เอเอฟพี - สำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐฯ (FBI) จับกุมชายคนหนึ่งซึ่งเป็นพนักงานสัญญาจ้างของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ (เอ็นเอสเอ) เพื่อสอบสวนความเป็นไปได้ที่เขาขโมยรหัสลับสุดยอดที่พัฒนาขึ้นสำหรับแฮกระบบรัฐบาลต่างชาติ เจ้าหน้าที่อเมริกาเปิดเผยในวันพุธ (5 ต.ค.)
กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เปิดเผยคำร้องคดีอาญาต่อนายฮาโรลด์ โธมัส มาร์ติน เดอะ เติร์ด วัย 51 ปี จากแมรีแลนด์ โดยกล่าวหาเขาขโมยทรัพย์สินของทางราชการ เคลื่อนย้ายและเก็บรักษาเอกสารลับโดยไม่ได้รับอนุญาต
นายมาร์ตินถูกจับกุมในวันที่ 27 สิงหาคม และจากนั้นก็มีการเข้าตรวจค้นบ้านของเขา และตอนนี้นายมาร์ตินถูกไล่ออกจากงานในบูซ อัลเลน แอนด์ แฮมิลตัน บริษัทเดียวกับที่เคยจ้างนายเอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน จอมแฉผู้โด่งดัง
หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์รายงานว่า บูซ อัลเลน ช่วยสร้างและเป็นผู้ดำเนินการปฏิบัติการทางไซเบอร์ที่อ่อนไหวมากมายของเอ็นเอสเอ ขณะที่ทางบูซ อัลเลน ระบุในถ้อยแถลงว่าพวกเขาได้เสนอตัวให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่กับเจ้าหน้าที่อย่างเร็วที่สุดทันทีที่ทราบข่าวการจับกุมดังกล่าว
“เราไล่ลูกจ้างคนดังกล่าวออกแล้ว” บูซ อัลเลน ระบุในถ้อยแถลง “บูซ อัลเลน เป็นบริษัทเก่าแก่ มีอายุกว่า 102 ปี และคำกล่าวหาเกี่ยวกับความประพฤติดังกล่าวไม่สะท้อนถึงค่านิยมหลักขององค์กรของเรา” ทั้งนี้ ในส่วนของเอ็นเอสเอยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อเรื่องนี้
คำร้องคดีอาญาระบุว่าคณะสืบสวนพบเอกสารข้อมูลและไฟล์ดิจิอลของเอกสารลับสุดยอดในบ้านและรถยนต์ของนายมาร์ติน โดยในนั้นมีอยู่ 6 ไฟล์ที่สำคัญยิ่งต่อประเด็นความมั่นคงแห่งชาติต่างๆ นานา
คณะสืบสวนระบุว่า เบื้องต้นนายมาร์ตินปฏิเสธคำกล่าวหา แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับเอกสารเหล่านั้นเขาก็สารภาพว่าขโมยไฟล์เหล่านั้นมา และยอมรับรู้ดีว่าสิ่งที่ทำลงไปนั้นผิด
ทีมทนายความของมาร์ตินกล่าวในถ้อยแถลงที่เผยแพร่ถึงสื่อมวลชนสหรัฐฯ ว่า “เรายังไม่ได้เห็นหลักฐาน แต่เรารู้ว่านายมาร์ตินรักครอบครัวและประเทศของเขา ไม่มีหลักฐานว่าเขาเจตนาทรยศประเทศตนเอง”
การจับกุมครั้งนี้มีขึ้นหลังจากคณะสืบสวนเริ่มต้นตรวจสอบเหตุขโมยรหัสต้นทาง (source code) ที่ใช้โดยเอ็นเอสเอ สำหรับแฮกระบบคอมพิวเตอร์ของฝ่ายปรปักษ์ อย่างเช่น รัสเซีย จีน อิหร่าน และเกาหลีเหนือ
การเข้าถึงดังกล่าวจะช่วยให้เอ็นเอสเอวางมัลแวร์เข้าไปในระบบของคู่อริ เพื่อสังเกตการณ์หรือแม้แต่โจมตีเครือข่ายของฝ่ายตรงข้าม
นิวยอร์กไทมส์รายงานว่า คณะสืบสวนยังคงมึนงงต่อแรงจูงใจในการก่ออาชญากรรมครั้งนี้ของนายมาร์ติน เนื่องจากดูเหมือนว่ามันจะไม่ใช่คดีจารกรรมข้อมูลเหมือนกับนายสโนว์เดน ที่เป็นอดีตพนักงานสัญญาจ้างของเอ็นเอสเอเช่นกัน ขณะที่นายสโนว์เดน หลบหนีไปลี้ภัยอยู่ในรัสเซีย นับตั้งแต่เปิดโปงเอกสารลับเผยแพร่ให้เห็นขอบเขตการสอดแนมข้อมูลส่วนตัวอย่างกว้างขวางของเอ็นเอสเอ