ผลสำรวจความคิดเห็นล่าสุดโดย “มอร์นิง คอนซัลต์” พบข้อมูลว่า มีกลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งชาวอเมริกัน จำนวน 22 เปอร์เซ็นต์หรือมากกว่า 1 ใน 5 ที่มั่นใจแบบเต็มร้อยว่า นางฮิลลารี คลินตัน จะ “เสียชีวิต” ลงก่อนที่เธอจะอยู่ครบวาระ 4 ปีในฐานะประธานาธิบดีหญิงคนแรกของสหรัฐอเมริกา หลังเกิดอาการ “วูบ” จนกลายเป็นข่าวฮือฮาสั่นสะท้านไปทั่วโลกในสัปดาห์ที่ผ่านมา
ผลสำรวจความคิดเห็นดังกล่าว ซึ่งจัดทำโดยสื่อดิจิตอลดัง ที่ไม่เลือกเอียงข้างอย่างมอร์นิง คอนซัลต์ ซึ่งมีฐานอยู่ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ระบุด้วยว่ามีกลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งชาวอเมริกัน อีกราว 12 เปอร์เซ็นต์ที่ “ไม่มั่นใจ” ว่าฮิลลารี จะมีชีวิตอยู่ยาวนานพอที่จะบริหารประเทศได้ครบวาระ 4 ปี หากตัวแทนหญิงจากพรรคเดโมแครตรายนี้ได้รับการเลือกตั้งให้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนต่อไป
ในอีกด้านหนึ่ง ผลสำรวจความคิดเห็นจากสำนักเดียวกันนี้ยังระบุว่า ผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งชาวอเมริกันแค่ 38 เปอร์เซ็นต์หรือไม่ถึงครึ่งหนึ่ง ที่เชื่อว่า ทิม เคน คู่หูชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีของฮิลลารี คลินตัน “มีความพร้อมเพียงพอ”ที่จะก้าวขึ้นรับตำแหน่งประธานาธิบดีของประเทศ ถ้าหากฮิลลารีเสียชีวิตลงแบบกะทันหัน ขณะที่กลุ่มตัวอย่างจำนวน 31 เปอร์เซ็นต์ลงความเห็นว่า ทิม เคน ยัง“ไม่พร้อม” ที่จะก้าวขึ้นบริหารประเทศแทน หากฮิลลารีถึงแก่ความตาย
ผลสำรวจความคิดเห็นล่าสุด ซึ่งจัดทำขึ้นในระหว่างวันที่ 12 – 13 กันยายนที่ผ่านมา โดยการสอบถามความคิดเห็นของกลุ่มตัวอย่าง ที่เป็นผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งชาวอเมริกันจำนวน 1,501 คน นี้ ถูกจัดทำขึ้นอย่างทันควัน ภายหลังจากที่อดีตสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง-อดีตวุฒิสมาชิกมลรัฐนิวยอร์ก-อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯอย่างฮิลลารี คลินตันในวัย “68 ปี” มีอันต้องงดออกงานกะทันหัน ไม่นานหลังมีคลิปวิดีโอที่ถูกบันทึกไว้ขณะที่เธอเกิดอาการ “วูบ”ยืนทรงตัวไม่อยู่ ขณะกำลังร่วมพิธีรำลึกเหตุโจมตี 9/11 เมื่อวันอาทิตย์ (11 ก.ย.) ที่ผ่านมา
แม้ทีมหาเสียงของฮิลลารีจะอ้างว่า เธอมีอาการ “ปอดบวม” ซึ่งไม่ร้ายแรง แต่นั่นก็ไม่เพียงพอที่จะ “สยบข่าวลือ” เรื่องปัญหาสุขภาพที่รุมเร้าของฮิลลารีในวัย 68 ปี และส่งผลให้เรื่องนี้กลายเป็น “ประเด็นร้อนฉ่า”ทางการเมืองอีกครั้ง ก่อนที่การเลือกตั้งประธานาธิบดีเมืองลุงแซมจะมีขึ้นในอีกไม่ถึง 2 เดือนนับจากนี้
บรรดาผู้ช่วยในทีมหาเสียงของฮิลลารี คลินตัน ต่างดาหน้ากันออกมาแถลงว่า อดีตสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง และอดีตรัฐมนตรีหญิงแห่งกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯผู้นี้ มีอันต้องยกเลิกแผนเดินทางไปยังมลรัฐแคลิฟอร์เนียเพื่อร่วมงานระดม ทุนและงานอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับการหาเสียงทั้งในวันจันทร์ (12) และวันอังคาร (13)
รายงานข่าวระบุว่า ฮิลลารี คลินตัน ในวัย 68 ปี ได้รับการวินิจฉัยว่า ป่วยเป็นโรคปอดบวมตั้งแต่วันศุกร์ ที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา และไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่าเธอจะเกิดอาการวูบ จนเข่าอ่อน และจวนเจียนจะล้มลง ขณะกำลังร่วมพิธีรำลึกเหตุวินาศกรรม 11 กันยายน ปี 2001 บริเวณ “ กราวนด์ ซีโร” ซึ่งเคยเป็นที่ตั้งของตึกแฝดเวิลด์ เทรด เซนเตอร์ในมหานครนิวยอร์ก ในตอนเช้าของวันอาทิตย์ (11) ก่อนที่ทีมงานผู้ช่วยของเธอจะประคองตัวฮิลลารีออกไปจากพิธีแบบทุลักทุเล
