เอเจนซีส์ - หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ส รายงานเมื่อวานนี้ (1 ต.ค.) พบหลักฐานรายงานการเสียภาษีปี 1995 โดนัลด์ ทรัมป์ ที่ไม่เคยเปิดสู่สาธารณะ ชี้ ทรัมป์ อ้างขาดทุนร่วม 916 ล้านดอลลาร์ และนับตั้งแต่นั้น ตัวแทนผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปีนี้ ไม่เคยต้องจ่ายภาษีให้กับรัฐบาลกลางสหรัฐฯเป็นเวลา 18 ปี
หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ของสหรัฐฯ รายงานวันเสาร์ (1 ต.ค.) ถึงการค้นพบหลักฐานรายงานการเสียภาษีของเจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์อเมริกัน ผู้ที่ปฎิเสธการเปิดเผยรายงานการเสียภาษีของตัวเองมาโดยตลอด โดนัลด์ ทรัมป์ โดยพบว่า รายงานการเสียภาษีปี 1995 โดนัลด์ ทรัมป์ อ้างขาดทุน 916 ล้านดอลลาร์
ซึ่งกลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีสหรัฐฯ ที่ทางสื่ออเมริกันได้จ้างเพื่อทำการวิเคราะห์หลักฐานรายงานการเสียภาษีปี 1995 ของทรัมป์ ได้ชี้ว่า กฎหมายภาษีอเมริกาได้ให้ประโยชน์กับผู้ที่ร่ำรวย เช่น ทรัมป์ ในการใช้ประโยชน์จากการอ้างการขาดทุน 916 ล้านดอลลาร์ ในการเป็นข้ออ้างไม่ต้องชำระภาษีเป็นเวลานาน 18 ปี
และถึงแม้ว่า รายงานการเสียภาษีของทรัมป์ในปีถัด ๆ มา จะไม่ได้รับการเปิดเผย แต่ทว่าทางนิวยอร์กไทม์ส ชี้ว่า ตัวเลขขาดทุนที่สูงถึง 916 ล้านดอลลาร์ ในปี 1995 สูงมากพอที่จะทำให้สามารถลบล้างรายได้ทางภาษีไม่ต่ำกว่า 50 ล้านดอลลาร์ต่อปี ได้นานเป็นเวลา 18 ปี
โดยสื่อสหรัฐฯ ยืนยันว่า ดังนั้น ตัวเลขสีแดง 916 ล้านดอลลาร์ ย่อมที่จะสามารถทำให้ทรัมป์ไม่จำเป็นต้องจ่ายภาษีให้กับรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ซึ่งกำหนดให้เจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์อเมริกันต้องจ่ายในอัตรา 50,000 - 100,000 ดอลลาร์ ของแต่ละตอนของรายการเรียลิตีโชว์ “เดอะ เอพเพรนติซ” (The Apprentice) หรือราว 45 ล้านดอลลาร์ ที่ทาง โดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับในช่วงปี 1995 - 2009 ในขณะที่ทรัมป์ทำหน้าที่เป็นประธาน หรือประธานบริหารบริษัทเทรดดิงที่เขาได้ตั้งขึ้น เพื่ออ้างความเป็นเจ้าของคาซิโนคอมเพล็กซ์ แอตแลนติก ซิตี (Atlantic City) ที่เกิดวิกฤต ในขณะที่นักลงทุนทั่วไปในบริษัทใหม่ของทรัมป์ ต่างเห็นหุ้นของพวกเขาดิ่งเหวจากเดิม 35.50 ดอลลาร์ต่อหุ้น ไปอยู่ที่ 17 เซนต์ต่อหุ้น เท่านั้น รวมไปถึงพนักงานแบบสัญญาคอนแทร็กจำนวนมาก ต้องทำงานให้กับทรัมป์แบบไม่ได้รับค่าตอบแทน ส่วนผู้ถือบอนด์ของกาสิโน ทรัมป์ได้ค่าตอบแทนน้อยมากเทียบกับมูลค่าแท้จริงที่สมควรต้องได้รับ
