี โรดริโก ดูเตอร์เต นั้นต้องการจะปลดปล่อยประเทศของเขาออกจาก “โซ่ตรวนของการเป็นเมืองขึ้น” ของสหรัฐฯ ซึ่งไม่เคยจะรับประกันอะไรได้เลยว่าจะช่วยเวลาที่อธิปไตยของฟิลิปปินส์ถูกคุกคาม
รัฐมนตรีกิจการต่างประเทศ เปอร์เฟคโต ยาเซย์ ระบุว่า ผู้นำฟิลิปปินส์นั้นถูกบีบให้ต้องปรับนโยบายต่างประเทศของฟิลิปปินส์ และจะไม่ยอมจำนนต่อข้อเรียกร้องและผลประโยชน์ของสหรัฐฯ
“การพังโซ่ตรวนความเป็นเมืองขึ้นของฟิลิปปินส์ เพื่อให้จัดการภัยคุกคามด้านความมั่นคงทั้งในและนอกประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ประเทศของเราจำเป็นจะต้องยุติการส่งเสริมผลประโยชน์ของสหรัฐฯ” ยาเซย์ระบุทางเฟซบุ๊ก
ยาเซย์บอกว่า ฟิลิปปินส์นั้นจะสำนึกบุญคุณเจ้าอาณานิคมอย่างอเมริกาตลอดไป สำหรับทุกสิ่งทุกอย่างตลอดช่วงของการเป็นพันธมิตรหลายทศวรรษ แต่ถึงกระนั้น ฟิลิปปินส์ก็ยังคงเป็นประเทศด้อยพัฒนาและมีกองทัพที่อ่อนแอ
เขาบอกว่า เรื่องทะเลจีนใต้ อเมริกาไม่อาจรับรองอะไรได้เลยว่าจะช่วยฟิลิปปินส์ปกป้องอธิปไตย ตามสนธิสัญญาที่ทำไว้ในปี 1951
“พลังในการป้องกันตัวเองของเรายังคงไร้สมรรถภาพในการรับมือภัยคุกคามความมั่นคงที่เราเจอจากผู้มีแนวโน้มเป็นศัตรู ไม่ต้องพูดถึงเรื่องผลกระทบที่ซบเซาต่อการพัฒนาของเรา” ยาเซย์กล่าว
“แย่กว่านั้นก็คือ พันธมิตรของเราไม่อาจให้การรับประกันใดได้เลยในการดำเนินการแบบแข็งกร้าวเพื่อบังคับใช้ตามสิทธิอธิปไตยของเราภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ ทำให้การปกป้องตัวเองของเราตกอยู่ภายใต้สนธิสัญญาและข้อตกลงทางทหารที่มีอยู่” ยาเซย์กล่าว
ยาเซย์บอกว่า นับตั้งแต่ได้รับเอกราชจากอเมริกาเมื่อ 70 ปีก่อน ไม่เคยมีการยอมให้ “น้องชายตัวน้อยผิวสีน้ำตาล” อย่างฟิลิปปินส์ได้มีเสรีภาพอย่างแท้จริง
เขายังระบุด้วยว่า ฟิลิปปินส์กำลังหาทางผูกมิตรกับจีน โดยจะระลึกไว้ในใจเสมอถึงบทเรียนที่ได้มาจากการใกล้ชิดกับอเมริกามากเกินไป
“ความผิดพลาดในอดีตของเรา เรื่องการอุ้มชูและเสริมสร้างมิตรภาพที่มีกับพี่ชายผิวขาว ช่วยสอนให้รู้ถึงเป้าประสงค์นี้” เขากล่าว