ทางด้านลิซา บาร์แด็ค หนึ่งในทีมแพทย์ประจำตัวของฮิลลารี ออกมาแถลงในวันเดียวกันนั้น ว่า อดีตสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง มีอาการไอที่เกิดจากโรคภูมิแพ้ร่วมด้วย และผลการตรวจร่างกายเมื่อวันศุกร์ (9 ก.ย.) ก็ พบว่า เธอมีอาการปอดบวม ส่วนเหตุการณ์วูบออกสื่อแบบไม่คาดฝันที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าวันอาทิตย์ (11 ก.ย.) นั้นถูกระบุว่า มีสาเหตุจากภาวะ “ร่างกายขาดน้ำ”
การวูบออกสื่อแบบไม่คาดฝันครั้งนี้ของฮิลลารี คลินตัน เกิดขึ้นในจังหวะเวลาสำคัญ ในขณะที่กำลังจะมีการโต้วาทีดีเบตใหญ่ครั้งแรกกับ โดนัลด์ ทรัมป์ คู่แข่งชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกัน ในวันที่ 26 ก.ย. ที่จะถึงนี้ ขณะที่การเลือกตั้งผู้นำสหรัฐฯ คราวนี้ถูกกำหนดไว้ในวันที่ 8 พฤศจิกายน
ย้อนกลับไปที่ผลสำรวจความคิดเห็นล่าสุดของมอร์นิง คอนซัลต์ ซึ่งนอกจากจะระบุว่า ผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งในสหรัฐฯจำนวน 22 เปอร์เซ็นต์หรือมากกว่า 1 ใน 5 ที่มั่นใจแบบเต็มร้อยว่า นางฮิลลารี คลินตัน จะ “เสียชีวิต” ลงก่อนที่เธอจะอยู่ครบวาระ 4 ปี หากได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของสหรัฐอเมริกา ผลสำรวจเดียวกันนี้ ยังพบข้อมูลว่า ราว 55 เปอร์เซ็นต์ของกลุ่มตัวอย่าง ที่เป็นผู้มีสิทธิ์ออกเสียง เชื่อว่า ฮิลลารี คลินตัน กำลังปกปิดปัญหาสุขภาพที่แท้จริงและพยายาม “โกหก” ต่อสาธารณชนอเมริกันในประเด็นนี้
ขณะที่ 50 เปอร์เซ็นต์หรือครึ่งหนึ่งของกลุ่มตัวอย่างเชื่อว่า ข้อมูลด้านอาการเจ็บป่วยที่ทีมหาเสียงของฮิลลารี ออกมาแถลงหลังเธอเกิดอาการวูบที่กราวนด์ ซีโร ในนิวยอร์กนั้น ล้วนแล้วแต่เป็น “ข้อมูลเท็จ”
ส่วนอีก 54 เปอร์เซ็นต์ของกลุ่มตัวอย่างที่เข้าร่วมการสำรวจความคิดเห็นคราวนี้ลงความเห็นว่า ฮิลลารี คลินตัน และพรรคเดโมแครต “ไม่โปร่งใส” ในการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพของเธอ
ก่อนหน้านี้ เป็นที่ทราบกันดีว่า ฮิลลารี คลินตันเคยตกเป็นข่าวว่า มีปัญหาด้านสุขภาพมาแล้วหลายครั้งหลายหน โดยเฉพาะเมื่อช่วงเดือนธันวาคมปี 2012 ที่เธอมีอาการสั่นอย่างรุนแรง และแพทย์ตรวจพบการอุดตันของเส้นโลหิตในสมอง และมีอาการมองเห็นภาพซ้อน ยังไม่นับรวมกับข่าวเกี่ยวกับปัญหาการเจ็บป่วยของฮิลลารีที่เป็นภาวะสืบเนื่องจากการทำงานหนักของ “ต่อมไทรอยด์” และอาการ “แพ้เกสรดอกไม้”
ข่าวอาการป่วยครั้งล่าสุดยังถือเป็นข่าวร้ายซ้ำเติมฮิลลารี คลินตัน หลังจากที่เธอถูกกระหน่ำโจมตีแบบเละเทะบนโลกออนไลน์ เมื่อวันเสาร์ (10 ก.ย.) หลังจากเธอพลั้งปากวิจารณ์ว่า ผู้สนับสนุนของโดนัลด์ ทรัมป์ราวครึ่งหนึ่ง เป็นกลุ่มคนที่ “น่าสังเวช” แม้เธอจะออกมาแสดงความเสียใจกับถ้อยคำดังกล่าวในเวลาต่อมา แต่นั่นก็ไม่ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้นสักเท่าใด
นับจากนี้ คงต้องติดตามกันต่อไปว่า ปัญหาด้านสุขภาพของฮิลลารี คลินตันจะส่งผลกระทบมากน้อยเพียงใดต่อการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯในปี 2016 นี้ และจะกลายเป็นอุปสรรคในการบริหารประเทศหรือไม่ หากเธอได้รับเลือกให้ก้าวเข้าสู่ทำเนียบขาวในวันที่ 8 พฤศจิกายนนี้ ในฐานะประธานาธิบดีหญิงคนแรกของอเมริกา