หนึ่งในผู้เชี่ยวชาญภาษีสหรัฐฯ โจเอล โรเซนเฟลด์ (Joel Rosenfeld) ผู้ช่วยศาสตราจารย์ประจำสถาบันแชค (Schack) ด้านเรียลเอสเตส ของมหาวิทยาลัยแห่งนิวยอร์ก NYU ที่มีชื่อได้ออกมาให้ความเห็นว่า “โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ประโยชน์มหาศาลจากการล้มละลายทางธุรกิจของตัวเอง” ในช่วงต้นยุค 90 และกล่าวต่อว่า “คุณรู้ไหมว่า คุณสามารถมีรายได้จำนวน 916 ล้านดอลลาร์ โดยที่ไม่ต้องเสียภาษีแม้แต่นิเกิลเดียว”
อย่างไรก็ตาม ทางทีมหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯของทรัมป์ ได้ออกแถลงการณ์แก้ตัวในสิ่งที่เกิดขึ้น โดยอ้างว่า “คุณทรัมป์เป็นนักธุรกิจที่มีความรับผิดชอบต่อธุรกิจ ครอบครัว พนักงาน ซึ่งเขาได้จ่ายภาษีไม่เกินตามข้อกฎหมายสหรัฐฯกำหนด” และยังกล่าวต่อว่า “ซึ่งมีการกล่าวว่า คุณทรัมป์ได้จ่ายภาษีจำนวนหลายแสนดอลลาร์ในภาษีโรงเรือนและที่ดิน ภาษีการขาย ภาษีสรรพสามิต ภาษีอสังหาริมทรัพย์ ภาษีเมือง ภาษีรัฐ ภาษีลูกจ้าง และภาษีรัฐบาลกลางสหรัฐฯ”
นอกจากนี้ แถลงการณ์จากทีมหาเสียง ยังกล่าวต่อว่า “คุณทรัมป์เป็นผู้รู้ดีในเรื่องภาษีมากกว่าใครที่ได้เคยลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ และเขายังเป็นคนเดียวที่รู้ว่าจะแก้ไขได้อย่างไร”
อย่างไรก็ตาม บรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีที่ได้ให้คำที่ปรึกษากับหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ส ระบุว่า *** เอกสารรายงานการเสียภาษีปี 1995 ของโดนัลด์ ทรัมป์ นั้น ไม่มีสิ่งใดที่ชี้ว่าทรัมป์ได้กระทำผิด*** ถึงแม้ว่าตัวเลขขาดทุนจำนวนมหาศาลที่ทรัมป์ได้อ้าง จะทำให้เกิดการตรวจสอบอย่างเข้มข้นจากสำนักงานสรรพากรสหรัฐ IRS ก็ตาม
ซึ่งจากข้อกำหนดของ IRS ในปี 1995 ระบุว่า ผู้เสียภาษีอเมริกันสามารถใช้ข้ออ้างการขาดทุนสะสมจากกิจการ (net operating loss) หรือที่รู้จักในนาม N.O.L. มาเพื่อใช้ในการไม่ต้องเสียภาษีรายได้ 3 ปีก่อนหน้านั้น และอีก 15 ปีหลังจากนั้น โดยผู้เชี่ยวชาญทางภาษีได้เปิดเผยกับสื่อสหรัฐฯ ว่า ดังนั้น จำนวนเงิน 916 ล้านดอลลาร์ ที่ทางโดนัลด์ ทรัมป์ อ้าง เป็นตัวเลข N.O.L. ในปี 1995 ที่ทางทรัมป์ได้ประกาศการขาดทุนสะสมจากกิจการในช่วงต้นยุคปี 90 ของเขาเอง
ทั้งนี้ นิวยอร์กไทม์ส ระบุถึงเอกสารรายงานภาษีของทรัมป์ที่ได้รับมานี้ โดยเอกสารจำนวน 3 ชิ้น ถูกส่งตรงมายังสำนักงานหนังสิอพิมพ์นิวยอร์กไทม์ส โดยพบว่า จากแสตมป์ประทับตรา ระบุว่า มาจากเมืองนิวยอร์ก ซิตี และจากที่อยู่ของผู้ส่งบนหน้าซองระบุ “ทรัมป์ ทาวเวอร์” ซึ่งทางสำนักพิมพ์ได้ทำการตรวจสอบเอกสารทั้งหมดกับ แจ็ก มิตนิก (Jack Mitnick) อดีตทนายความ และผู้สอบบัญชีรับอนุญาตที่ได้ช่วยจัดการภาษีของโดนัลด์ ทรัมป์ มานานไม่ต่ำกว่า 30 ปี จนถึงปี 1996 และเขาได้ยืนยันลายเซ็นของตนเองที่อยู่บนเอกสารที่ทางสื่อสหรัฐฯได้มาว่าเป็นของเขาจริง